พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี โปรดเกล้าฯ พระราชทานผ้าไตรบำเพ็ญกุศลอุทิศถวาย สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี เนื่องในวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ครบ 14 ปี โดยมีสมเด็จพระสังฆราชเสด็จเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และพระองค์เจ้าเฉลิมศึกยุคลเสด็จเป็นประธานฝ่ายฆราวาส ณ พระวิหาร วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม
วันพุธ ที่ 23 กรกฎาคม 2568 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานผ้าไตรในการบำเพ็ญพระกุศลอุทิศถวายสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี เนื่องในวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ ซึ่งจะเวียนมาบรรจบเป็นปีที่ 14 ในวันที่ 27 กรกฎาคม 2568 ตามที่พระราชวงศ์ คณะข้าราชบริพาร มูลนิธิเพชรรัตน-สุวัทนา พร้อมด้วยองค์กรในพระอุปถัมภ์ และที่เคยได้รับพระกรุณา ตลอดจนผู้จงรักภักดี ร่วมกันจัด ณ พระวิหาร วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม
การนี้ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จลงทรงเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และพลเอก พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมศึกยุคล เสด็จไปทรงเป็นประธานฝ่ายฆราวาส
สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี เป็นพระราชธิดาพระองค์เดียวในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว กับพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี ประสูติเมื่อวันอังคาร ที่ 24 พฤศจิกายน 2468 สิ้นพระชนม์เมื่อวันพุธ ที่ 27 กรกฎาคม 2554 สิริพระชนมายุ 85 พรรษา
ตลอดพระชนมชีพได้ทรงบำเพ็ญพระกรณียกิจเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนนานัปการ ทรงเอาพระทัยใส่บำรุงกิจการสาธารณประโยชน์ทุกด้าน ทรงดำรงพระองค์มั่นคงในพระบวรพุทธศาสนา ทรงนิยมความเป็นไทยและทรงยึดถือพระราชจริยวัตรของสมเด็จพระบรมชนกนาถเป็นแนวทางแห่งพระจริยวัตรและการปฏิบัติพระกรณียกิจอย่างแน่วแน่
อนึ่ง สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี เสด็จไปทรงไปพระกุศล ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เป็นเนืองนิตย์ ด้วยเป็นพระอารามประจำรัชกาลที่ 5 ที่ได้รับพระราชทานพระบรมราชูปถัมภ์จากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว สืบต่อมา มีสุสานหลวงเป็นสถานที่บรรจุพระศพ พระอัฐิ พระสรีรางคาร ของพระบรมวงศานุวงศ์และสมาชิกราชสกุลมหาสาขารัชกาลที่ 5 ได้ทรงรับเป็นเจ้าภาพการบูรณปฏิสังขรณ์สุนันทานุสาวรีย์ ตามที่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ในพระฐานะที่ทรงเป็นประธานการบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ทรงชักชวน
อนุสนธิเหตุที่ประสูติและทรงเจริญพระวัยมาในยุคที่เจ้าพระคุณ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระชินวรวิสุทธิเทวารยวงศ์ ทรงเป็นเจ้าอาวาสยุคที่ 2 ต่อมายังทรงพระศรัทธาในสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวราลงกรณ เจ้าอาวาสยุคที่ 4 จึงทรงพระกรุณาโปรดพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ตั้งทุนในพระนามไว้ในนิธิวัดราชบพิธ เพื่อนำดอกผลอุปถัมภ์บำรุงพระภิกษุสามเณร และบูรณปฏิสังขรณ์พระอาราม กับทั้งทรงรับพระเถระวัดราชบพิธที่อาพาธไว้เป็นคนไข้ในพระอนุเคราะห์ด้วย
เมื่อเสร็จการพระเมรุในพุทธศักราช 2555 แล้ว พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เชิญพระสรีรางคาร สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี บรรจุไว้ในเสาวภาประดิษฐาน ในพระฐานะพระราชนัดดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กับสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
