“อภิรักษ์” หวั่นน้ำท่วมกรุง แต่ยันจะรับมืออย่างเต็มที่ ชี้ 28 ก.ย.วันวิกฤตของเมืองหลวง เหตุน้ำทะเลหนุนสูงและปริมาณน้ำในเจ้าพระยาสูงเกินกว่าที่จะรองรับได้ สั่งเขตเร่งหาทางป้องกันพื้นที่ที่เคยท่วมเมื่อปีที่แล้วด่วน พร้อมระดมเครื่องสูบน้ำและกระสอบทราย 2 แสนใบสกัด ด้าน ก.เกษตรฯ สั่งกรมชลประทานเร่งเพิ่มการรับน้ำเข้าระบบชลประทานสองฝั่งเจ้าพระยา เพื่อลดผลกระทบจากปัญหาท่วมซ้ำซากเขตภาคกลาง ขณะที่ปลัด สธ.นำมาตรการช่วยเหลือน้ำท่วมในหลายจังหวัด เสนอต่อคณะปฏิรูปฯ พร้อมเตรียมลงพื้นที่ จ.พิจิตร บ่ายวันนี้ หลังน้ำท่วมโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชตะพานหิน
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า ในวันที่ 28 กันยายนนี้ จะมีปริมาณน้ำทะเลหนุนในแม่น้ำเจ้าพระยาขึ้นสูงประกอบกับปริมาณน้ำฝนที่จะตกในพื้นที่ รวมทั้งมีน้ำเหนือไหลหลาก โดยล่าสุดสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาล่าสุดอยู่ที่ 2,300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งถือว่าค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับปริมาณที่รองรับได้ที่ 2,500-3,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ประกอบกับที่มีน้ำเก็บกักไว้ในเขื่อนภูมิพล เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ และเขื่อนสิริกิติ์ ที่มีประมาณ 85% ของแต่ละแห่ง
อย่างไรก็ตาม จากมาตรการที่ กทม.ได้ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการขุดลอกคูคลอง พร่องน้ำในคลองต่างๆ และแก้มลิงทั้ง 20 แห่ง ทำให้มีความพร้อมอย่างเต็มที่ที่จะรองรับปริมาณน้ำในช่วงนี้
นายอภิรักษ์ กล่าวอีกว่า ส่วนการเตรียมการด้านบุคลากรก็พร้อมแล้วเช่นกัน อย่างไรก็ตามกทม.ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ จัดวางกระสอบทรายตามแนวแม่น้ำเจ้าพระยากว่า 200,000 ใบบริเวณที่ยังสร้างเขื่อนกั้นน้ำถาวรไม่แล้วเสร็จซึ่งขณะนี้ดำเนินการเสร็จเพียง 57 กิโลเมตร จาก 77 กิโลเมตร ที่จะดำเนินการเสร็จในปี 2552 นี้
สำหรับพื้นที่ของ กทม.ที่เสี่ยงจะมีน้ำท่วมขัง คือ พื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา พื้นที่ กทม.ฝั่งตะวันออกตรอก ซอก ซอยถนนในหมู่บ้านเก่าที่เคยประสบปัญหาน้ำท่วมเมื่อปีที่ผ่านมาซึ่งตนได้มอบหมายให้เขตรีบไปดำเนินการหาทางป้องกันโดยด่วนแล้ว
นายอภิรักษ์ กล่าวด้วยว่า ส่วนการประสานกับคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข หากมีข้อมูลที่จะต้องรายงานให้ทราบก็จะมอบหมายให้สำนักการระบายน้ำ (สนน.) กทม.เป็นผู้ดำเนินการ
นอกจากนี้ กทม.จะประสานร่วมกับชลประทานเพื่อติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด ซึ่งน้ำจะสูงจากวันที่ 28-30 กันยายนนี้ ทั้งนี้ คณะผู้บริหารจะประสานงานผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อลงพื้นที่ตรวจปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาในวันพรุ่งนี้ (26 ก.ย.) เวลา 13.30 น.
ทุ่มกว่า 3 หมื่นล.พัฒนาสุวรรณภูมิ
ขณะที่ช่วงเช้า ผู้ว่าฯ กทม.ประชุมผู้เกี่ยวข้องที่สำนักผังเมือง เพื่อหารือถึงทิศทางการพัฒนาพื้นที่ชานเมืองด้านตะวันออกของ กทม.เพื่อรองรับการเติบโตหลังเปิดใช้ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยเปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการอุทยานนครในพื้นที่ชานเมืองด้านตะวันออกของ กทม.ว่า กทม.จะนำหลักการพัฒนาเมืองแบบ Eco-City คือ ด้านการใช้ที่ดิน การบริหารจัดการน้ำ อนุรักษ์พื้นที่เกษตรกรรมและพื้นที่สีเขียว การคมนาคมขนส่งที่ลดพลังงาน และรักษาสิ่งแวดล้อม และการสร้างเมืองที่ยั่งยืน โดยมีจุดมุ่งหมาย คือ ชุมชนเข้มแข็ง มีการพัฒนาเมืองอย่างมีแบบแผนไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม เน้นการจัดวางผังเมืองที่อยู่อาศัยที่ได้มาตรฐานสอดคล้องกับสภาพภูมิประเทศ พัฒนาระบบโครงข่ายคมนาคมเชื่อมโยงพื้นที่ศูนย์ชุมชนหลัก 5 ศูนย์ คือ ศูนย์ชุมชนมีนบุรี หนองจอก ลาดกระบัง ลาดกระบังเดิม และประเวศ ที่อยู่รอบสนามบินสุวรรณภูมิและกำหนดมาตรฐานป้องกันและบรรเทาปัญหาน้ำท่วมให้สอดคล้องต่อการใช้ประโยชน์ที่ดินในอนาคต เพื่อรับการเติบโตของเมืองในบริเวณรอบสนามบินสุวรรณภูมิหลังเปิดใช้อย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้ กทม.จะทุ่มงบประมาณภายใต้การดำเนินงาน 10 ปี เป็นเงิน 35,800 ล้านบาท โดยจะนำไปพัฒนาศูนย์ชุมชนทั้ง 5 แห่ง จำนวน 12,752 ล้านบาท และอีก 23,048 ล้านบาท จะนำไปพัฒนาพื้นที่รอบนอกชุมชน โดยจะดึงเจ้าของที่ดินบริเวณดังกล่าวมาหารือร่วมกันเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเก็งราคาที่ดิน และการปลูกสร้างอาคารขวางทางน้ำ โดยจะปรับข้อบัญญัติ กทม.เพื่อจำกัดการพัฒนาพื้นที่โดยรักษาพื้นที่สีเขียวที่เป็นพื้นที่เกษตรกรรมเดิม เพื่อไม่ให้เกิดความแออัดของเมืองในบริเวณดังกล่าว
นอกจากนี้ กทม.ยังมีแผนดำเนินการก่อสร้างโครงการศูนย์นิทรรศการเมือง กทม.ที่อาคารสำนักผังเมือง เขตดินแดง เพื่อเป็นศูนย์ข้อมูลเกี่ยวกับ กทม.แห่งแรกในประเทศไทย ใช้งบประมาณ 320 ล้านบาท คาดว่า จะแล้วเสร็จในวันที่ 5 ธ.ค.2550 ให้ทันเฉลิมฉลองในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระชนมายุครบ 80 พรรษา
นอกจากนี้ นายอภิรักษ์ กล่าวอีกว่า ตนจะสั่งการให้หน่วยงานที่มีพื้นที่ใกล้เคียงกับสนามบินสุวรรณภูมิสำรวจผลกระทบทางด้านการจราจรที่จะมีปริมาณรถเพิ่มขึ้น หลังจากที่เปิดให้บริการในวันที่ 28 กันยายนนี้ รวมทั้งมลภาวะทางเสียงและมลพิษทางสิ่งแวดล้อมที่จะเกิดขึ้นต่อนักเรียน โดยเฉพาะที่เรียนอยู่ในโรงเรียนสังกัด กทม.และประชาชนใกล้พื้นที่ดังกล่าวหรือไม่ ซึ่งจะต้องประเมินปริมาณรถที่เข้ามาในพื้นที่อย่างแน่ชัดช่วงที่เปิดบริการอย่างเป็นทางการก่อนให้หาแนวทางที่แน่ชัดต่อไป ส่วนกรณีการย้ายสนามบินดอนเมืองมายังสนามสุวรรณภูมิที่ต้องเคลื่อนย้ายอุปกรณ์จำนวนมากตั้งแต่คืนวันที่ 27 ก.ย.นี้ กทม.ได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจในการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรอย่างเต็มที่แล้ว
สำหรับในส่วนของ กทม.เรื่องการติดตั้งป้ายแนะนำการเดินทางไปยังสนามบินสุวรรณภูมิขณะแล้วเสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงป้ายเพิ่มเติมที่เป็นภาษาอังกฤษจากสนามบินเข้ามาในพื้นที่ กทม.ซึ่งมั่นใจว่าจะแล้วเสร็จก่อนเปิดใช้สนามบินอย่างแน่นอน สำหรับแผ่นพับแนะนำเส้นทางนั้น กทม.จะทำการแจกจ่ายให้ประชาชนได้ในต้นสัปดาห์นี้
ปลัด สธ.เร่งช่วยเหลือน้ำท่วม
นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เป็นประธานประชุมผู้บริหารระดับสูง โดยมีอธิบดีทุกกรม รองปลัดกระทรวง ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เข้าประชุม พร้อมกล่าวว่า ได้หารือถึงการเตรียมพร้อมด้านการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมและด้านการแพทย์สาธารณสุข เพื่อนำเสนอคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไม่มีการหารือถึงการแต่งตั้งโยกย้ายแต่อย่างใด
นพ.ปราชญ์กล่าวว่า มีหลายพื้นที่ประสบภาวะน้ำท่วมที่ประชุมวันนี้ จึงให้ความสำคัญกับมาตรการรับมือภาวะน้ำท่วมให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ทั้งมาตรการช่วยเหลือทางการแพทย์เบื้องต้น การออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ หน่วยเคลื่อนที่เร็วเตรียมพร้อมควบคุมโรคระบาดที่มาพร้อมกับน้ำท่วม รวมทั้งการดูแลด้านสุขภาพจิต
“พื้นที่จังหวัดพิจิตร สุโขทัย นครสวรรค์ อุทัยธานี น้ำค่อนข้างมาก ทีมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขให้ความช่วยเหลือออกให้ความรู้ประชาชนเกี่ยวกับโรคติดต่อที่มาพร้อมกับน้ำท่วม ตั้งแต่อุจจาระร่วง ตาแดง ไข้เลือดออก โรคฉี่หนู ส่วนงบประมาณด้านการให้บริการคิดว่าไม่มีปัญหา ด้านสาธารณสุขเรามีเจ้าหน้าที่ออกให้บริการดูแลสุขภาพประชาชนแล้ว" นพ.ปราชญ์กล่าว และว่าน้ำท่วม อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร ค่อนข้างสูง ได้เคลื่อนย้ายคนไข้จากโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชตะพานหิน ไปอยู่ที่ปลอดภัย และตนจะลงพื้นที่ อ.ตะพานหิน ในบ่ายวันนี้
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า ในวันที่ 28 กันยายนนี้ จะมีปริมาณน้ำทะเลหนุนในแม่น้ำเจ้าพระยาขึ้นสูงประกอบกับปริมาณน้ำฝนที่จะตกในพื้นที่ รวมทั้งมีน้ำเหนือไหลหลาก โดยล่าสุดสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาล่าสุดอยู่ที่ 2,300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งถือว่าค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับปริมาณที่รองรับได้ที่ 2,500-3,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ประกอบกับที่มีน้ำเก็บกักไว้ในเขื่อนภูมิพล เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ และเขื่อนสิริกิติ์ ที่มีประมาณ 85% ของแต่ละแห่ง
อย่างไรก็ตาม จากมาตรการที่ กทม.ได้ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการขุดลอกคูคลอง พร่องน้ำในคลองต่างๆ และแก้มลิงทั้ง 20 แห่ง ทำให้มีความพร้อมอย่างเต็มที่ที่จะรองรับปริมาณน้ำในช่วงนี้
นายอภิรักษ์ กล่าวอีกว่า ส่วนการเตรียมการด้านบุคลากรก็พร้อมแล้วเช่นกัน อย่างไรก็ตามกทม.ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ จัดวางกระสอบทรายตามแนวแม่น้ำเจ้าพระยากว่า 200,000 ใบบริเวณที่ยังสร้างเขื่อนกั้นน้ำถาวรไม่แล้วเสร็จซึ่งขณะนี้ดำเนินการเสร็จเพียง 57 กิโลเมตร จาก 77 กิโลเมตร ที่จะดำเนินการเสร็จในปี 2552 นี้
สำหรับพื้นที่ของ กทม.ที่เสี่ยงจะมีน้ำท่วมขัง คือ พื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา พื้นที่ กทม.ฝั่งตะวันออกตรอก ซอก ซอยถนนในหมู่บ้านเก่าที่เคยประสบปัญหาน้ำท่วมเมื่อปีที่ผ่านมาซึ่งตนได้มอบหมายให้เขตรีบไปดำเนินการหาทางป้องกันโดยด่วนแล้ว
นายอภิรักษ์ กล่าวด้วยว่า ส่วนการประสานกับคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข หากมีข้อมูลที่จะต้องรายงานให้ทราบก็จะมอบหมายให้สำนักการระบายน้ำ (สนน.) กทม.เป็นผู้ดำเนินการ
นอกจากนี้ กทม.จะประสานร่วมกับชลประทานเพื่อติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด ซึ่งน้ำจะสูงจากวันที่ 28-30 กันยายนนี้ ทั้งนี้ คณะผู้บริหารจะประสานงานผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อลงพื้นที่ตรวจปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาในวันพรุ่งนี้ (26 ก.ย.) เวลา 13.30 น.
ทุ่มกว่า 3 หมื่นล.พัฒนาสุวรรณภูมิ
ขณะที่ช่วงเช้า ผู้ว่าฯ กทม.ประชุมผู้เกี่ยวข้องที่สำนักผังเมือง เพื่อหารือถึงทิศทางการพัฒนาพื้นที่ชานเมืองด้านตะวันออกของ กทม.เพื่อรองรับการเติบโตหลังเปิดใช้ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยเปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการอุทยานนครในพื้นที่ชานเมืองด้านตะวันออกของ กทม.ว่า กทม.จะนำหลักการพัฒนาเมืองแบบ Eco-City คือ ด้านการใช้ที่ดิน การบริหารจัดการน้ำ อนุรักษ์พื้นที่เกษตรกรรมและพื้นที่สีเขียว การคมนาคมขนส่งที่ลดพลังงาน และรักษาสิ่งแวดล้อม และการสร้างเมืองที่ยั่งยืน โดยมีจุดมุ่งหมาย คือ ชุมชนเข้มแข็ง มีการพัฒนาเมืองอย่างมีแบบแผนไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม เน้นการจัดวางผังเมืองที่อยู่อาศัยที่ได้มาตรฐานสอดคล้องกับสภาพภูมิประเทศ พัฒนาระบบโครงข่ายคมนาคมเชื่อมโยงพื้นที่ศูนย์ชุมชนหลัก 5 ศูนย์ คือ ศูนย์ชุมชนมีนบุรี หนองจอก ลาดกระบัง ลาดกระบังเดิม และประเวศ ที่อยู่รอบสนามบินสุวรรณภูมิและกำหนดมาตรฐานป้องกันและบรรเทาปัญหาน้ำท่วมให้สอดคล้องต่อการใช้ประโยชน์ที่ดินในอนาคต เพื่อรับการเติบโตของเมืองในบริเวณรอบสนามบินสุวรรณภูมิหลังเปิดใช้อย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้ กทม.จะทุ่มงบประมาณภายใต้การดำเนินงาน 10 ปี เป็นเงิน 35,800 ล้านบาท โดยจะนำไปพัฒนาศูนย์ชุมชนทั้ง 5 แห่ง จำนวน 12,752 ล้านบาท และอีก 23,048 ล้านบาท จะนำไปพัฒนาพื้นที่รอบนอกชุมชน โดยจะดึงเจ้าของที่ดินบริเวณดังกล่าวมาหารือร่วมกันเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเก็งราคาที่ดิน และการปลูกสร้างอาคารขวางทางน้ำ โดยจะปรับข้อบัญญัติ กทม.เพื่อจำกัดการพัฒนาพื้นที่โดยรักษาพื้นที่สีเขียวที่เป็นพื้นที่เกษตรกรรมเดิม เพื่อไม่ให้เกิดความแออัดของเมืองในบริเวณดังกล่าว
นอกจากนี้ กทม.ยังมีแผนดำเนินการก่อสร้างโครงการศูนย์นิทรรศการเมือง กทม.ที่อาคารสำนักผังเมือง เขตดินแดง เพื่อเป็นศูนย์ข้อมูลเกี่ยวกับ กทม.แห่งแรกในประเทศไทย ใช้งบประมาณ 320 ล้านบาท คาดว่า จะแล้วเสร็จในวันที่ 5 ธ.ค.2550 ให้ทันเฉลิมฉลองในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระชนมายุครบ 80 พรรษา
นอกจากนี้ นายอภิรักษ์ กล่าวอีกว่า ตนจะสั่งการให้หน่วยงานที่มีพื้นที่ใกล้เคียงกับสนามบินสุวรรณภูมิสำรวจผลกระทบทางด้านการจราจรที่จะมีปริมาณรถเพิ่มขึ้น หลังจากที่เปิดให้บริการในวันที่ 28 กันยายนนี้ รวมทั้งมลภาวะทางเสียงและมลพิษทางสิ่งแวดล้อมที่จะเกิดขึ้นต่อนักเรียน โดยเฉพาะที่เรียนอยู่ในโรงเรียนสังกัด กทม.และประชาชนใกล้พื้นที่ดังกล่าวหรือไม่ ซึ่งจะต้องประเมินปริมาณรถที่เข้ามาในพื้นที่อย่างแน่ชัดช่วงที่เปิดบริการอย่างเป็นทางการก่อนให้หาแนวทางที่แน่ชัดต่อไป ส่วนกรณีการย้ายสนามบินดอนเมืองมายังสนามสุวรรณภูมิที่ต้องเคลื่อนย้ายอุปกรณ์จำนวนมากตั้งแต่คืนวันที่ 27 ก.ย.นี้ กทม.ได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจในการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรอย่างเต็มที่แล้ว
สำหรับในส่วนของ กทม.เรื่องการติดตั้งป้ายแนะนำการเดินทางไปยังสนามบินสุวรรณภูมิขณะแล้วเสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงป้ายเพิ่มเติมที่เป็นภาษาอังกฤษจากสนามบินเข้ามาในพื้นที่ กทม.ซึ่งมั่นใจว่าจะแล้วเสร็จก่อนเปิดใช้สนามบินอย่างแน่นอน สำหรับแผ่นพับแนะนำเส้นทางนั้น กทม.จะทำการแจกจ่ายให้ประชาชนได้ในต้นสัปดาห์นี้
ปลัด สธ.เร่งช่วยเหลือน้ำท่วม
นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เป็นประธานประชุมผู้บริหารระดับสูง โดยมีอธิบดีทุกกรม รองปลัดกระทรวง ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เข้าประชุม พร้อมกล่าวว่า ได้หารือถึงการเตรียมพร้อมด้านการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมและด้านการแพทย์สาธารณสุข เพื่อนำเสนอคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไม่มีการหารือถึงการแต่งตั้งโยกย้ายแต่อย่างใด
นพ.ปราชญ์กล่าวว่า มีหลายพื้นที่ประสบภาวะน้ำท่วมที่ประชุมวันนี้ จึงให้ความสำคัญกับมาตรการรับมือภาวะน้ำท่วมให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ทั้งมาตรการช่วยเหลือทางการแพทย์เบื้องต้น การออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ หน่วยเคลื่อนที่เร็วเตรียมพร้อมควบคุมโรคระบาดที่มาพร้อมกับน้ำท่วม รวมทั้งการดูแลด้านสุขภาพจิต
“พื้นที่จังหวัดพิจิตร สุโขทัย นครสวรรค์ อุทัยธานี น้ำค่อนข้างมาก ทีมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขให้ความช่วยเหลือออกให้ความรู้ประชาชนเกี่ยวกับโรคติดต่อที่มาพร้อมกับน้ำท่วม ตั้งแต่อุจจาระร่วง ตาแดง ไข้เลือดออก โรคฉี่หนู ส่วนงบประมาณด้านการให้บริการคิดว่าไม่มีปัญหา ด้านสาธารณสุขเรามีเจ้าหน้าที่ออกให้บริการดูแลสุขภาพประชาชนแล้ว" นพ.ปราชญ์กล่าว และว่าน้ำท่วม อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร ค่อนข้างสูง ได้เคลื่อนย้ายคนไข้จากโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชตะพานหิน ไปอยู่ที่ปลอดภัย และตนจะลงพื้นที่ อ.ตะพานหิน ในบ่ายวันนี้