xs
xsm
sm
md
lg

“เจ๊หน่อย” บ่นเสียดาย “สิริกร” อัดปชป.ซื้อส.ส.เรื่องไร้สาระ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“เจ๊หน่อย” บ่นเสียดาย “สิริกร” อ้อนขอให้ทำงานด้านเด็กและสตรีต่อ อย่าเพิ่งหนีหน้า กัดฟันยอมรับรมช.สธ.คนที่ 5 เชื่อทำงานร่วมกันได้ จวก ปชป.ด่าซื้อเสียงเป็นแค่เรื่องเก่าเล่าใหม่ ไล่ให้ไปทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์มากกว่าตำหนิพรรคอื่น

นางสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการปรับคณะรัฐมนตรี โดยมีการแต่ตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกุล เป็น รมช.สาธารณสุขแทนนางสิริกร มณีรินทร์ ว่า เรื่องการปรับ ครม.ครั้งนี้ เกิดขึ้นค่อนข้างรวดเร็ว ซึ่งในเรื่องของการแบ่งงานนั้น ต้องพิจารณาตามความเหมาะสม เนื่องจาก รมช.คนเดิมเป็นผู้หญิง จึงมอบหมายงานส่วนใหญ่ จะเป็นเรื่องเด็ก และสตรี แต่รมช.สาธารณสุขคนใหม่ที่มาแทนนี้ เป็นผู้ชาย คงให้ทำงานที่ลุย ๆ อย่างในเรื่องยาเสพติด และการป้องกันอุบัติเหตุ

อย่างไรก็ตามแม้ว่า นางสิริกรจะพ้นจากตำแหน่ง รมช.สาธารณสุขไปแล้ว แต่จะขอให้ช่วยทำงานต่อ สานโครงการต่าง ๆ ที่ทำอยู่ เพื่อไม่ให้สะดุดลง โดยจะให้เป็นประธานการทำงานต่อไป ทั้งในเรื่องการศึกษา การแก้ไขปัญหาเยาวชน รวมไปถึงการดูแลอาสาสมัครสาธารณสุข

ส่วนที่มีการมองว่า กระทรวงสาธารณสุข มีการเปลี่ยน รมช.บ่อยครั้ง โดย นายอนุทิน เป็น รมช.สาธารณสุข คนที่ 5 ในรัฐบาลชุดนี้ เกรงว่าการทำงานต่าง ๆ จะไม่ต่อเนื่องนั้น นางสุดารัตน์ กล่าวว่า โดยส่วนตัวนั้นไม่อยากเปลี่ยน
รมช.บ่อย ๆ เช่นกัน แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องนโยบาย ดังนั้นไม่ว่าอย่างไรจะต้องทำงานต่อไปให้ได้

นางสุดารัตน์ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทยยังกล่าวต่อในเรื่องที่พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาเปิดข้อมูลการซื้อตัว ส.ส.ในพรรคจาพรรคไทยรักไทยว่า เรื่องนี้ถือเป็นอาการร้อนตัวของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งการย้ายพรรคของ ส.ส. เชื่อว่าหลังวันที่ 11 กรกฎาคม 2547 ซึ่งกฎหมายกำหนดให้สามารถย้ายพรรคได้โดยไม่ต้องเลือกตั้งซ่อมนั้น ทุกอย่างจะมีความชัดเจนว่า ส.ส.คนใดจะย้ายไปพรรคใดบ้าง และเหตุผลของการย้าย ระหว่างเรื่องเงินกับการสอบได้เป็น ส.ส. ทุกคนคงเลือกที่จะสอบได้ ซึ่งปัจจุบันประชาชนจะเลือกตั้งโดยพิจารณาจากการทำงานและนโยบายของพรรคเป็นสำคัญ และ ส.ส.แต่ละคนจะต้องเลือกความพึงพอใจคนในพื้นที่เป็นสำคัญ ดูว่าพรรคไหนเข้าแล้วสอบได้ คงไม่ได้พิจารณาเรื่องเงินเป็นสำคัญ มีเงินแล้วจะใช้ในการเลือกตั้งไม่ได้ เพราะอาจถูกใบแดงได้

“เรื่องซื้อตัว ส.ส.เป็นนิยายเรื่องเก่า เล่าซ้ำไป ซ้ำมาของประชาธิปัตย์หลายรอบ แทนที่จะใช้เวลาให้ร้ายพรรคไทยรักไทย เอาเวลากลับไปดูแลพรรคตัวเองให้ดีจะดีกว่า ทำอย่างไรให้ ส.ส.ในพรรคอยู่กับตัวเอง ร้อยทั้งร้อยก็เป็นเรื่องนโยบาย ดังนั้น ประชาธิปัตย์ น่าจะไปคิดนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากกว่ามาเสียเวลาโจมตีแบบนี้”

รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวด้วยว่ากรณีที่ นายทวี สุรบาล ส.ส.จังหวัดตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งเงื่อนไขย้ายเข้าพรรคไทยรักไทยจะต้องได้เป็นรัฐมนตรีนั้น เรื่องรัฐมนตรีนั้นจะต้องพิจารณาความสามารถและความเหมาะสม ทางพรรคคงไม่ไปเจราจรให้คนเข้าพรรคในทำนองนั้น

นางสุดารัตน์ กล่าวเชื่อมั่นว่า ในส่วนพื้นที่ กทม.ที่ตนดูแลอยู่จะไม่มี ส.ส.พรรคไทยรักไทยคนใดย้ายพรรคแน่นอน เพราะไม่มีใครอยากสอบตกเว้นแต่เพียงเขตที่ยังเว้นว่างผู้สมัครอยู่ 9 เขต ที่จะต้องคัดเลือกผู้สมัคร ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา
กำลังโหลดความคิดเห็น