ดราม่า 'ชาล็อต ออสติน' หลัง 'ณวัฒน์' ออกมาแฉพฤติกรรมเปลี่ยนไปจนน่าอาย ทั้งเหวี่ยงวีนและตะคอกใส่ตน ล่าสุดเพจดังออกโรงวิเคราะห์ อาจไม่ใช่แค่ 'โรคดารา' แต่อาจเป็นสัญญาณสุขภาพจิตพังจากภาวะ Burnout หลังต้องแบกความคาดหวังจนล้าสะสม ชี้การพยายามแหกกฎคือทางเลือกเพื่อพิสูจน์ว่ายังมีสิทธิ์ในชีวิตตัวเอง
จากกรณี “ณวัฒน์” ลั่น “ชาล็อต” ลืมตัวก็ต้องเตือน ไม่อยากจะเชื่อว่าชาล็อตจะเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ พฤติกรรมแต่ละอย่างทำเหมือนไม่มีต้นสังกัดคอยสั่งสอน และพฤติกรรมที่ปฎิบัติกับแฟนๆ แล้วรู้สึกอาย ไม่ชอบที่สุดคือตะคอกใส่ตน ทั้งๆ ที่ตนดูแลทำทุกอย่างให้อย่างดีที่สุด
ล่าสุด เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. เพจ “คุณบุญรอด” ออกมาโพสต์ข้อความ ในประเด็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของ ชาล็อต ออสติน ซึ่งหลายคนมองว่าเป็นอาการ "โรคดารา" (Star Syndrome) เช่น การเหวี่ยงวีนทีมงาน หรือไม่ทำตามแผนงาน บทวิเคราะห์นี้เสนอให้มองลึกไปถึง แง่มุมสุขภาพจิต ที่อาจเป็นสาเหตุเบื้องหลัง โดยทางเพจได้ระบุข้อความว่า
“โรคดารา หรือ Star Syndrome เป็นคำแสลงที่ไว้พูดถึงคนดังที่ทำตัวเปลี่ยนไปเมื่อประสบความสำเร็จ จนคนรอบข้างรู้สึกไม่โอเค ซึ่งขณะนี้สังคมกำลังมองว่า ชาล็อต ออสติน กำลังทำตัวมีปัญหา จากคำบอกเล่าของต้นสังกัด
ซึ่งพฤติกรรมหน้าเหวี่ยง วีนใส่ทีมงาน หรือไม่ทำตามแผนงาน เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ทว่าเหตุผลลึกๆ อาจมาจากภาวะ burnout กดดันสะสมจากการเป็นศิลปินเบอร์ต้นๆ ทึ่ต้องแบกรับความคาดหวังของต้นสังกัด เรามาคิดตามกัน
การโวยวายว่า "ทำไมต้องใช้แต่หนู" อาจดูเหมือน เด็กขี้เกียจ เกี่ยงงาน หรือก้าวร้าว ก็ได้ แต่ลึกๆ ก็อาจจะเป็นการประท้วง เพราะจิตใจที่อ่อนล้า แบกรับบางอย่างไม่ไหว ตามประสามนุษย์ เมื่อถึงจุดนึง คนเราจะเลือก Fight or Flight จนอาจเลือกแสดงออกในแบบที่ไม่ดีก็ได้
การทำหน้าบึ้ง ไม่อยากได้เงินที่มีคนรอมอบ
อาจมองว่า อวดดี หยิ่งยะโสก็ได้ แต่เมื่อครเราเครียดสะสมมากๆ ความสุขทางใจมันหายไป เงิน หรือชื่อเสียง ก็อาจจะหมดความหมาย
การแหกกฎ ไม่ร้องเพลงที่ต้นสังกัดเตรียมไว้ และการพยายามทำตัวมีปัญหาต่างๆ ก็เป็นความไม่มีอาชีพจริง แต่อีกมุมคือ เมื่อมนุษย์รู้สึกว่าชีวิตถูก "บงการ" ทุกฝีก้าว เขาจะพยายามทำอะไรก็ได้เล็กๆ น้อยๆ เพื่อพิสูจน์ว่า "ฉันยังมีสิทธิ์เลือกเองได้"


