ล็อบบี้ยิสต์ “แม้ว” เหิมเกริมหนัก ลงทุนซื้อโฆษณาในสื่อไทย เพื่อโจมตีรัฐบาล กรณีบังคับใช้สิทธิผลิตยาติดสิทธิบัตร กล่าวหาไม่ดูแลผู้ป่วยเอดส์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฟันธง “อดีตนายกฯ” อยู่เบื้องหลัง จวกพยายามใส่ความเท็จเพื่อประโยชน์ของผู้ว่าจ้าง ลั่นคดีต่างๆ ที่เกิดขึ้นในรัฐบาลชุดที่แล้วใกล้งวด
นายสุรพงษ์ ชัยนาม รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายต่างประเทศ กล่าวถึงกระแสข่าวที่ว่า มูลนิธิ USA for Innovation ซื้อพื้นที่โฆษณาใน นสพ.ไทย บางฉบับ เพื่อโจมตีรัฐบาลไทยอย่างรุนแรงในการไม่ดูแลผู้ป่วยเอดส์นั้น กล่าวว่า ตนไม่แปลกใจเลยที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เพราะคาดไว้แล้วว่า บ.อีเดลแมน จะใช้วิธีการโฆษณาชวนเชื่อโจมตีรัฐบาลไทย มันทำให้ตนรู้สึกขำกับวิธีการดังกล่าว และไม่อยากสนใจ เพราะ บ.อีเดลแมน จะรับจ้างทำงานแบบนี้โดยไม่สนใจข้อเท็จจริง พยายามใส่ความเท็จอย่างเดียว เพื่อประโยชน์ของผู้ว่าจ้าง
สำหรับเหตุผลที่อ้างว่ารัฐบาลไทยไม่สนใจผู้ป่วยนั้น ความจริงแล้วการที่ลดราคายาเอดส์ คนจนในประเทศด้อยพัฒนาควรได้รับการช่วยเหลือ และเป็นมนุษยธรรมที่ควรเกิดขึ้น แต่บริษัทยาและอดีตนักการเมืองไทย บางคนที่อยู่ต่างประเทศในตอนนี้ ซึ่งขี้ขลาดและเสียประโยชน์ก็ไปว่าจ้าง บ.อีเดลแมน มาโจมตีรัฐบาลไทยว่าละเมิดสิทธิมนุษยชน ไม่มีความเป็นประชาธิปไตย เพื่อรักษาผลประโยชน์ของตัวเองเท่านั้น และน่าจะเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนด้วยซ้ำ เพราะไม่ช่วยเหลือมนุษยชาติด้วยกัน
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า คิดว่าในช่วงจากนี้ไปจะมีการกดดันรัฐบาลไทยแบบนี้ไปเรื่อยๆ ซึ่งวิธีนี้จะทำให้อดีตนักการเมืองคนดังกล่าวได้เปรียบ เพราะบางประเทศที่เสียผลประโยชน์การลงทุนในไทยก็จะใช้เหตุแบบนี้โจมตีรัฐบาลไทย ว่า ไม่เป็นประชาธิปไตย แต่ประเทศเหล่านั้นไม่เคยสนใจว่าการเลือกตั้งมีการโกงหรือไม่ และอดีตรัฐบาลชุดที่แล้วละเมิดสิทธิมนุษยชนมากเพียงใด
ส่วนการตอบโต้นั้น ต้องดูก่อนว่ามีการกล่าวหาและโจมตีประเทศไทยอย่างไร หากกล่าวหาอย่างไร้สาระก็ไม่ควรจะสนใจ และตนเชื่อว่า คนส่วนใหญ่จะไม่สนใจเช่นกัน หากบางคนเชื่อถือเรื่องแบบนี้แสดงว่ามีอคติ ซึ่งอดีตนักการเมืองคนนั้นไร้อำนาจรัฐในการปกป้องตัวเอง แต่มีทุนก็ใช้เวทีต่างประเทศ สื่อต่างประเทศ โจมตีรัฐบาลไทยว่าไม่มีความเป็นประชาธิปไตย แต่ไม่เคยพูดถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นในยุคของตัวเองเลย และยังจ้าง บ.เอเดลแมน ซึ่งมีอดคติและพยายามใช้ทุกหนทางโจมตีรัฐบาลไทย เพราะการตรวจสอบคดีต่างๆ ที่เกิดขึ้นในรัฐบาลชุดที่แล้วใกล้งวดเข้ามาจึงต้องใช้วิธีนี้ต่อสู้
“สังเกตหรือไม่ว่าทำไมเอ็นจีโอ จึงไม่โจมตีรัฐบาล และประเทศส่วนใหญ่ก็ไม่สนใจไทยแล้ว เพราะนายกฯประกาศเรื่องการเลือกตั้งแล้ว เว้นแต่บางประเทศที่เสียประโยชน์ ขณะนี้พรรคพวกของอดีตนักการเมืองหน้าเหลี่ยม พยายามอ้างและเรียกร้องประชาธิปไตยและการเลือกตั้งเพียงอย่างเดียว โดยไม่สนใจว่าประเทศจะเสียหายเพียงใด ประชาธิปไตยมีข้อดี คือประชาชนสามารถขับไล่ผู้นำที่ไม่ชอบธรรมได้ แต่มันก็ไม่ใช่ยาวิเศษที่จะแก้ปัญหาได้ทุกเรื่องและรวดเร็ว การทำงานต้องใช้เวลา” นายสุรพงษ์ กล่าว