ทบ.โต้กัมพูชา ยืนยันทุ่นระเบิดที่ช่องบกไม่ใช่ของไทย ซัดฝ่ายเขมรบิดเบือน เอาภาพฝึกกู้ทุ่นระเบิดของ T-MAC มากล่าวหาว่าไทยกำลังวางทุ่นระเบิด ขณะที่คำแถลงของฝ่ายกัมพูชาขัดแย้งกันเอง แสดงให้เห็นว่าพยายามบิดเบือนจนต้องออกมาแก้ข่าวกันเอง
วันนี้ (20 ก.ค. 68) พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องต่อสาธารณชน จากกรณีที่นายแฮง รัตนา ผู้อำนวยการสำนักงานปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติกัมพูชา (CMAA) ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน โดยกล่าวหาว่าทหารไทยเป็นผู้ฝังกับระเบิดใหม่บริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมอ้างว่ามีภาพถ่ายและคลิปวิดีโอที่บ่งชี้พฤติกรรมดังกล่าว โดยมีข้อเท็จจริง ดังนี้
1. ทุ่นระเบิดที่ตรวจพบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบกและพื้นที่อื่นๆ เป็นระเบิดชนิด PMN-2 ซึ่งเป็นระเบิดสังหารบุคคล ผลิตจากประเทศรัสเซีย โดยกองทัพบกไทยไม่มีระเบิดชนิดนี้อยู่ในครอบครอง ไม่เคยมีอยู่ในสารบบ การจัดหาเข้ามาใช้ในหน่วยทหารของกองทัพไทย และไม่เคยมีการนำมาใช้ในการปฏิบัติงานในทุกพื้นที่แนวชายแดนแต่อย่างใด
2. ภาพถ่ายและคลิปวิดีโอที่เผยแพร่โดยสื่อ Fresh News ของกัมพูชา ซึ่งถูกนำเสนอว่าเป็นหลักฐานการวางระเบิดของทหารไทยนั้น ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นภาพจากภารกิจของศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม (T-MAC) ในช่วงการฝึกเก็บกู้ หรือช่วงเวลาพักของกำลังพล ไม่ใช่การวางกับระเบิดแต่อย่างใด การนำเสนอข้อมูลในลักษณะดังกล่าวถือเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง และสร้างความเสียหายต่อประเทศไทยอย่างร้ายแรง
3. การที่นายแฮง รัตนา กล่าวว่าทุ่นระเบิดอยู่ในเขตไทย ฝ่ายไทยต้องรับผิดชอบ พร้อมอ้างมาตรา 5 ของอนุสัญญาออตตาวา (Ottawa Treaty) ซึ่งระบุว่า “เจ้าของอธิปไตยเหนือดินแดนต้องเป็นผู้รับผิดชอบ” นั้น ยิ่งสะท้อนว่าทุ่นระเบิดที่พบอยู่ในเขตอธิปไตยของไทย และแสดงถึงการรุกล้ำเข้ามาในเขตแดนไทย ด้วยวิธีการแอบลักลอบข้ามแดนเข้ามาวางทุ่นระเบิดเอาไว้
นอกจากนี้ ยังขัดแย้งกับการให้ข่าวของทางการกัมพูชาเอง โดยวันนี้ (20 ก.ค. 68) พลโทหญิง มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ได้แถลงผ่านเพจเฟซบุ๊กกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ระบุว่า ทหารไทยเหยียบกับระเบิดที่บ้านเตโชรโกฏ ตำบลมรกต อำเภอจอมกสาน จังหวัดพระวิหาร ซึ่งกรณีการออกมาให้ข่าวย้อนแย้งกันเองของฝ่ายกัมพูชา ในประเด็นที่นายแฮง รัตนา กล่าวว่าทุ่นระเบิดอยู่ในเขตไทย ฝ่ายไทยต้องรับผิดชอบ แสดงให้เห็นถึงความผิดพลาดในการพยายามบิดเบือนข่าวสารจนต้องออกมาแก้ข่าวกันเอง
กองทัพบกขอยืนยันว่าประเทศไทยและกองทัพไทยปฏิบัติตามพันธกรณีตามกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด พร้อมเรียกร้องให้ฝ่ายกัมพูชายุติการเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และสร้างความเข้าใจผิดในระดับนานาชาติ