xs
xsm
sm
md
lg

"ดร.อานนท์" แนะส้มควรภาคภูมิใจอาชีพ "Sex Worker" อย่าย้อนแย้งหลัง "ไอซ์ รักชนก" โดนขุดประวัติ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"ดร.อานนท์" โพสต์หนุนนโยบายพรรคส้ม "Sex Worker" ควรถูกกฎหมาย แนะเริ่มต้นนักการเมืองที่สนับสนุนอาชีพนี้ต้องเปลี่ยนทัศนคติก่อน ควรภาคภูมิใจอย่างแท้จริงจะได้ไม่ย้อนแย้งกับสิ่งที่พูด หลังพากันเดือดดาล ปม "ไอซ์ รักชนก" ถูกขุดคุ้ยประวัติ

จากกรณี รศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กบัญชี "Arnond Sakworawich" ถึงประวัติบุคคลรายหนึ่ง ว่า ... ไปสืบประวัติมาแล้วเป็นจริงตามที่คิด พ่อเธอเป็นใครไม่รู้ แนวนักเที่ยวกลางคืนหรือแมงดาคุมซ่อง แม่เธอน่าจะเป็น sex worker เธอเกิดมาในซ่อง แต่แม่เธอไม่เลี้ยง

มีคนเก็บเธอมาเลี้ยง ไม่ใช่เพราะรัก แต่เพราะถูกหวย เธอจึงเหมือนตัวนำโชคเลยเก็บมาเลี้ยง ไม่ได้เก็บมาเลี้ยงเพราะรัก เธอโตมาในสลัม ปากกัดตีนถีบ ขาดความรักความอบอุ่น ขาดการอบรมสั่งสอนจริงๆ ครับ เป็นชีวิตที่ขาดอย่างยิ่ง น่าเวทนาและน่าสงสารมากครับ

ในฐานะเพื่อนมนุษย์ เราควรมีความปรารถนาดีต่อเธอ แม้เธอจะไม่น่ารักเลยก็ตาม ควรตั้งจิตอธิษฐานภาวนาให้เธอได้พบคนจิตใจดี มีความรักความอบอุ่นล้นเหลือเผื่อแผ่ในคนอื่นๆ รวมทั้งเธอได้ เพื่อให้เธอได้มีโอกาสในชีวิต ในการยกระดับจิตใจและนิสัยใจคอครับ"


ล่าสุดวันที่ 29 ธ.ค. 2568 น.ส.รักชนก ศรีนอก หรือไอซ์ อดีต ส.ส.กทม.พรรคประชาชน ได้โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กตอบโต้ รศ.ดร.อานนท์ ว่า...

“นี่คือสิ่งที่ต้องเจอทุกวันๆ ตั้งแต่เป็นนักการเมือง อย่างเบาหน่อย ก็ด่าว่าเป็นสก๊อย เด็กไม่มีพ่อไม่มีแม่ บ้างก็กล่าวหาว่าเป็นกะหรี่ เป็นเด็กเสี่ย หรือเป็นเมียน้อยใครสักคน มีการเอารูปไปตัดต่อให้เสื่อมเสียพร้อมคำเหยียดหยามสาระพัด ใช้ AI ทำเป็นคลิปอนาจาร สร้างข่าวปลอมมาใส่ร้ายป้ายสีทุกวัน หนักขึ้นมาหน่อยก็โดนฟ้อง ฟ้องปิดปาก ถูกขู่ ถูกคุกคาม ถูก sexual harassment ทั้งท่าทีและคำพูด และไม่นานมานี้ก็ถึงขั้นถึงตัวทำร้ายร่างกาย ล่าสุดลามไปกล่าวหาบุคคลอื่นๆในครอบครัว ไม่เข้าใจว่าคุณมีสิทธิ์มากล่าวหาพ่อแม่คนอื่นได้เป็นเรื่องราวขนาดนี้ได้ยังไง

ทุกคนได้อ่านข้อความนี้แล้วทุกคนรู้สึกยังไงบ้างคะ?

สิ่งที่เราคิดคือทำไมกลุ่มคนที่เรียกตัวเองว่ากลุ่มคนรักสถาบัน ถึงได้กล้าพฤติกรรมที่น่ารังเกียจทุกรูปแบบกับคนอื่นโดยอ้างความจงรักภักดี คุณจะไม่ชอบนักการเมืองคนไหน การวิพากษ์วิจารณ์ด่าทอทำได้เต็มที่กับบุคคลนั้นๆ แต่ถึงขึ้นกล่าวหาพ่อ แม่คนอื่นด้วยถ้อยคำเหยียดหยามลดทอนคุณค่าแบบนี้ ตัวดิฉันเองที่เติบโตมาในสังคมที่แย่มากๆ ไม่ได้รับการอบรมสั่งสอน อย่างที่ผู้โพสต์กล่าวหายังไม่คิดทำอะไรแบบนี้กับพ่อแม่ใครเลย ดิฉันสนับสนุนหลักการ เรื่อง free speech เสมอมา แต่อันนี้มันเข้าข่ายเป็น hate speech ทำไมคนที่แอบอ้างตัวเองว่ารักสถาบันกว่าใครและต้องการปกป้องสถาบัน ถึงเลือกใช้วิธีลดทอนคุณค่าความเป็นมนุษย์ของคนที่เห็นต่าง แทนที่จะถกเถียงกันด้วยวิธีอย่างคนที่ได้รับการอบรมมาบ้างแล้วใช่กัน เถียงด้วยเห็นผลหักล้างกันด้วยตรรกะ

สุดท้ายดิฉันมีกลุ่มคนที่อยากสื่อสารด้วย อยู่ 3 กลุ่ม

1) ผู้บริหาร สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ - NIDA

ที่ผ่านมาดิฉันเข้าใจดี ว่าสถาบันเป็นกลางทางการเมือง และไม่ได้ห้ามให้บุคลากรของสถาบันแสดงความเห็นต่างๆ ทางการเมืองในช่องทางต่างๆ และสื่อสาธารณะซึ่งเป็นเรื่องน่ายกย่อง

แต่อยากถามว่าสถาบัน NIDA มีจุดยืนอย่างไรกับการลดทอนคุณค่าความเป็นมนุษย์ หรือการนำเอาทรอมา หรือเรื่องราวในบางชีวิตของบุคคลอื่นซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ไม่ได้ผ่านมากันอย่างง่ายๆ มาพูดในเชิงด้อยค่า สถาบัน NIDA สนับสนุนพฤติกรรมที่เป็นภัยคุกคามสังคมเช่นนี้หรือไม่ และสนับสนุนให้บุคลากรในสถาบันทำพฤติกรรมเช่นนี้ได้หรือไม่

2) ศิษย์เก่า และศิษย์ปัจจุบัน สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ - NIDA

ดิฉันมีความเคารพทุกความเห็นทางการเมือง ท่านจะเป็นอนุรักษนิยมหรือเสรีนิยม จะสนับสนุนหรือไม่สนับสนุนดิฉันก็เคารพทุกความหลากหลาย การวิพากษ์วิจารณ์กันที่ผ่านมาไม่ว่าจะด้วยความสุภาพหรือใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดิฉันก็ไม่เคยคิดจะฟ้องร้อง เพราะการเสนอตัวมาเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมันต้องโดนมากกว่าคนปกติเป็นธรรมดา แต่ศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันของสถาบัน NIDA ท่านมีความเห็นอย่างไร ที่มีบุคลากรของสถาบันอันทรงเกียรติ แสดงมีทัศนคติเช่นนี้ ซึ่งสถาบันนิ่งเฉยกับ hate speech และการด้อยค่าเพื่อนมนุษย์ ซึ่งไม่ใช่ครั้งแรก

3) คนที่เกิดมาไม่พร้อม ไม่ว่าจะด้านไหนในชีวิตก็ตาม (เหมือนเรา)

คนเราเลือกเกิดไม่ได้ ถ้าเลือกได้เราทุกคนคงอยากเกิดมาในครอบครัวที่พร้อมทุกด้านและอบอุ่น ใครๆ ก็อยากมีครอบครัวอยู่ในชุมชนที่ไม่มีการใช้ความรุนแรง ไม่มีปัญหาสังคม เด็กๆ ได้ไปโรงเรียนดีๆ ก็คงไม่มีใครอยากเกิดมาพบเจอกับประสบการณ์วัยเด็กแย่ๆ คำดูถูกดูแคลน คำเหยียดหยาม เพื่อนๆที่โดนอะไรที่แย่กว่าตัวเราแต่เราไม่มีพลังความสามารถอะไรจะช่วยเหลือเค้าได้

ไม่มีใครผิดที่เกิดมาในครอบครัวที่ไม่ดีพร้อม ชาติกำเนิดอยู่ในสลัม เติบโตท่ามกลางปัญหาสังคม กว่าจะรอดได้แต่ละวันโคตรยากลำบาก คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เราเลือกได้ว่าจะส่งต่อสังคมแบบไหนให้คนรุ่นถัดไป เราเลือกได้ว่าจะส่งต่อทัศนคติค่านิยมที่ตัดสินคนจากชาติกำเนิด ส่งต่อคำดูถูกเหยียดหยามให้กับเด็กๆที่เป็นกำพร้าหรือเด็กๆ ที่พ่อแม่มีปัญหาชีวิตรุมเร้าแล้วก็ต้องรับส่งต่อปัญหามาด้วยอย่างเลี่ยงไม่ได้ ทั้งๆ ที่เด็กๆ ไม่ได้เลือก

คนเรามีข้อจำกัดในชีวิตที่แตกต่างกัน ถูกหล่อหลอมมาไม่เหมือนกัน แน่นอนคนที่เกิดในครอบครัวอบอุ่น กินอิ่มนอนหลับทุกวัน มีคนที่รักอยู่ใกล้ๆในช่วงเวลายากลำบาก อาจจะไม่เข้าใจเด็กๆ ที่ต้องเติบโตในชุมชนแออัดที่มองไปทางไหนก็มีแต่ปัญหาสังคมเต็มไปหมด แต่ถึงไม่เข้าใจ ก็ไม่ดูถูกดูแคลนกันได้ไหม คุณด่าคนคนหนึ่งเพราะอยากให้คนๆนั้นเจ็บปวด แค่คนที่เจอกับบทบริบทที่เลือกไม่ได้มันมีอีกจำนวนมหาศาล มองไม่เห็นปัญหาในสังคมไม่เป็นไร แต่อย่าทำตัวเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา สังคมจะน่าอยู่ขึ้นอีกมากค่ะ

ส่งกำลังใจให้คนที่เจอบริบทในชีวิตคล้ายๆ กันเวลาอ่านอะไรทำนองนี้แล้วรู้สึกทริกเกอร์ในใจ ก็ให้นึกว่า ชีวิตกากๆ อย่างเรายังอยู่มาจนมีวันนี้ได้ ใครๆ ก็ทำได้ทั้งนั้น มีแค่ตอนเกิดที่เลือกไม่ได้แต่หลังจากนั้นเรากำหนดเอง

ปล. เรื่องนี้แม้จะไม่เอ่ยอ้างชื่อดิฉันสักคำ แต่คนอ่านแทบทุกคนก็รู้ดีว่าหมายถึงใคร ดูได้จากคอมเม้นทุกคนก็เข้าใจตรงกัน การกระทำเช่นนี้อาจจะหลีกหนีกฎหมายไปได้ ไอซ์ไม่ได้มีทัศนคติไม่ได้กับอาชีพ sex worker แต่เพื่อความเป็นธรรมกับพ่อและแม่ ไอซ์ขอยืนยันว่าเค้าไม่ได้ทำอาชีพอะไรแบบที่บุคคลคนนี้กล่าวหา คนที่กระทำตัวเช่นนี้แล้วมักอวดอ้างว่าทำเพื่อปกป้องสถาบัน เคยถอดบทเรียนบ้างไหมว่าพฤติกรรมเช่นนี้มันส่งผลดีอย่างไรกับสิ่งที่คุณรักและหวงแหนบ้างไหม”


หลังจากนั้น รศ.ดร.อานนท์ก็ได้โพสต์อีกว่า ... Sex Worker เป็นอาชีพเก่าแก่สุดในโลก ต้องทำให้ถูกกฎหมาย มีเกียรติ เป็นอาชีพสุจริต มารดา ภรรยา น้องสาว บิดา สามี น้องชาย ลูกชายใครทำอาชีพนี้ควรภาคภูมิใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีพรรคการเมืองที่สนับสนุนอาชีพนี้แล้ว จงภูมิใจเถิด จะได้ไม่ย้อนแย้งในตนเองที่มาสนับสนุนครับ นี่คือนโยบายสาธารณะที่พรรคสนับสนุน ย่อมเป็นสิ่งดี น่าภาคภูมิใจครับ ถ้าจะสนับสนุนต้องเริ่มต้นด้วยการยอมรับอย่างภาคภูมิอย่างแท้จริงครับ ต้องเปลี่ยนทัศนคติของนักการเมืองที่สนับสนุนอาชีพนี้ก่อน ค่อยเปลี่ยนกฎหมาย

ผมสนับสนุนนโยบายสาธารณะที่พรรคการเมืองนี้เคยใช้หาเสียง แม้พรรคจะถูกยุบและเปลี่ยนชื่อไปกี่ครั้งก็ตาม เพราะนี้คือสิทธิเสรีภาพของประชาธิปไตยแห่งร่างกายและอวัยวะทุกส่วน


กำลังโหลดความคิดเห็น