xs
xsm
sm
md
lg

DUSITล้างขาดทุนสะสมหมดปี69

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



‘ดุสิตธานี’ มั่นใจปี 69 ฟื้นกำไร หลัง “ศุภจี สุธรรมพันธุ์” ปรับแผนการดำเนินธุรกิจและผุด “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค”แหล่งสร้างรายได้แห่งใหม่ ทะยอยรับรู้รายได้ปลายปีนี่ถึงปี 69 อีกทั้งโรงแรมกว่า 50 แห่งทั่วโลก สร้างรายได้หนุน ส่งผลให้ฐานะทางการเงินแกร่ง และล้างขาดทุนสะสมได้หมด ขณะบอร์ดตั้ง “ชนินทธ์ โทณวณิก” รักษาการประธานกรรมการควบประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม หลัง “ศุภจี สุธรรมพันธุ์” ขอเกษียณจากการปฎิบัติหน้าที่มีผลตั้งแต่ 12 ก.ย.นี้เป็นต้นไป



บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DUSIT เปิดแถลงข่าว หลังคณะกรรมการดุสิตธานี มีมติแต่งตั้ง “ชนินทธ์ โทณวณิก” รักษาการประธานกรรมการ ควบตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม (กรุ๊ปซีอีโอ) หลังจาก “ศุภจี สุธรรมพันธุ์” ขอเกษียณจากการปฏิบัติหน้าที่และมีผลตั้งแต่ 12 กันยายน 2568 เป็นต้นไป หลังได้รับแจ้งจากนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ว่าหลังจากได้รับการทาบทามจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้เข้าดำรงตำแหน่ง “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์” และนางศุภจีได้ตัดสินใจตอบรับการทาบทามเพื่อดำรงตำแหน่งดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงมีความประสงค์จะขอเกษียณอายุก่อนครบกำหนดจากตำแหน่ง “ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม” DUSIT เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของทีมเศรษฐกิจ ที่จะร่วมขับเคลื่อนนโยบายสำคัญ เพื่อพัฒนาประเทศในช่วงที่ต้องเผชิญกับความท้าทายหลายด้าน เป็นการพลิกฟิ้นให้ประเทศก้าวเดินไปอย่างมั่นคง

นายชนินทธ์ โทณวณิก รักษาการประธานกรรมการ และ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม DUSIT เผยว่าในฐานะองค์กรที่ดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับความรับผิดชอบต่อสังคมและประเทศชาติ กลุ่มบริษัทรู้สึกเป็นเกียรติและภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่"ศุภจี" ได้รับโอกาสอันสำคัญนี้ ซึ่งจะเป็นการอุทิศตนเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติในช่วงที่ประเทศต้องการกำลังที่แข็งแกร่งทุกด้านเพื่อหนุนให้ประเทศก้าวผ่านข่วงเวลาที่ยากลำบาก และ DUSIT มีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่"ศุภจี"จะได้ใช้ความรู้ความสามารถทำงานรับใช้ชาติในเป็นช่วงเวลาสั้นๆ และหากภารกิจของชาติเสร็จสิ้นกลุ่มดุสิตธานีพร้อมต้อนรับ "ศุภจี"กลับมาร่วมงานกับ DUSITเช่นเคย

ทั้งนี้ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา DUSIT มีความเปลี่ยนแปลงหลายด้าน โดยเฉพาะช่วงโควิด-19 ที่ธุรกิจโรงแรมได้รับผลกระทบหนัก เพราะไม่มีนักท่องเที่ยวเข้าพัก ส่งผลให้ทางโรงแรมได้ถือโอกาสปรับปรุงงานจากเดิม ส่งผลให้ภาพของDUSITเกือบ 10 ปีที่ผ่านมานี้ เปลี่ยนไป และที่เห็นชัดสุดคือการเปิดทุ่มงบถึง 46,000 ล้านบาท ผุด “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” (Dusit Central Park) และถือเป็นการรากฐานที่มั่นคง แม้ว่าจะมีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นเชื่อมั่นได้ว่า ทั้งโครงสร้างองค์กร โครงสร้างธุรกิจ และโครงสร้างทางการเงินของDUSIT จะรองรับกับทุกความเปลี่ยนแปลงนั้นได้เป็นอย่างมั่นคง

“อยากให้ทุกคนมั่นใจว่า สิ่งที่ถูกส่งต่อและวางไว้บนมือของผู้บริหารและพนักงานของกลุ่มดุสิตธานีหลังจากนี้ คือ การเติบโตอย่างแข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ของDUSIT บนรากฐานที่มั่นคง ที่ดิฉันและทีมดุสิตธานีทุกคนร่วมกันสร้างไว้ และนี่คือ สิ่งที่เราพยายามทำมาตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ดิฉันขอขอบคุณคุณชนินทธ์ โทณวณิก รักษาการประธานกรรมการ ที่ให้โอกาสและมอบหมายให้ทำภารกิจสำคัญจนลุล่วง รวมถึงยินดีและเต็มใจที่จะให้ดิฉันมีโอกาสใช้ความรู้ความสามารถในการรับใช้ประเทศชาติและประชาชน และดิฉันเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า ดุสิตธานีจะสามารถยืนหยัดได้อย่างแข็งแกร่งในฐานะแบรนด์ไทยในระดับโลกได้อย่างยั่งยืน” นางศุภจีกล่าว

สำหรับผลงการดำเนินงานที่มีตัวเลขขาดทุนสุทธิ กว่า 1,000 ล้านบาท และ 5 ปีที่ผ่านมา ทำให้บริษัทขาดสภาพคล่องจึงงดจ่ายเงินปันผล แต่ภายใต้ตัวเลขขาดทุนที่มองเห็น อีกด้านหนึ่งคือปรับปรุงเปลี่ยยแปลงในองค์กรเพื่อให้ภาพรวมดีขึ้นและเมื่อปี 2557 กลุ่ม DUSIT มีรายได้รวม 5,370 ล้านบาท หรือ เพิ่มเป็น 11,204 ล้านบาทในปี 2567 และจะเติบโตขึ้นจนพลิกฟื้นจากขาดทุนเป็นกำไรใรปี 2569

“คาดว่าในปี 2569 รายได้ของโครงการเรสซิเดนซ์ จะช่วยให้ หนี้สินของDUSIT ลดลงตามลำดับ ส่วนหนึ่งเพราะจะเริ่มรับรู้รายได้จากการโอนคอนโดที่ขายไปแล้วกว่า 90% คิดเป็นรายได้เกือบ 16,000 ล้านบาท จะรับรู้รายได้ช่วงปลายปี 2568 และส่วนใหญ่จะรับรู้รายได้จากการทยอยโอนอย่างมีนัยยะสำคัญในปี 2569 รวมถึงโรงแรมอีกกว่า 50 แห่งทั่วโลก จึงคาดว่าหนี้สินจะหมดไปภายใน 1 ปี ส่งผลให้ฐานะทางการเงินของกลับมาแข็งแกร่งและผลงานฟื้นกำไร "นางศุภจีกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น