กองทัพภาคที่ 2 เตรียมแถลงข่าววันนี้ หลังส่งหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดลงเก็บหลักฐานที่ช่องบก พบ 80% เป็นกับระเบิดใหม่ ขณะ “แม่ทัพกุ้ง” ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงรายงานผู้บังคับบัญชา พร้อมเรียกร้องเขมรโชว์หลักฐานถ้าอ้างว่าไม่ได้นำมาวาง เผยจุดเกิดเหตุห่างแนวคูเลตที่เขมรเข้ามาขุดเพียง 20 เมตร
วันนี้ (19 ก.ค.) มีรายงานความคืบหน้ากรณีทหารไทยเหยียบกับระเบิดที่ชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก จ.อุบลราชธานี ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย หลังจากเมื่อวานนี้ กองทัพภาคที่ 2 ได้ส่งหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดและพิสูจน์หลักฐานลงพื้นที่ช่องบกจุดเกิดเหตุ เพื่อเก็บหลักฐานเพิ่มเติมนำพิสูจน์ทราบ ล่าสุดผลการพิสูจน์พบว่า 80% เป็นระเบิดที่นำมาวางใหม่ ไม่ใช่ของเก่า โดย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อรายงานผู้บังคับบัญชา และดำเนินการในขั้นตอนอื่นต่อไป
สำหรับกรณีที่ทางกัมพูชาได้ปฏิเสธว่าไม่ได้วางทุ่นระเบิด พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าพื้นที่ถูกวางระเบิดเป็นพื้นที่ฝ่ายไทยนั้น แม่ทัพภาคที่ 2 เรียกร้องให้กัมพูชานำหลักฐานมายืนยันกับฝ่ายไทย
มีรายงานด้วยว่า ในวันนี้ (19 ก.ค. 68) กองทัพภาคที่ 2 จะแถลงข่าวเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงให้ประชาชนรับทราบ ส่วนแม่ทัพภาคที่ 2 จะเดินทางลงพื้นที่ตรวจความเรียบร้อย ที่ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์
นอกจากนี้ มีรายงานว่า จากการตรวจสอบพื้นที่บริเวณที่เกิดเหตุทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิด พบว่า จุดเริ่มต้นแนวคูเลตที่ทหารกัมพูชากลบ เมื่อ 8 มิ.ย.2568 ก่อนที่จะยอมถอนกำลังออกไปหลังการเจรจา
เริ่มจากพิกัด 48PWA2160086000 ไปทางทิศ ตะวันออกเฉียงใต้ ขนานเส้นเขตแดน ไปจนถึงรอยต่อ 3 ประเทศ ซึ่งจุดที่ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิด (48PWA2183985888) ห่างจากแนวคูเลต ระยะโดยประมาณ 20-30 เมตร