จับทันทีที่แลนด์ดิ้ง!! ป.ป.ช.-ตร. รวบอดีตรอง ผอ.ท่าอากาศยานภูเก็ต คาสนามบินสุวรรณภูมิ เหตุเอื้อนิติบุคคลขาดคุณสมบัติรับโครงการจัดจ้างตกแต่งสวนหย่อม วงเงินกว่า 7 ล้านบาท เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการส่วนเครื่องกล ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
วันนี้ (26ก.ย.) นายสุรพงษ์อินทรถาวร รองเลขาธิการป.ป.ช. เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่กลุ่มสืบสวนและปฏิบัติการข่าว 2 สำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงาน ป.ป.ช. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวนปราบปรามกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 จับกุมตัวนายมนัส (ขอสงวนนามสกุล) บุคคลตามหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ที่ จ.54/2568 ลงวันที่ 17 กันยายน 2568 ในข้อหากระทำความผิดฐาน “เป็นพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 11 และฐาน “เป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐกระทำความผิดหรือมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรมเพื่อเอื้ออำนวยแก่ผู้เข้าทำการเสนอราคารายใด” ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 12 สืบเนื่องจากนายมนัสฯ ในขณะดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการส่วนเครื่องกล (ระดับ 8) ฝ่ายไฟฟ้าและเครื่องกล ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้รับแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการจัดจ้างโดยวิธีพิเศษเพื่อดำเนินการหาผู้รับจ้างงานประดับตกแต่งและดูแลไม้ประดับภายในพื้นที่อาคารเทียบเครื่องบิน C, E, F, G ชั้น 4 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ วงเงิน 7,189,105.80 บาท แต่กลับเอื้ออำนวยให้นิติบุคคลที่ไม่มีคุณสมบัติได้รับการคัดเลือก ส่งผลให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เสียประโยชน์จากการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่สำนักสืบสวนฯ ได้สืบทราบว่านายมนัสฯ จะเดินทางกลับเข้าประเทศไทยด้วยสายการบิน Bangkok Airways เที่ยวบิน PG 4170 จากท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ วันที่ 26 กันยายน 2568 เวลา 04.40 น. เมื่อผู้ถูกกล่าวหาเดินทางมาถึง เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. และเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ได้ร่วมกันจับกุม ณ ด่านตรวจคนเข้าเมือง (ขาเข้า) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยแสดงหมายจับและแจ้งข้อกล่าวหาพร้อมสิทธิตามกฎหมาย จากนั้นได้ดำเนินการตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 มาตรา 22 และมาตรา 23 ก่อนนำตัวไปทำบันทึกการจับกุมที่สถานีตำรวจภูธรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และควบคุมตัวส่งสำนักคดี สำนักงาน ป.ป.ช. เพื่อฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ต่อไป