ศบ.ทก.เรียกถกด่วนพรุ่งนี้ (20 ก.ค.) บ่าย 2 โมง หารือกระทรวงการต่างประเทศนำหลักฐานฟ้องยูเอ็น กรณีกัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวา ลักลอบวางทุ่นระเบิดที่ช่องบก หากกัมพูชาปฏิเสธต้องหาหลักฐานมาหักล้าง พร้อมส่งทหารช่างปูพรมเก็บกู้วัตถุระเบิดออกจากพื้นที่อธิปไตยไทย
วันนี้(19 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ณัฐพล นาค พาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) เตรียมนัด ศบ.ทก.ประชุมในวันอาทิตย์ที่ 20 ก.ค.นี้ เวลา 14.00 น. เพื่อกำหนดแนวทางการดำเนินการกรณีกำลังพลจากหน่วยร้อย ร.6021 ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนรักษาความสงบในพื้นที่ช่องบกและประสบเหตุเหยียบกับระเบิด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ซึ่งจากหลักฐานพลว่าเป็นการวางกับระเบิดใหม่
เบื้องต้น พล.อ.ณัฐพล ได้สั่งการกองทัพภาคที่ 2 เก็บข้อมูลหลักฐานทั้งหมด พร้อมให้แถลงข่าว และรายงานผลเป็นลายลักษณ์อักษรมาให้ทราบ เนื่องจากต้องเก็บทุกอย่างเป็นหลักฐาน เพื่อส่งให้กระทรวงการต่างประเทศต่อไป
ในวันพรุ่งนี้(20 ก.ค.)จะมีกระทรวงการต่างประเทศเข้ามาร่วมประชุม ศบ.ทก.ด้วย เพื่อมาให้คำแนะนำว่าขั้นตอนต่อไป ในการดำเนินการควรจะทำอย่างไร รวมถึงตรวจสอบข้อมูลหลักฐานของแต่ละฝ่ายว่าตรงกันหรือไม่ เมื่อได้ข้อสรุปแล้วจะแถลงเป็นทางการ ในการประชุม ศบ.ทก.วันที่ 21 ก.ค.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แนวทางปฏิบัตินำข้อมูลและหลักฐานฟ้องต่อสหประชาชาติว่ากัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวา และหากกัมพูชาปฏิเสธ ก็ต้องหาหลักฐานมาหักล้างข้อมูลของฝ่ายไทย ในขณะเดียวกันทางการไทยจะส่งทหารช่างเข้าไปเก็บกู้วัตถุระเบิดในพื้นที่อธิปไตยของไทยที่ช่องบก
“ปัจจุบัน ศบ.ทก.อยู่ระหว่างให้กองทัพและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวบรวมข้อมูลหลักฐาน ซึ่งต้องอาศัยความรัดกุม รอบคอบ รวมถึงศึกษาขั้นตอนการดำเนินการ ให้ละเอียด อยากให้ประชาชนใจเย็นเนื่องจากหน่วยงานราชการออกข้อมูลอะไรมาต้องอาศัยหลักฐานที่ชัดเจนถูกต้อง” แหล่งข่าวความมั่นคงระบุ
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผย ว่า พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ ได้เรียกประชุมคณะกรรมการ ศบ.ทก.ในวันอาทิตย์ที่ 20 กรกฎาคม เวลา 14.00 น. โดยจะเป็นการกำหนดแนวทาง กรณีกำลังพล ทภ.2 จังหวัดอุบลราชธานี ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนรักษาความสงบในพื้นที่ช่องบกและเหยียบกับระเบิดทำให้ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย
ทั้งนี้ ได้สั่งการให้ ทภ. 2 เก็บข้อมูลหลักฐาน และผลการพิสูจน์ ทั้งหมดรายงานผลเป็นลายลักษณ์อักษรให้ ศบ.ทก.ทราบ
การประชุมจะมีกระทรวงการต่างประเทศ และฝ่ายความมั่นคงที่เป็นคณะกรรมการ ของ ศบ.ทก.เข้าร่วม เพื่อหารือถึงผลการพิสูจน์กับระเบิดและการกำหนดท่าทีที่จะดำเนินการต่อไป