“อ.ปานเทพ” เผย 6 วันผ่านไปมีผู้ร่วมบริจาคกับโครงการแอนตี้โดรน 99 ระบบ รวม 22.3 ล้านบาท สามารถนำไปจัดทำได้ 10 ระบบเพื่อเตรียมส่งให้กองทัพภาคที่ 2 และยังเปิดรับบริจาคต่อเนื่องเพื่อส่งมอบให้ครบ 99 ระบบตามที่แม่ทัพภาคที่ 2 แจ้งความต้องการมา
วันนี้ (8 ก.ย.) นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต และประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก “ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์” ถึงความคืบหน้าของการเปิดรับบริจาคในโครงการแอนตี้โดรนตามความต้องการของกองทัพภาคที่ 2 ว่า 6 วันผ่านไปมีผู้ร่วมบริจาคกับโครงการแอนตี้โดรน 99 ระบบ รวม 22.3 ล้านบาท สามารถนำไปจัดทำได้ 10 ระบบเพื่อเตรียมส่งให้กองทัพภาคที่ 2
ตามที่ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้แจ้งด้วยหนังสือด่วนที่สุด ที่ กห 0482/3832 เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2568 โดยแจ้งให้ทราบว่าระบบแอนตี้โดรนที่มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินที่มอบไปให้ 20 ระบบนั้นมีประสิทธิภาพสูงและแก้ปัญหาการต่อต้านโดรนฝั่งตรงข้ามได้ดี และยังแจ้งผลจากการสอบถามของมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินว่าทางกองทัพภาคที่ 2 มีความต้องการแอนตี้โดรนให้กับทหารอีก 99 ระบบ โดย 1 ระบบที่มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินสั่งทำขึ้นนั้นมีมูลค่าระบบละ 2,140,000 บาท ซึ่งต้องใช้งบประมาณทั้งสิ้น 211,860,000 บาท
ด้วยเล็งเห็นถึงความเร่งด่วนและความจำเป็นต้องใช้งานเพื่อรักษาความปลอดภัยในชีวิตและร่างกายของทหารไทยที่มีความเสี่ยงอาจถูกโจมตีจากโดรนทิ้งระเบิดจากฝั่งกัมพูชามากขึ้น มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินจึงได้ตัดสินใจชะลอโครงการโดรนพิเศษที่เป็นความลับทางราชการเอาไว้ก่อน เพื่อมาจัดทำแอนตี้โดรนให้กับกองทัพภาคที่ 2 ซึ่งเป็นโครงการเร่งด่วนในขณะนี้
มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินจึงนำเงินที่เหลือทั้งหมดในโครงการโดรนพิเศษที่เป็นความลับทางราชการจำนวน 53.5 ล้านบาท สั่งทำแอนตี้โดรนเร่งด่วนไปก่อน 25 ระบบ และเริ่มเปิดรับบริจาคเพิ่มเติมโดยทันที
และนับตั้งแต่เช้าวันที่ 2 กันยายน 2568-เช้าวันที่ 8 กันยายน 2568 ประมาณ 6 วันที่ผ่านมามีผู้บริจาคเพิ่มเข้ามาอีก 22.3 ล้านบาท ทำให้สามารถสั่งทำเพิ่มขึ้นได้อีก 10 ระบบ รวมเป็น 35 ระบบ (คิดเป็นร้อยละ 35.35 ของความต้องการทั้งหมด)
ดังนั้นคงเหลือส่วนที่ยังขาดแอนตี้โดรนอยู่อีก 64 ระบบ มูลค่า 136,960,000 บาท ซึ่งทางมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินจะดำเนินการเปิดรับบริจาคต่อไปจนครบจำนวน หรือสิ้นสุดโครงการตามการเกษียณอายุของพลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ในวันที่ 30 กันยายน 2568
ทางมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินขอกราบขอบพระคุณทุกท่านที่มีส่วนร่วมในโครงการนี้เพื่อรักษาชีวิตและเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของทหารที่มีความเสี่ยงที่จะถูกโจมตีโดยโดรนทิ้งระเบิดจากฝั่งตรงกันข้ามมากขึ้น
ในขณะที่ประเทศไทยอยู่ระหว่างที่รัฐบาลรักษาการและกำลังจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง ต่อให้มีงบประมาณที่ใช้จากงบกลางได้หรือใช้วิธีพิเศษในการเร่งรัดแล้วก็ตาม ยังต้องมีกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างภายใต้ระเบียบของทางราชการที่ต้องใช้เวลา 4-6 เดือนขึ้นไป กว่าจะได้อุปกรณ์ที่ต้องการ ซึ่งอาจจะไม่ทันต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลาระหว่างไทย-กัมพูชา
มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินจึงกราบเรียนมาเพื่อแจ้งต่อพี่น้องประชาชนให้ทราบในโครงการดังกล่าวโดยท่านที่สนใจสามารถเข้าร่วมบริจาคโครงการเพื่อจัดซื้อแอนตี้โดรนไทยให้กับกองทัพภาคที่สองได้ที่ บัญชีออมทรัพย์ มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ธนาคารกสิกรไทย เลขที่ 008-2-18199-9 (โปรดระวังมิจฉาชีพ ไม่มีสแกนคิวอาร์โค้ด หรือกดลิงก์บัญชีใดๆ เด็ดขาด)
โดยเงินทุกบาทของทุกท่านจะเปิดเผย โปร่งใส และมีประสิทธิภาพจริงในการใช้งานเหมือนกับช่วงเวลาที่ผ่านมา และเป็นส่วนหนึ่งในประวัติศาสตร์ของประชาชนที่สนับสนุนกองทัพในการปกป้องอธิปไตย และทำให้ทหารมีความปลอดภัย อย่างน่าภาคภูมิใจสืบไป
ด้วยจิตคารวะและกราบขอบพระคุณทุกท่านมา ณ โอกาสนี้
ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน
8 กันยายน 2568