xs
xsm
sm
md
lg

OpenAI จับมือ Microsoft ปรับโครงสร้างใหม่ สู่บริษัทเพื่อสาธารณะ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



OpenAI เซ็น MOU กับ Microsoft เตรียมพลิกโฉมโครงสร้างธุรกิจจากแขนทำกำไรเป็น Public Benefit Corporation ควบคุมโดยองค์กรไม่แสวงกำไร ขยับฐานมูลค่าทะลุ 300,000 ล้านดอลลาร์ สะท้อนความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของโลก AI

หลังจากก่อตั้งมาในฐานะองค์กรไม่แสวงหากำไร OpenAI กำลังเดินหน้ารีแบรนด์โครงสร้างธุรกิจครั้งสำคัญ โดยล่าสุดได้ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) แบบไม่ผูกพันกับ Microsoft นักลงทุนรายใหญ่ที่สุดของบริษัท เพื่อปรับโครงสร้างให้แขนทำกำไร (for-profit arm) เปลี่ยนสถานะเป็น Public Benefit Corporation (PBC) ขณะที่องค์กรแม่ยังคงเป็น non-profit ที่มีสิทธิ์ควบคุมทั้งหมด

จาก nonprofit สู่โครงสร้างพันล้าน

ข้อตกลงนี้ระบุว่า non-profit ของ OpenAI จะถือหุ้นใน PBC มูลค่าเกินกว่า 100,000 ล้านดอลลาร์ สะท้อนบทบาทใหม่ที่ยังคงควบคุมแต่เปิดโอกาสให้ทำกำไรได้ในเชิงธุรกิจมากขึ้น

ด้าน แซม อัลแมน ซีอีโอของ OpenAI ย้ำชัดว่า “บริษัทก่อตั้งมาในฐานะ nonprofit และจะยังคงเป็น nonprofit ที่มีสิทธิ์ควบคุมแขนทำกำไรต่อไป”

ขณะเดียวกัน OpenAI ยังคงต้องได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานท้องถิ่น โดยเฉพาะ Attorney General ของรัฐแคลิฟอร์เนียและเดลาแวร์ เนื่องจากสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ซานฟรานซิสโก แต่การจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทอยู่ที่รัฐเดลาแวร์

เส้นทางที่เต็มไปด้วยอุปสรรคและแรงสั่นสะเทือน

OpenAI ก่อตั้งขึ้นในปี 2015 โดยกลุ่มนักเทคโนโลยีชื่อดัง เช่น Elon Musk และ Sam Altman จุดประสงค์แรกเริ่มคือการวิจัย AI ในเชิงเปิดเพื่อสาธารณะ แต่ต่อมาได้พัฒนา ChatGPT จนกลายเป็นหนึ่งในโมเดลภาษาที่ทรงอิทธิพลที่สุดในทศวรรษ

ต่อมาในปี 2023 OpenAI เคยเผชิญวิกฤติความเชื่อมั่นครั้งใหญ่ เมื่อบอร์ดบริหารปลด Altman ออกจากตำแหน่งซีอีโอ โดยกล่าวหาว่า “ไม่เปิดเผยข้อมูลอย่างต่อเนื่อง” แต่กระแสต่อต้านจากพนักงานและสาธารณชนทำให้เขากลับมารับตำแหน่งภายในไม่กี่วัน

คาดผลักดันการเงินพุ่งทะยาน

ประกาศปรับโครงสร้างล่าสุดเกิดขึ้นเพียงหนึ่งเดือนหลัง OpenAI เปิดเผยว่าได้ระดมทุนเพิ่มอีก 8.3 พันล้านดอลลาร์ ดันมูลค่าบริษัทพุ่งแตะ 300,000 ล้านดอลลาร์ ขณะเดียวกัน Bloomberg รายงานว่าบริษัทคาดว่าจะสร้างรายได้กว่า 12.7 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2025

ทั้งนี้การก้าวสู่ Public Benefit Corporation ของ OpenAI ไม่ได้เป็นแค่การจัดโครงสร้างทางธุรกิจ แต่คือการสร้างสมดุลระหว่างพันธกิจเพื่อสาธารณะกับการเติบโตเชิงพาณิชย์ การมี Microsoft เป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์และนักลงทุนหลัก ช่วยเสริมพลังให้ OpenAI สามารถแข่งขันในสนาม AI ที่ดุเดือด ขณะเดียวกันยังรักษาภาพลักษณ์ในฐานะองค์กรที่ใส่ใจต่อสังคม หากแผนนี้สำเร็จ OpenAI จะไม่เพียงเป็นผู้นำ AI เชิงเทคโนโลยี แต่ยังอาจกลายเป็นโมเดลธุรกิจใหม่ที่โลกการเงินและสตาร์ทอัพต้องจับตา