เสียงวิพากษ์วิจารณ์ พฤติกรรมที่ไม่โปร่งใสของผู้สอบบัญชีหรือบริษัทตรวจสอบบัญชี ซึ่งรู้เห็นเป็นใจกับผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน ในการแต่งบัญชีหรือปกปิดข้อมูลในงบการเงินดังมาตลอด แต่การลงโทษผู้สอบบัญชีหรือบริษัทตรวจสอบบัญชีที่กระทำความผิดต่อวิชาชีพเกิดขึ้นน้อยมาก
ล่าสุดเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ประกาศสั่งพักการให้ความเห็นชอบการเป็นผู้สอบบัญชีในตลาดทุนของนางสาวลักษมี ดีตระกูลวัฒนผล สังกัด บริษัท แกรนท์ ธอนตัน จำกัด และกำหนดระยะเวลารับพิจารณาคำขอความเห็นชอบครั้งต่อไป เมื่อพ้นระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันที่ 10 ธันวาคม 2568 เนื่องจากปฏิบัติงานไม่เป็นไปตามมาตรฐานการสอบบัญชี
การสั่งลงโทษผู้สอบบัญชีบริษัท แกรนท์ ธอนตัน เป็นข่าวที่รับความสนใจอย่างมากจากคนในแวดวงตลาดหุ้น เพราะนานทีจึงจะเห็นผู้สอบบัญชีถูกลงโทษ แต่โทษที่ได้รับกลับเบาหวิว ถูกพักการเป็นผู้สอบบัญชีเพียง 1 ปี ไม่สาสมกับความผิดที่ก่อขึ้น
นางสาวลักษมี เป็นผู้สอบบัญชีของ บริษัท กรีนเทค เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ GTV และบริษัทย่อย สำหรับงวดปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2567 และ บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด สำหรับงวดปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2565 ซึ่ง ก.ล.ต.ได้ตรวจทานกระดาษทำการของนางสาวลักษมี และบริษัทย่อย สำหรับงวดปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2567 และพบข้อบกพร่องในการปฏิบัติงานสอบบัญชีที่สำคัญ
ประกอบด้วย การประเมินการด้อยค่าของค่าความนิยม การตรวจสอบบัญชีส่วนแบ่งขาดทุนจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและการร่วมค้า ซึ่งยังไม่ได้ผ่านการตรวจสอบโดยผู้สอบบัญชี การประเมินความเสี่ยงจากการแสดงข้อมูลที่ขัดต่อข้อเท็จจริง อันเป็นผลมาจากการทุจริต การตรวจสอบบัญชีหนี้สินตามสัญญาเช่าที่ครบกำหนดชำระภายในหนึ่งปี และดอกเบี้ยจ่ายจากหนี้สินตามสัญญาเช่า
และการตรวจสอบบัญชีเงินให้กู้ระยะยาวแก่กิจการอื่นที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปีและดอกเบี้ยรับจากเงินให้กู้ระยะยาว
นอกจากนี้ ก.ล.ต. พบประเด็นข้อบกพร่องที่สำคัญจากการปฏิบัติงานของนางสาวลักษมี สำหรับการตรวจสอบงบการเงินของ บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด งวดปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2565 ในเรื่องการตรวจสอบรายการจ่ายโดยใช้หุ้นเป็นเกณฑ์ ซึ่งผลกระทบมีสาระสำคัญต่องบการเงินงวดปี 2565
สำหรับบริษัท กรีนเทค เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย ก.ล.ต. อยู่ระหว่างพิจารณาผลกระทบที่อาจมีต่องบการเงินและจะดำเนินการตามควรแก่กรณีต่อไป ส่วนงบการเงินของ บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด ผลกระทบของรายการได้ถูกปรับปรุงย้อนหลังในงบการเงินงวดปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2567 แล้ว
การละเว้นปฏิบัติหน้าที่ผู้สอบบัญชีที่ดี ไม่ยึดมั่นในจริยธรรมจรรยาบรรณในวิชาชีพ ไม่สอบบัญชีอย่างตรงไปตรงมาหรือเอื้อประโยชน์กับผู้บริหารจดทะเบียน ทำให้งบการเงินบริษัทจดทะเบียนมีข้อมูลที่ผิดจากข้อเท็จจริง ทำให้ประชาชนผู้ลงทุนในตลาดหุ้นได้รับข้อมูลผิด ๆ ถือเป็นพฤติกรรมที่สร้างความเสียหายร้ายแรง
เพราะเมื่อมีการปกปิดข้อมูลที่เป็นลบในงบการเงิน จะทำให้นักลงทุนสำคัญผิดในสาระการดำเนินงาน จนนำไปสู่การตัดสินใจลงทุนในหุ้นบริษัทจดทะเบียนที่ผิดพลาด และเกิดความเสียหายตามมา
ไม่รู้ว่า ผู้สอบบัญชี “แกรนท์ ธอนตัด”สมคบคิดกับผู้บริหาร GTV จงใจแต่งบัญชีงบการเงินหรือไม่ แต่ความเสียหายร้ายแรงได้เกิดขึ้นแล้ว ซึ่ง ก.ล.ต.ควรลงโทษนางสาวลักษมีให้หนัก พักการเป็นผู้สอบบัญชีอย่างน้อย 5 ปี
และบริษัท แกรนท์ ธอนตัน ซึ่งศาลล้มละลายกลางเพิ่งสั่งให้เป็นผู้จัดทำแผนฟื้นฟูกิจการบริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN ควรไล่นางสาวลักษมีออก เพื่อรักษาภาพพจน์ขององค์กร
GTV เป็นหุ้นขนาดเล็ก ปัจจุบันตกอยู่ในสภาพหุ้นตายซาก แทบไม่มีมูลค่าการซื้อขาย และผลประกอบการขาดทุนต่อเนื่อง บางปีขาดทุนกว่า 1 พันล้านบาท แต่ล่าสุดงวด 9 เดือนแรกปีนี้กลับมามีกำไรสุทธิ 17.56 ล้านบาท ซึ่งจะต้องแกละงบดูอย่างละเอียดอีกครั้งว่า ข้อมูลผลประกอบการน่าเชื่อถือขนาดไหน
ปัญหาของหุ้น GTV มีนักลงทุนรายย่อย หลงตกเข้าไปเป็นเหยื่อจำนวนมาก โดยจำนวนผู้ถือหุ้นรายย่อยมีทั้งสิ้น 20,163 ราย ซึ่งทั้งหมดน่าจะติดหุ้นต้นทุนสูง และจำทนต้องถือหุ้นมายาวนานหลายปี โดยราคาหุ้นล่าสุดลงมาเหลือเพียง 4 สตางค์
ผู้สอบบัญชี “แกรนท์ ธอนตัน” อาจจะจบแล้ว เมื่อถูก ก.ล.ต.สั่งลงโทษ แม้จะได้รับโทษเบาหวิวก็ตาม
แต่สำหรับผู้บริหาร GTV เบาะแสจากงบการเงินปี 2567 ที่บิดเบี้ยว กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ก.ล.ต.จะนำสืบ แกละรอยผู้บริหารบริษัท ฯ ว่า สมคบคิดแต่งบัญชีงบการเงิน และมีการทุจริตโกงผู้ถือหุ้นหรือไม่
หุ้น GTV อยู่ในข่าย หุ้นตัวเล็กตัวร้ายที่ทำให้นักลงทุนรายย่อยตายกันเป็นเบือ แต่ผู้บริหารบริษัทฯจะลอยนวล โดยไม่มีใครต้องรับกรรมกันบ้างหรือ


