xs
xsm
sm
md
lg

"ฉัตริน"ซัด รบ.มัวแต่เซ็น MOU ไม่เห็นผลงานปราบสแกมเมอร์เป็นชิ้นเป็นอัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายฉัตริน จันทร์หอม อดีตรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง (ประจำรองนายกรัฐมนตรี ประเสริฐ จันทรรวงทอง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม) กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลออกมาประกาศจับสแกมเมอร์ได้ 35,000 ล้านบาทแล้วเหน็บว่าทำได้ดีกว่ารัฐบาลที่แล้วมาก แต่ตัวเลข 14,500 ล้านต่อปีที่รัฐบาลเพื่อไทยเคยทำไว้ คือ “มูลค่าความเสียหายที่ลดลง” ไม่ใช่แค่เอา “ยอดเงินหมุนในบัญชีม้า” มานับโชว์ให้ดูเท่ๆ ซึ่งถ้าอยากเทียบต้องเทียบให้ถูก โดยเทียบที่ “ความเสียหายของประชาชน” ไม่ใช่ยอดตัวเลขลอย ๆ

"ถามง่าย ๆ ครับ ช่วงไหนที่คุณได้รับ SMS หลอก หรือสายจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ “น้อยที่สุด”? ก่อนรัฐบาลเพื่อไทย? ระหว่างรัฐบาลเพื่อไทย? หรือหลังจากนั้น? คำตอบชัดอยู่แล้วครับ" นายฉัตริน กล่าว

นายฉัตริน กล่าวว่า เมื่อพอเรื่องนี้เป็นกระแส รัฐบาลก็ออกมาขึงขัง มีการเซ็น MOU อย่างยิ่งใหญ่ และพรุ่งนี้ก็จะบินไปแม่สอดเพื่อส่งคนอินเดียที่ลักลอบเข้าเมืองกลับประเทศ ซึ่งถ้าท่านไม่บินไป เขาก็กลับเองได้ ซึ่งเชื่อว่า รัฐบาลนี้ถนัดเซ็น MOU และ MOA มาก แต่ “ผลงานจริง” ยังไม่เห็น ที่เห็นสานต่อสิ่งที่รัฐบาลที่แล้วทำมาก็คือการประชุมตำรวจอาเซียนเพื่อผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการปราบสแกมเมอร์ของภูมิภาค

นายฉัตริน กล่าวต่อไปว่า SMS สแกมเมอร์ ได้หมดไประยะหนึ่งแล้ง ตั้งแต่นายประเสริฐ สั่งให้มีการทำ SMS Cleansing ลงทะเบียน Sender Name ใหม่ทั้งระบบ และผู้ส่ง SMS แบบแนบลิงก์ จะต้องเป็นผู้ลงทะเบียนกับผู้ให้บริการเครือข่ายทุกครั้ง และต้องมีการตรวจสอบทุกข้อความที่มีลิงก์ก่อนส่ง ซึ่งเรื่องนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ต้องเรียกผู้ให้บริการเครือข่ายเข้ามาคุยว่า มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมมันถึงกลับมาอีก แทนที่มัวแต่จะไปเซ็น MOU อยู่

นายฉัตริน ระบุว่า ปัจจุบันมีคนถูกหลอกรายวันเพิ่มขึ้น และสแกมเมอร์ที่เสนอเงิน 40 ล้านให้นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ยังไม่ถูกดำเนินคดีใด ๆ ทั้ง ๆ ที่เกินเส้นตายมานานแล้ว อีกทั้ง ยังไม่มีการยึดทรัพย์ และดำเนินคดีกับเครือข่ายสแกมเมอร์ ที่ทั้งสหรัฐอเมริกา อังกฤษ สิงคโปร์ ฮ่องกง ไต้หวัน หรือแม้แต่กัมพูชาเองก็ดำเนินการไปแล้ว จนทำให้ไทยที่เคยเป็นพี่ใหญ่เรื่องนี้ กลายเป็นตัวตลกในสายตาโลก และยังชักช้ากับการออกกฎหมายลูก และไม่บังคับใช้พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ที่รัฐบาลเพื่อไทยทำใส่พานไว้ให้แล้ว เพื่อที่จะนำเงินมาคืนผู้ที่เป็นเหยื่อสแกมเมอร์ ดังนั้น รัฐบาล จึงอย่าเพิ่งรีบอวดผลงาน เพราะยังมีผู้เสียหายอยู่ทุกวัน