ศธ.เผย สนช.ปรับการศึกษานอกระบบ ให้ผู้เรียนเป็นผู้แสวงหาความรู้ด้วยตนเองส่วนผู้ส่งเสริมเป็นเพียงผู้จัดกรอบ หรือแนวทางการเรียนรู้ที่เป็นคุณประโยชน์ต่อผู้เรียน ชี้เพื่อให้แตกต่างจากการศึกษาตามอัธยาศัยให้ชัดเจน
นางจรวยพร ธรณินทร์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ร่าง พ.ร.บ. ส่งเสริมการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แล้ว โดยให้ปรับสาระสำคัญ เช่น การส่งเสริมการศึกษาตามอัธยาศัย ไม่เน้นการจัดสาระการเรียนรู้ให้ผู้เรียนโดยตรง เนื่องจากผู้เรียนเป็นผู้แสวงหาความรู้ได้เอง แต่ผู้ส่งเสริมเป็นเพียงผู้จัดการจัดกรอบ หรือแนวทางการเรียนรู้ที่เป็นคุณประโยชน์ต่อผู้เรียน ปรับแนวทางการส่งเสริมการศึกษานอกระบบให้แตกต่างจากการศึกษาตามอัธยาศัยให้ชัดเจน การศึกษานอกระบบผู้จัดสามารถเข้าไปจัดกระบวนการการเรียนรู้ผ่านกิจกรรมที่หลากหลายตามศักยภาพตอบสนองความต้องการของผู้เรียนโดยบูรณาการความรู้ ปลูกฝังคุณธรรม และค่านิยมที่ดีงาม แต่การศึกษาตามอัธยาศัย ผู้ส่งเสริมเป็นเพียงผู้จัดแหล่งเรียนรู้สำหรับการศึกษา โดยให้บุคคลไปเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง ให้ระบุให้ชัดเจนว่า
นางจรวยพร ยังกล่าวอีกว่า กฎหมายฉบับนี้จะไม่ตั้งหน่วยงานขึ้นมาใหม่ เป็นเพียงการให้สำนักบริหารงานการศึกษานอกโรงเรียน (กศน.) ปรับเปลี่ยนภารกิจและชื่อมาเป็นสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย ขั้นตอนต่อไป คณะกรรมการประสานงาน สนช. จะส่งเรื่องไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขอความเห็นชอบในสาระที่ขอแก้ไข และเตรียมเข้าสู่การพิจารณาของ สนช
นางจรวยพร ธรณินทร์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ร่าง พ.ร.บ. ส่งเสริมการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แล้ว โดยให้ปรับสาระสำคัญ เช่น การส่งเสริมการศึกษาตามอัธยาศัย ไม่เน้นการจัดสาระการเรียนรู้ให้ผู้เรียนโดยตรง เนื่องจากผู้เรียนเป็นผู้แสวงหาความรู้ได้เอง แต่ผู้ส่งเสริมเป็นเพียงผู้จัดการจัดกรอบ หรือแนวทางการเรียนรู้ที่เป็นคุณประโยชน์ต่อผู้เรียน ปรับแนวทางการส่งเสริมการศึกษานอกระบบให้แตกต่างจากการศึกษาตามอัธยาศัยให้ชัดเจน การศึกษานอกระบบผู้จัดสามารถเข้าไปจัดกระบวนการการเรียนรู้ผ่านกิจกรรมที่หลากหลายตามศักยภาพตอบสนองความต้องการของผู้เรียนโดยบูรณาการความรู้ ปลูกฝังคุณธรรม และค่านิยมที่ดีงาม แต่การศึกษาตามอัธยาศัย ผู้ส่งเสริมเป็นเพียงผู้จัดแหล่งเรียนรู้สำหรับการศึกษา โดยให้บุคคลไปเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง ให้ระบุให้ชัดเจนว่า
นางจรวยพร ยังกล่าวอีกว่า กฎหมายฉบับนี้จะไม่ตั้งหน่วยงานขึ้นมาใหม่ เป็นเพียงการให้สำนักบริหารงานการศึกษานอกโรงเรียน (กศน.) ปรับเปลี่ยนภารกิจและชื่อมาเป็นสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย ขั้นตอนต่อไป คณะกรรมการประสานงาน สนช. จะส่งเรื่องไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขอความเห็นชอบในสาระที่ขอแก้ไข และเตรียมเข้าสู่การพิจารณาของ สนช