กรมชลฯเตือนประชาชนตรวจสอบความมั่นคงของคันกั้นน้ำ พร้อมเสริมคันกั้นน้ำให้สูงขึ้นและขนย้ายสิ่งของไว้บนที่สูง ช่วงน้ำทะเลหนุนสูงระหว่าง 23-26 ต.ค.นี้ ส่วนปริมาณน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาที่นครสวรรค์ ลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ปริมาณน้ำไหลเข้ากรุงเทพฯ ลดลงด้วย ขณะที่กรมอุตุฯออกประกาศเตือนภาคใต้ระวังภัยจากฝนตกหนักส่วนภาคเหนืออากาศเริ่มเย็นแล้ว
นายสามารถ โชคคณาพิทักษ์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาวันนี้ (21 ต.ค.) ว่า เมื่อเวลา 06.00 น. มีปริมาณน้ำไหลผ่านแม่น้ำเจ้าพระยาที่ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ 5,520 ลบ.ม.ต่อวินาที ลดลงจากวันก่อน 165 ลบ.ม.ต่อวินาที ซึ่งปริมาณน้ำที่ จ.นครสวรรค์ เริ่มลดลงเป็นลำดับแล้ว คาดว่าจะลดลงต่อเนื่องในระยะต่อไป
สำหรับที่เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ปริมาณน้ำไหลผ่านอยู่ที่ 4,076 ลบ.ม.ต่อวินาที ลดลงจากวันก่อน 112 ลบ.ม.ต่อวินาที ขณะที่ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนพระรามหก จ.พระนครศรีอยุธยา อยู่ที่ 571.6 ลบ.ม.ต่อวินาที ลดลง 18.4 ลบ.ม.ต่อวินาที และมีปริมาณน้ำไหลผ่าน อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา มาถึงกรุงเทพฯ ใกล้เคียงกับวานนี้ อยู่ที่ 3,617 ลบ.ม.ต่อวินาที หรือลดลง 4 ลบ.ม.ต่อวินาที
ส่วนการผันน้ำเข้าทุ่งต่าง ๆ เพื่อลดปริมาณน้ำผ่านกรุงเทพฯ และปริมณฑลนั้น ณ วันที่ 19 ตุลาคม กรมชลประทานได้มีการผันน้ำเข้าทุ่งไปแล้วรวมทั้งสิ้น 309.43 ล้าน ลบ.ม.
นายสามารถ กล่าวอีกว่า ในระหว่างวันที่ 23-26 ตุลาคมนี้ จะเป็นช่วงน้ำทะเลหนุนสูง เตือนให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงบริเวณต่าง ๆ ตั้งแต่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา จ.ปทุมธานี นนทบุรี กรุงเทพฯ และสมุทรปราการ ให้ตรวจสอบความแข็งแรงของคันกั้นน้ำ พร้อมทั้งเสริมคันกั้นน้ำให้สูงขึ้นและขนย้ายสิ่งของไว้บนที่สูง และเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
ด้านกรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ คาดการณ์สภาวะระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาหน้าบริเวณกองบัญชาการกองทัพเรือ ประจำวันที่ 22 ตุลาคม 2549 น้ำขึ้นเต็มที่เวลา 07.29 น. สูงกว่าระดับน้ำทะเลปานกลาง 2.02 เมตร และเวลา 18.02 น. สูงกว่าระดับน้ำทะเลปานกลาง 1.90 เมตร ส่วนน้ำลงเต็มที่เวลา 01.42 น. สูงกว่าระดับน้ำทะเลปานกลาง 1.00 เมตร และเวลา 13.15 น. สูงกว่าระดับน้ำทะเลปานกลาง 1.60 เมตร
ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานสภาวะอากาศวันนี้ว่า ความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ทำให้มีอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและภาคตะวันออก มีฝนลดลงอยู่ในเกณฑ์ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ สำหรับภาคใต้ มีลมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุม ทำให้มีฝนตกหนักบางแห่งทางตอนบนของภาค บริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ขอให้ประชาชนที่มีบ้านเรือนอาศัยอยู่บริเวณพื้นที่เสี่ยงภัย พื้นที่ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ลุ่มบริเวณจังหวัดที่กล่าวมาระมัดระวังอันตรายภัยจากฝนตกหนักในระยะนี้ไว้ด้วย
นายสามารถ โชคคณาพิทักษ์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาวันนี้ (21 ต.ค.) ว่า เมื่อเวลา 06.00 น. มีปริมาณน้ำไหลผ่านแม่น้ำเจ้าพระยาที่ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ 5,520 ลบ.ม.ต่อวินาที ลดลงจากวันก่อน 165 ลบ.ม.ต่อวินาที ซึ่งปริมาณน้ำที่ จ.นครสวรรค์ เริ่มลดลงเป็นลำดับแล้ว คาดว่าจะลดลงต่อเนื่องในระยะต่อไป
สำหรับที่เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ปริมาณน้ำไหลผ่านอยู่ที่ 4,076 ลบ.ม.ต่อวินาที ลดลงจากวันก่อน 112 ลบ.ม.ต่อวินาที ขณะที่ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนพระรามหก จ.พระนครศรีอยุธยา อยู่ที่ 571.6 ลบ.ม.ต่อวินาที ลดลง 18.4 ลบ.ม.ต่อวินาที และมีปริมาณน้ำไหลผ่าน อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา มาถึงกรุงเทพฯ ใกล้เคียงกับวานนี้ อยู่ที่ 3,617 ลบ.ม.ต่อวินาที หรือลดลง 4 ลบ.ม.ต่อวินาที
ส่วนการผันน้ำเข้าทุ่งต่าง ๆ เพื่อลดปริมาณน้ำผ่านกรุงเทพฯ และปริมณฑลนั้น ณ วันที่ 19 ตุลาคม กรมชลประทานได้มีการผันน้ำเข้าทุ่งไปแล้วรวมทั้งสิ้น 309.43 ล้าน ลบ.ม.
นายสามารถ กล่าวอีกว่า ในระหว่างวันที่ 23-26 ตุลาคมนี้ จะเป็นช่วงน้ำทะเลหนุนสูง เตือนให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงบริเวณต่าง ๆ ตั้งแต่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา จ.ปทุมธานี นนทบุรี กรุงเทพฯ และสมุทรปราการ ให้ตรวจสอบความแข็งแรงของคันกั้นน้ำ พร้อมทั้งเสริมคันกั้นน้ำให้สูงขึ้นและขนย้ายสิ่งของไว้บนที่สูง และเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
ด้านกรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ คาดการณ์สภาวะระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาหน้าบริเวณกองบัญชาการกองทัพเรือ ประจำวันที่ 22 ตุลาคม 2549 น้ำขึ้นเต็มที่เวลา 07.29 น. สูงกว่าระดับน้ำทะเลปานกลาง 2.02 เมตร และเวลา 18.02 น. สูงกว่าระดับน้ำทะเลปานกลาง 1.90 เมตร ส่วนน้ำลงเต็มที่เวลา 01.42 น. สูงกว่าระดับน้ำทะเลปานกลาง 1.00 เมตร และเวลา 13.15 น. สูงกว่าระดับน้ำทะเลปานกลาง 1.60 เมตร
ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานสภาวะอากาศวันนี้ว่า ความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ทำให้มีอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและภาคตะวันออก มีฝนลดลงอยู่ในเกณฑ์ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ สำหรับภาคใต้ มีลมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุม ทำให้มีฝนตกหนักบางแห่งทางตอนบนของภาค บริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ขอให้ประชาชนที่มีบ้านเรือนอาศัยอยู่บริเวณพื้นที่เสี่ยงภัย พื้นที่ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ลุ่มบริเวณจังหวัดที่กล่าวมาระมัดระวังอันตรายภัยจากฝนตกหนักในระยะนี้ไว้ด้วย