ไมเคิล เซย์เลอร์ ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานบริหาร Strategy สร้างปรากฏการณ์อีกครั้ง เมื่อความมั่งคั่งส่วนตัวทะยานเพิ่มกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้ พร้อมถูกจัดอันดับติด Bloomberg Billionaire Index มูลค่าทรัพย์สินแตะ 7.37 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่กลยุทธ์สะสมบิทคอยน์มหาศาลยังคงเป็นปัจจัยชี้ขาดทิศทางบริษัท แต่แรงกดดันตลาดและการถูกกันออกจาก S&P 500 กลับทำให้นักลงทุนตั้งคำถามถึงความยั่งยืนของโมเดลธุรกิจ
ทรัพย์สินพุ่งแตะ 7.37 พันล้านดอลลาร์ ติดโผเศรษฐีโลก
Bloomberg Billionaire Index ระบุว่า ไมเคิล เซย์เลอร์ ติดอันดับที่ 491 ของเศรษฐีพันล้านโลกในปีนี้ มูลค่าทรัพย์สินรวม 7.37 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นเกือบ 16% ตั้งแต่ต้นปี โดยราว 650 ล้านดอลลาร์อยู่ในรูปเงินสด และที่เหลือกว่า 6.72 พันล้านดอลลาร์ผูกกับหุ้น Strategy (MSTR) ที่เพิ่มขึ้นเกือบ 12% ในช่วงเวลาเดียวกัน
เซย์เลอร์ เกาะกลุ่มเศรษฐีคริปโต
การก้าวเข้ามาในทำเนียบมหาเศรษฐีโลก ทำให้ ไมเคิล เซย์เลอร์ ยืนเคียงข้างไบรอัน อาร์มสรอง ซีอีโอ Coinbase (ทรัพย์สิน 12.8 พันล้านดอลลาร์) และ “CZ” จ้าว ฉางเผิง ผู้ก่อตั้ง Binance (ทรัพย์สิน 44.5 พันล้านดอลลาร์) ซึ่งต่างก็เป็นตัวละครหลักในโลกคริปโต ขณะที่ Sam Bankman-Fried อดีตซีอีโอ FTX เคยติดโผมาก่อนการล้มละลายของบริษัทในปี 2565
กลยุทธ์สะสมบิทคอยน์มหาศาล
Strategy ยังคงเป็นที่รู้จักในฐานะบริษัทมหาชนที่สะสมบิทคอยน์มากที่สุด ปัจจุบันถือครองกว่า 659,739 BTC มูลค่าราว 72.9 พันล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็น 3.42% ของบิทคอยน์ที่หมุนเวียนทั้งหมด อย่างไรก็ดี ฝ่ายบริหารยืนยันว่าการเข้าซื้อบิทคอยน์ในปริมาณมหาศาลนี้ไม่ได้สร้างแรงกระเพื่อมโดยตรงต่อราคาในตลาด
แรงกดดันจากตลาดและ S&P 500
แม้ราคาหุ้น Strategy ปรับขึ้น 2.53% ในวันศุกร์ที่ผ่านมา แต่ยังร่วงลงกว่า 12.4% ตลอด 30 วันที่ผ่านมา ปัจจัยสำคัญคือการถูกกันออกจากดัชนี S&P 500 เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา แม้บริษัทจะผ่านเกณฑ์และอยู่ใน Nasdaq 100 แล้วก็ตาม การถูกปฏิเสธนี้สะท้อนถึงเกณฑ์การพิจารณาเชิง “องค์รวม” ของคณะกรรมการที่มองลึกกว่าตัวเลขทางการเงินเพียงอย่างเดียว
แม้ความมั่งคั่งพุ่งทะยาน แต่ยังไม่พ้นแรงเสียดทานความเสี่ยง
การก้าวขึ้นสู่รายชื่อเศรษฐีโลกของไมเคิล เซย์เลอร์ ไม่ได้เกิดจากโชค แต่สะท้อนถึงพลังของโมเดลธุรกิจที่เดิมพันอนาคตไว้กับบิทคอยน์ ทว่าเส้นทางนี้ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ การพลาดโอกาสเข้าสู่ S&P 500 และแรงกดดันด้านราคาหุ้นในระยะสั้นคือเครื่องเตือนใจว่าการพึ่งพาคริปโตอย่างเต็มตัว ยังเสี่ยงต่อความผันผวนที่ไม่อาจคาดเดาได้ในระยะยาว
นักลงทุนและตลาดต่างจับตาอย่างใกล้ชิดว่า ไมเคิล เซย์เลอร์ และ Strategy จะรักษาสมดุลระหว่างความมั่งคั่งส่วนบุคคลกับความยั่งยืนทางธุรกิจได้หรือไม่ ในโลกที่บิทคอยน์ยังคงเป็นทั้ง “โอกาสทอง” และ “ความเสี่ยงเรื้อรัง” ไปพร้อมกัน