“ธนกร” ย้อน พท.ตอนมีเวลาแสดงความจริงใจ ไม่คิดทำ เอาแต่โทษทุกคน ยกเว้นตัวเอง ชี้ วันสุดท้ายก็ยอมรับข้อเสนอทุกข้อเหมือนกัน เข้าข่ายข้อตกลง หรือแลกเปลี่ยนผลประโยชน์กันหรือไม่ เหน็บหรือแค้นที่เขาไม่เชื่อใจ วอน ให้โอกาส “อนุทิน” ได้บริหารประเทศก่อน เชื่อ เป็นคนพูดแล้วทำ ยึดมั่นในชาติและสถาบัน
วันนี้ (8 ก.ย.) นายธนกร วังบุญคงชนะ อดีตรองหัวหน้าพรรค และอดีต สส.บัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ สส.พรรคเพื่อไทย เข้าชื่อถึงประธานสภา เพื่อขอให้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกรณีที่พรรคภูมิใจไทย และพรรคประชาชน ร่วมกันทำ MOA ว่า เข้าข่ายครอบงำพรรคการเมือง และก้าวก่ายแทรกแซงเพื่อแลกเปลี่ยนผลประโยชน์หรือไม่ ว่า วันนี้พรรคเพื่อไทยโทษทุกคน ยกเว้นอย่างเดียว คือ ไม่เคยโทษตัวเองเลย ว่า ที่ผ่านมาตัวเองจริงใจกับคนอื่นแค่ไหน ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ พรรคเพื่อไทยเองก็ยังเสนอว่า หากพรรคประชาชนสนับสนุนพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล ต่อไปก็พร้อมที่จะยุบสภา ทันที แบบนี้ถือว่าเป็นข้อตกลงหรือการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์กันหรือไม่
นายธนกร กล่าวต่อว่า พรรคเพื่อไทย อย่าทำตัวเหมือนคนขี้ลืม ทั้งๆ ที่การตั้งรัฐบาลก่อนหน้านี้ พรรคเพื่อไทยเองไม่ใช่หรือที่ไปผิดสัญญากับพรรคประชาชน จนเขาไม่กล้าเชื่อใจอีกใช่หรือไม่ และในการตั้งรัฐบาลครั้งนี้ พรรคเพื่อไทยก็มีเวลาแสดงความจริงใจผ่านการเจรจาพอๆ กับพรรคภูมิใจไทย แต่พรรคเพื่อไทยก็เลือกที่จะไม่ทำ แล้วแบบนี้จะให้ใครกล้าเชื่อใจได้อีก ขนาดนายชัยเกษม นิติสิริ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย แท้ๆ แทนที่เราจะได้เห็นความสามัคคีของคนพรรคเพื่อไทยที่ประกาศจะสนับสนุนให้นายชัยเกษม เป็นนายกรัฐมนตรี แต่กลับเห็นแต่ภาพความไม่แน่นอน ลูกเรือกระโดดหนีตายเป็นทิวแถว และแม้แต่นายชัยเกษมเอง ก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพรรคจะสนับสนุนตัวเองจริงหรือไม่ จนกระทั่งวันสุดท้าย
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชาติ ระบุว่า การยื่นศาลรัฐธรรมนูญกรณีคุณสมบัตินายกรัฐมนตรีคนใหม่ มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์หรือไม่ เพราะถูกตรวจสอบทั้งคดีฮั้ว สว. และที่ดินเขากระโดง จะทำเมื่อใดก็ได้ นายธนกร กล่าวว่า วันนี้ยังไม่มีคำตัดสินใดๆ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาเลย ท่านนายกรัฐมนตรีจึงยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่อยากให้รีบเล่นเกมป้ายสีเพียงเพื่อหวังให้คนอื่นต้องแปดเปื้อน ทั้งนี้ อยากให้พรรคประชาชาติทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านที่เข้มแข็งในสภา ดีกว่าเป็นฝ่ายแค้นที่อ่อนแอบนเวทีการเมืองไทย แล้วประเทศและประชาชนจะได้ประโยชน์มากที่สุด
“ขอโอกาสให้ท่านอนุทินได้ทำงานเพื่อประเทศก่อน เพราะท่านเป็นผู้ยึดมั่นในชาติและสถาบันพระมหากษัตริย์ นอกจากนี้ ยังเป็นมือประสานทุกทิศ รวมถึงกองทัพด้วย ที่สำคัญ เป็นคนประนีประนอมแต่เด็ดขาด มีประสบการณ์การบริหารราชการมาต่อเนื่องหลายปี มีวิสัยทัศน์คมชัด รักษาสัจจะ พูดแล้วทำ เชื่อว่าจะสามารถแก้ปัญหาต่างๆ ให้กับประเทศได้อย่างแน่นอน” นายธนกร กล่าว