อย.พร้อมกำลังตำรวจนำหมายค้นเข้าตรวจสถานที่เก็บยาของวุฒิ-ศักดิ์คลินิก พบยาเตติโอนิล ซึ่งมีตัวยากลูตาไทโอน และยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนอื่นๆ รวม 6 รายการ โดยได้ยึดของกลางส่งตรวจพิสูจน์ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ หากผลพิสูจน์พบว่าผิดจริงต้องถูกดำเนินคดีข้อหาหนัก จวกควรคำนึกถึงจรรยาบรรณวิชาชีพ ลั่นไม่ยอมให้คนไทยตกเป็นหนูทดลองยาเด็ดขาด
นพ.ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2550 เจ้าหน้าที่ อย. พร้อมตำรวจจากกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี ได้นำหมายศาลเข้าตรวจค้นอาคารพาณิชย์เลขที่ 44/41-43 ถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ เนื่องจากสืบทราบว่าเป็นสถานที่เก็บยาผิดกฎหมาย ผลการตรวจค้นพบของกลางเป็นยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยาจำนวน 6 รายการ ได้แก่ (1) ยาเตติโอนิล (Tationil) 600 มิลลิกรัม/ 4 มิลลิลิตร รุ่นที่ผลิต 1005 จำนวน 10 ขวด และ (2) รุ่นที่ผลิต 1007 จำนวน 1 ขวด ซึ่งเป็นยาที่มีตัวยากลูตาไทโอนที่เป็นข่าวว่าคลินิกเสริมความงามหลายแห่งนำมาฉีดให้แก่ผู้บริโภค (3) น้ำกลั่น (Acqua) จำนวน 13 หลอด บรรจุหลอดละ 4 มิลลิลิตร
(4) ยาทราเนคซามิค (Tranexamic) เป็นยาลดเม็ดสีผิว ฉลากระบุว่า “ผลิตโดย (Manufactured by) : บริษัท วุฒิศักดิ์ คลินิก เวชกรรม จำกัด 44/21-22 ถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900” จำนวน 10 ขวด บรรจุขวดละ 250 แคปซูล (5) ยาแคปซูลใส บรรจุผงยาสีครีมอยู่ในซองพลาสติกที่มีข้อความ “สารละลายไขมันชุดพิเศษ ลดน้ำหนักอย่างปลอดภัย…” จำนวน 10 ซอง และ (6) ยาแคปซูลสีขาว บรรจุอยู่ในซองพลาสติกที่มีข้อความ “สารละลายไขมันชุดพิเศษ ลดน้ำหนักอย่างปลอดภัย…” จำนวน 10 ซอง
นพ.ศิริวัฒน์ กล่าวต่อว่า จากการสอบถามผู้ดูแลสถานที่ดังกล่าวทราบว่าเป็นของบริษัท วุฒิศักดิ์ คลินิก เวชกรรม จำกัด เจ้าหน้าที่จึงได้ยึดของกลางทั้งหมดเพื่อส่งตรวจพิสูจน์ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ หากพบว่าเป็นยาที่ไม่ได้มาขึ้นทะเบียนตำรับยาจริง จะต้องถูกดำเนินคดีฐานผลิตยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท และฐานผลิตและขายยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 5 พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
“การที่คลินิกออกมาขอโทษ อย. กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และแพทยสภานั้น อย.เห็นว่าคลินิกควรขอโทษประชาชนที่ไปใช้บริการ และควรตระหนักถึงจรรยาวิชาชีพของความเป็นแพทย์ที่ควรเป็นผู้ช่วยเหลือรักษาโรคให้กับประชาชน เพราะการใช้ยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา และผลการวิจัยยังไม่มีข้อบ่งใช้ว่าได้ผลจริงหรือไม่ มีผลข้างเคียงอันตรายหรือไม่ เป็นการไม่สมควรอย่างยิ่งสำหรับแพทย์ ในส่วนของ อย.จะดำเนินการตามกรอบของกฎหมายเพื่อคุ้มครองผู้บริโภค และ อย. ไม่ยอมให้คนไทยตกเป็นหนูทดลองยาโดยเด็ดขาด” นพ.ศิริวัฒน์กล่าว