"พระพยอม" ขอวัยรุ่นแก้คำสบประมาท “ขาลง” อย่าเป็นคนหนักแผ่นดิน เลิกบิด เลิกเกม เลิกยา เลิกเที่ยว ส่วนผู้หญิงเลิกหากินแนวนอนสักที แนะวิธี “แม่ขอร้อง” หากเพื่อนชวนเสีย พร้อมเตือนภัยจะมารุนแรง ระวังตัวให้ดีอย่าสนุกร่าเริงกันมากนัก
พระราชธรรมนิเทศ หรือ พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว กล่าวสอนวัยรุ่นในปัจจุบันว่า อยากให้วัยรุ่นออกมารวมพลังกันกู้หน้าเยาวชน แก้คำสบประมาทจากผู้ใหญ่ที่ว่าวัยรุ่นกำลังอยู่ในช่วง “ขาลง” ขอให้ตั้งเนื้อตั้งตัว ตั้งหน้าตั้งตาเป็นคนดีให้ได้ ไม่เป็นคนที่หนักแผ่นดิน ไม่เป็นภาระให้บ้านเมือง แต่เป็นพลังให้บ้านเมืองเจริญรุ่งเรือง
“บิดมอเตอร์ไซค์ สร้างความเสียหายต่อประเทศชาติ เพราะว่าใช้รถไม่เป็นไปเพื่อเกษตรกรรม พาณิชยกรรม อุตสาหกรรม ไปก่อความรำคาญ แล้วจะมาขอปิดถนนมันจะมากเกินไป อยากให้วัยรุ่นมาสู่ขาขึ้นสักที ขึ้นมาสู่ความดีความงามบ้าง อย่าให้ตกลงไปในเรื่องติดเกม ถูกแร็กนาร็อคล็อกหัวแน่นหมด แล้วก็อย่าติดฟุตบอลพนันบอล อย่าติดยาเสพติด อย่าติดเธคผับคลับบาร์ เที่ยวหามรุ่งหามค่ำ” พระพยอมฯ กล่าว
พระพยอม ยังแสดงความเป็นห่วงต่อวัยรุ่นหญิงว่าน่าเป็นห่วง เริ่มออกหากินแนวนอนกันตั้งแต่เล็ก รีบตั้งหน้าตั้งตาเรียนแล้วหากินแนวตั้งกันมั่งเถอะ อย่าหากินมักง่าย อย่ารวยสบายแล้วเอาเงินไปเที่ยวไปกินไปเล่น จะพาให้ชีวิตมืดมน
พระพยอม กล่าวด้วยว่า การติดเพื่อนมากกว่าครอบครัวก็เป็นปัญหามาก และมักติดไปจนโตมีครอบครัวแล้วก็ยังอดไม่ได้ ซึ่งสมัยที่พระพยอมฯ เป็นวัยรุ่น เวลามีเพื่อนชวนกินเหล้า ก็เอาตัวรอดได้โดยอ้างว่า “แม่ขอร้อง” ซึ่งวัยรุ่นสมัยนี้ก็ยังใช้วิธีนี้ได้ พร้อมเตือนวัยรุ่นด้วยว่า อย่าอยู่ในความสนุกร่าเริงกันมากนัก แต่ให้ระมัดระวังตัว ตั้งท่ารับเหตุร้าย ๆ ไว้บ้าง เพราะชีวิตทุกวันนี้มีภัยพิบัติรุนแรงอยู่รอบด้านและเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
“พระพุทธเจ้าบอกว่า จะร่าเริงไปทำไม ในเมื่อมีภัยรอบด้าน โลกกำลังลุกร้อนเป็นไฟ เดี๋ยวระเบิดกันที่นั่น ฆ่ากันตายที่นี่ น้ำท่วมน้ำจม แผ่นดินไหว อย่าร่าเริงกันนักนะ” พระพยอมฯ กล่าวและว่า “ชีวิตมีภัยและภัยมาแรงขึ้น ต้องระวังตัวให้มากขึ้น อย่ามัวแต่ร่าเริง พอภัยมาก็ตายเลย เพราะมัวแต่ร่าเริง รีบตั้งท่ารับเหตุการณ์ร้าย ๆ ไว้บ้าง เผื่อน้ำท่วมมาทำไง เผื่อแผ่นดินไหวทำไง เผื่อพายุมาทำไง เผื่อเขาบึ้มในกรุงเทพฯ ทำไง จะได้ตั้งตัวระวังไว้”
สำหรับสุขภาพของพระพยอมฯ หลังจากต้องเข้ารักษาอาการอาพาธโรคหลอดลมอักเสบที่วชิรพยาบาลเมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมานั้น พระพยอมฯ เปิดเผยว่า ร่างกายพอทำงานได้ร้อยละ 70 - 80 แล้ว แต่เสียงนั้น เทศน์ได้ครั้งละไม่เกิน 30 นาที แต่ก็พยายามดูแลตัวเองอย่างเต็มที่ อาทิ การฉันยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจร แม้รสขมก็ต้องดื่ม เพราะช่วงนี้ยังคงมีงานหนักอยู่
พระราชธรรมนิเทศ หรือ พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว กล่าวสอนวัยรุ่นในปัจจุบันว่า อยากให้วัยรุ่นออกมารวมพลังกันกู้หน้าเยาวชน แก้คำสบประมาทจากผู้ใหญ่ที่ว่าวัยรุ่นกำลังอยู่ในช่วง “ขาลง” ขอให้ตั้งเนื้อตั้งตัว ตั้งหน้าตั้งตาเป็นคนดีให้ได้ ไม่เป็นคนที่หนักแผ่นดิน ไม่เป็นภาระให้บ้านเมือง แต่เป็นพลังให้บ้านเมืองเจริญรุ่งเรือง
“บิดมอเตอร์ไซค์ สร้างความเสียหายต่อประเทศชาติ เพราะว่าใช้รถไม่เป็นไปเพื่อเกษตรกรรม พาณิชยกรรม อุตสาหกรรม ไปก่อความรำคาญ แล้วจะมาขอปิดถนนมันจะมากเกินไป อยากให้วัยรุ่นมาสู่ขาขึ้นสักที ขึ้นมาสู่ความดีความงามบ้าง อย่าให้ตกลงไปในเรื่องติดเกม ถูกแร็กนาร็อคล็อกหัวแน่นหมด แล้วก็อย่าติดฟุตบอลพนันบอล อย่าติดยาเสพติด อย่าติดเธคผับคลับบาร์ เที่ยวหามรุ่งหามค่ำ” พระพยอมฯ กล่าว
พระพยอม ยังแสดงความเป็นห่วงต่อวัยรุ่นหญิงว่าน่าเป็นห่วง เริ่มออกหากินแนวนอนกันตั้งแต่เล็ก รีบตั้งหน้าตั้งตาเรียนแล้วหากินแนวตั้งกันมั่งเถอะ อย่าหากินมักง่าย อย่ารวยสบายแล้วเอาเงินไปเที่ยวไปกินไปเล่น จะพาให้ชีวิตมืดมน
พระพยอม กล่าวด้วยว่า การติดเพื่อนมากกว่าครอบครัวก็เป็นปัญหามาก และมักติดไปจนโตมีครอบครัวแล้วก็ยังอดไม่ได้ ซึ่งสมัยที่พระพยอมฯ เป็นวัยรุ่น เวลามีเพื่อนชวนกินเหล้า ก็เอาตัวรอดได้โดยอ้างว่า “แม่ขอร้อง” ซึ่งวัยรุ่นสมัยนี้ก็ยังใช้วิธีนี้ได้ พร้อมเตือนวัยรุ่นด้วยว่า อย่าอยู่ในความสนุกร่าเริงกันมากนัก แต่ให้ระมัดระวังตัว ตั้งท่ารับเหตุร้าย ๆ ไว้บ้าง เพราะชีวิตทุกวันนี้มีภัยพิบัติรุนแรงอยู่รอบด้านและเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
“พระพุทธเจ้าบอกว่า จะร่าเริงไปทำไม ในเมื่อมีภัยรอบด้าน โลกกำลังลุกร้อนเป็นไฟ เดี๋ยวระเบิดกันที่นั่น ฆ่ากันตายที่นี่ น้ำท่วมน้ำจม แผ่นดินไหว อย่าร่าเริงกันนักนะ” พระพยอมฯ กล่าวและว่า “ชีวิตมีภัยและภัยมาแรงขึ้น ต้องระวังตัวให้มากขึ้น อย่ามัวแต่ร่าเริง พอภัยมาก็ตายเลย เพราะมัวแต่ร่าเริง รีบตั้งท่ารับเหตุการณ์ร้าย ๆ ไว้บ้าง เผื่อน้ำท่วมมาทำไง เผื่อแผ่นดินไหวทำไง เผื่อพายุมาทำไง เผื่อเขาบึ้มในกรุงเทพฯ ทำไง จะได้ตั้งตัวระวังไว้”
สำหรับสุขภาพของพระพยอมฯ หลังจากต้องเข้ารักษาอาการอาพาธโรคหลอดลมอักเสบที่วชิรพยาบาลเมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมานั้น พระพยอมฯ เปิดเผยว่า ร่างกายพอทำงานได้ร้อยละ 70 - 80 แล้ว แต่เสียงนั้น เทศน์ได้ครั้งละไม่เกิน 30 นาที แต่ก็พยายามดูแลตัวเองอย่างเต็มที่ อาทิ การฉันยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจร แม้รสขมก็ต้องดื่ม เพราะช่วงนี้ยังคงมีงานหนักอยู่