ไก่ประเภทที่เลี้ยงเพื่อความสวยงาม ได้รับความนิยมมาตลอด เพราะด้วยความน่ารัก และยังมีประโยชน์สามารถออกไข่มาให้บริโภคได้ด้วย แต่ใครจะคิดว่า ความตั้งใจเลี้ยงไก่สวยงามเพลินในวันหยุดพักผ่อนจากวันทำงาน วันนี้กลายเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ ให้ไม่แพ้อาชีพหลักเลยที่เดียว สำหรับการเลี้ยงไก่ยักษ์บราซิล ของหนุ่มพนักงานโรงงาน ที่จังหวัดระยอง
ซื้อไก่มาเลี้ยงเล่นๆ ใครจะคิดว่าสร้างรายได้ เดือนหลายหมื่น
นายคำรณ วงศ์บุบผา (เอก) เจ้าของพระเอกฟาร์ม หนึ่งในผู้เพาะเลี้ยงไก่ยักษ์บราซิลเพื่อการค้า ตำบลบ้านแลง อำเภอเมือง จังหวัดระยอง เล่าว่า จุดเริ่มต้น ที่ตนเองมาเลี้ยงไก่ยักษ์บราซิล เกิดจากตนเองซื้อไก่สวยงามมาเลี้ยงเหมือนกับคนอื่นๆ เพราะที่บ้านเองก็มีพื้นที่ เรามีสวนผลไม้อยู่ที่ระยอง ก็ซื้อไก่มาปล่อยเดินเล่นในสวน เลี้ยงเพลินในช่วงวันหยุดจากการทำงานประจำ โดยเริ่มจากไปซื้อไก่สายพันธุ์ซิลกี้ และไก่สายพันธุ์อื่นๆ ที่นิยมเลี้ยงกันในช่วงนั้น ย้อนไปประมาณ ไม่เกิน 3-4 ปี และพอได้เข้ามาอยู่ในวงการไก่สวยงาม ทำให้เราได้มารู้จักกับไก่ยักษ์สายพันธุ์บราซิล เมื่อสักประมาณ 2-3 ปี
หลังจากนั้นได้ศึกษา และได้ลองซื้อมาเลี้ยง เช่นเดียวกับไก่สวยงามสายพันธุ์อื่นๆ ที่เคยเลี้ยง แต่ครั้งนี้ เริ่มมีความรู้ ในเรื่องไก่สวยงาม และมองเห็นโอกาสทางการตลาด ทำให้ครั้งแรกที่ซื้อไก่ยักษ์บราซิลมาเลี้ยงก็ซื้อพ่อแม่พันธุ์มาเลย ในราคาพ่อพันธุ์ ตัวละ 10,000 บาท เป็นไก่ที่มีความสูงได้ขนาดคือ 1เมตร 9เซ็นติเมตร และแม่พันธุ์ ตัวละ 8,000 บาท ที่ราคาแม่พันธุ์ถูกกว่า เพราะปกติไก่สายพันธุ์นี้ ตัวเมียจะตัวไม่ใหญ่ โตเต็มที่ 90-95 เซ็นติเมตร ทำให้แม่พันธุ์ราคาถูกกว่า
ราคาไก่ยักษ์บราซิล ขึ้นอยู่กับขนาดความสูง
ราคาสูงสุดตอนนี้เมืองไทยตัวละ 14,000 บาท
สำหรับราคาไก่ยักษ์บราซิล ในเวลานี้ ราคาขึ้นอยู่กับขนาดความสูง และความใหญ่ของไก่ ราคาแพงสุดที่ขายกัน ประมาณ 14,000 บาท สำหรับไก่พ่อพันธุ์ ที่มีความสูง 1 เมตร ขึ้นไป ปกติไก่สายพันธุ์นี้ ที่เลี้ยงกันในประเทศบราซิล จะมีความสูงอยู่ประมาณ 1เมตร 20 เซ็นติเมตร ส่วนที่เลี้ยงกันในประเทศไทย ตอนนี้ สูงสุดประมาณ 1 เมตร 15 เซ็นติเมตร ความพิเศษอย่างอื่นของไก่ยักษ์บราซิล นอกจากความสูง มีเรื่องของสี มีสีให้เลือกเยอะมากในปัจจุบัน เกิดมาจากคนไทยนำมาผสมกัน ก็เลยได้สีแปลกใหม่ๆ ออกมาอยู่เรื่อย แต่สียังไม่ได้เป็นจุดขายที่ลูกค้าให้ความสำคัญ เท่ากับขนาดความสูง และความใหญ่
ขายไข่ฟองละ 100 บาท
คุณเอก เจ้าของพระเอกฟาร์ม เล่าว่า ตนเองได้เลี้ยงไก่ยักษ์บราซิลมาได้ไม่นานประมาณ สัก 2 ปี แต่ปีนี้ เป็นปีแรกที่มีผลผลิตออกจำหน่ายมากที่สุด โดยผลผลิตที่นำมาออกขาย จะเน้นไปที่การขายไข่ เพื่อให้ลูกค้าซื้อไปฟักเอง ในราคาฟองละ 100 บาท วันหนึ่งมีออเดอร์ส่งไข่ไม่แน่นอน เฉลี่ยประมาณ 5-15 ฟอง เดือนหนึ่งประมาณ 500 ฟอง เดือนหนึ่งรายได้ประมาณ สัก 30,000-40.000 บาท ช่วงนี้ ขายได้เยอะหน่อย เพราะมีการซื้อพ่อแม่พันธุ์มาเพิ่ม มีพ่อแม่พันธุ์ ประมาณ 50 ตัวได้ รายได้เข้ามาตอนนี้ ก็จะเป็นการลงทุน ตั้งแต่เลี้ยงมาก็ลงทุนไปหลักแสนบาท การคืนทุนก็คืนทุนแล้ว แต่เป็นการคืนทุนที่ยังอยู่ในตัวไก่พ่อแม่พันธุ์
นอกจากขายไข่ไก่ แล้ว บางส่วนขายเป็นลูกไก่ มีราคาตั้งแต่ 300 บาท 500 บาท ไปจนถึงหลักพันบาท ขึ้นอยู่กับอายุ เช่น อายุ 20 วัน ราคาตัวละ 350 บาท อายุ 1 เดือน 500 บาท ส่วนอายุ 5-6 เดือน ไก่เริ่มโต แล้ว ขึ้นอยู่กับความสูง ราคาตั้งแต่ 2,000 บาท ขึ้นไป ไปจนถึง 7,000 - 8,000 บาท โดยไก่ยักษ์บราซิล จะโตเต็มที่ตอนอายุ 1 ปี เป็นไก่ที่โตช้า เมื่อเทียบกับไก่ทั่วไป ซึ่งถ้าจะเก็บไว้เลี้ยงขายเป็นพ่อแม่พันธุ์ ต้องรอไปอีกเป็นปี ซึ่งนานเกินไป และเวลานั้นไม่รู้ว่ากระแสความนิยมมันจะยังมีอยู่ไหม ก็เลยคิดว่าเราขายเป็นไข่ หรือ ลูกไก่ ออกไปจะดีกว่า
ทั้งนี้ ลูกค้าเองก็ชอบที่จะซื้อเป็นไข่ เพราะจะได้เอาไปฟักเองจะได้ประหยัดเงินในกระเป๋าไม่ต้องลงทุนสูง ปกติที่ซื้อไปฟักเอง ก็จะฟักได้ลูกไก่ 80 เปอร์เซ็นต์ เช่น ซื้อไป 5 ฟอง ในราคา 500 บาท ยังไงก็ต้องฟักได้ 2-3 ตัว แต่ถ้าโชคดี ก็อาจจะฟักออกมาได้ถึง 5 ตัว คนนิยมซื้อไข่ไปฟักเอง หรือ ซื้อลูกไก่ไปเลี้ยง แต่ถ้าต้องการทำเป็นธุรกิจ ก็จะต้องไปซื้อ พ่อแม่พันธุ์ แต่ด้วยความที่เราเพิ่งเริ่มเลี้ยงได้แค่ 2 ปี ก็เลยไม่มีพ่อแม่พันธุ์เลย พ่อแม่พันธุ์ที่เรามี เราต้องใช้ไว้สำหรับออกไข่ เพื่อขาย
สัตว์เลี้ยงตามกระแส ทำก่อนมีโอกาสรวย
คุณเอก เล่าว่า ไก่ยักษ์บราซิล เริ่มได้รับความนิยมในกลุ่มผู้เลี้ยงไก่ในประเทศไทย ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่มีการนำเข้ามาเลี้ยงนานแล้ว คือประมาณกว่า 10 ปี แต่ก็เลี้ยงในกลุ่มคนที่ชื่นชอบ ไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก แต่พอระยะหลัง โลกออนไลน์ โลกโซเชียลฯ มีการรีวิวไก่ชนิดนี้ และก็มีคนนำออกมาขาย ทำให้คนรู้จักไก่ยักษ์บราซิล มากขึ้น และก็มีการซื้อขายกันเยอะขึ้น จนกลายเป็นไก่สวยงามอีกชนิดหนึ่งที่ได้รับนิยมในช่วงนี้
คุณเอก บอกว่า โอกาสที่ความนิยมจะลดลงไป ก็คงเหมือนกับสัตว์เลี้ยงสวยงามประเภทอื่นๆ พอมาถึงวันนั้น ราคามันตก ลงมา เราก็เลี้ยงไว้กินไข่ กินเนื้อก็ได้ ส่วนเนื้อไก่สายพันธุ์นี้ มีลักษณะเนื้อคล้ายกับไก่บ้าน เมืองไทย ส่วนลักษณะคล้ายกับไก่ชน บ้านเรา แต่ตัวใหญ่กว่ามีเลือดนักสู้ เหมือนกัน แต่ไม่มากเหมือนไก่ชน ส่วนใหญ่จะเป็นตัวผู้ที่ชอบมาตีกัน เพื่อแย่งตัวเมีย แต่ตีกันไม่นานก็เลิก ไม่เกิน 2-3 นาที พอสู้ไม่ได้ก็เลิกลากันไป ไม่ได้สู้เหมือนไก่ชน
เลี้ยงง่ายไม่ต่างจากไก่บ้านทั่วๆไป
สำหรับการเลี้ยงไก่ชนิดนี้ คุณเอก แนะนำว่า ควรจะต้องมีพื้นที่สักหน่อย เพราะไก่ตัวใหญ่ พื้นที่เลี้ยงต้องเยอะ และไก่ชอบออกกำลังกาย ชอบเดิน ต้องมีพื้นที่ให้เค้าได้เดิน ออกกำลังกาย จะได้ไก่มีกล้ามเนื้อ และสวยงาม อย่างเช่น มีสวน มีไร่ มีสนามให้ไก่ได้ออกมาวิ่งเล่นข้างนอก บ้าง ส่วนอาหารเลี้ยงไก่ เหมือนไก่บ้านทั่วไป แต่ด้วยความที่เราเลี้ยงเพื่อจำหน่าย ก็จะต้องเลี้ยงด้วยอาหารพิเศษ เพื่อให้ไก่สมบูรณ์ และดูแลเรื่องการให้ยาป้องกันโรค และยาบำรุง สามารถเป็นพ่อแม่พันธุ์ที่ออกไข่และให้ลูกที่แข็งแรง เพื่อส่งให้กับคนเลี้ยงได้ไก่ที่สมบูรณ์ นำไปเลี้ยงต่อได้ ต้นทุนค่าอาหารและต้นทุนการเลี้ยงไม่เกิน 30 เปอร์เซ็นต์ ของรายได้ที่ได้รับตอนนี้
อาชีพเสริมสร้างรายได้ไม่แพ้งานประจำ
คุณเอก เลี้ยงไก่เป็นอาชีพเสริมจากงานประจำ ตอนนี้ รายได้ใกล้เคียงกับการทำงานประจำ คุณเอก บอกว่า การเลี้ยงไก่ไม่ได้มีขั้นตอนอะไรเยอะ ช่วงที่เราเลิกงาน กลับมาดูแลให้อาหาร ตอนเช้าก่อนออกไปทำงานให้อาหาร เค้าไว้ พอเลิกงานกลับมาก็มาเก็บไข่ เข้าตู้ควบคุม และจัดส่งให้ลูกค้า ตามออเดอร์ในแต่ละวัน ทำให้เราสามารถทำควบคู่ไปกับการทำงานประจำได้ ลูกค้าส่วนใหญ๋ของเรามาจากช่องทางออนไลน์ มีการแนะนำต่อๆ หลังจากได้เข้ามาในวงการนี้แล้ว เราก็จะรู้เองว่าจะต้องหาลูกค้าอะไร ถ้าสามารถหาให้เค้าได้ เกิดอาชีพสร้างรายได้ ช่วยให้มีรายได้เพิ่มขึ้น จากงานประจำ
"สุดท้าย ถามว่ามองอนาคต อาชีพนี้ อย่างไร ส่วนตัวคิดว่ายังคงจะทำเป็นอาชีพเสริม อย่างนี้ต่อไป เพราะสามารถทำควบคู่ไปกับการทำงานประจำได้ เวลานี้ค่าใช้จ่ายสูง พนักงานประจำส่วนใหญ่หาอาชีพเสริมทำควบคู่ไปด้วย และโชคดีที่มีพื้นที่ เริ่มจากไม่คิดว่าจะทำเป็นอาชีพได้ เพียงแค่ซื้อไก่มาเลี้ยงตามความชอบแต่กลับสร้างได้ให้ด้วยถือว่า เราโชคดี ซึ่งคนอื่นๆ ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน"
Facebook : Praake Farm
โทร.08-7942-1473
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *