xs
xsm
sm
md
lg

โซเชียลแห่แชร์! อุทาหรณ์ชายรักสุขภาพ ปล่อยงูสวัดไว้นาน 6 วัน ทำลายเส้นประสาท-หูหนวก จ่ายค่ารักษาร้อยเท่าของค่าวัคซีน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อุทาหรณ์คนรักสุขภาพ คุณตาวัย 74 ปีแชร์ประสบการณ์หลังล้มป่วยด้วยโรคงูสวัดขึ้นใบหน้า ลุกลามทำลายเส้นประสาทและแก้วหูจนสูญเสียการได้ยินไปกว่า 85% เผยความเจ็บปวดรุนแรงตลอด 24 ชั่วโมงจนต้องใช้ความร้อนประคบกลบปวดและกัดฟันจนหัก ซ้ำร้ายยังมีโรคแทรกซ้อนจนค่ารักษาพยาบาลพุ่งสูงเกือบ 1 ล้านบาท เจ้าตัวเผยแพร่เรื่องราวเป็นวิทยาทาน กระตุ้นกลุ่มเสี่ยงอายุ 60+ ฉีดวัคซีนป้องกัน ชี้ส่วนต่างค่ารักษาแพงกว่าค่าวัคซีนถึง 100 เท่า

เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ”วินธชา ศิริทวีสุข“ ชายวัย 74 ปี ซึ่งเป็นคนดูแลสุขภาพอย่างดีมาโดยตลอด ประสบความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสจาก "โรคงูสวัด" ที่ใบหน้าในช่วงปลายปี 2567 โดยมีสาเหตุสำคัญมาจาก ความเครียดและการพักผ่อนไม่เพียงพอ ซึ่งเป็นจุดอ่อนให้ไวรัสโจมตีทั้งนี้ ผู้โพสต์ได้ระบุข้อความว่า

“ปี 2568 : กับค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ เฉียด 1 ล้าน บาท เหลือทอนไม่กี่ตังค์

ผมเป็นคนรักสุขภาพ

ผมเดินเช้า-เย็น รวมกว่า 6 กม.

ผมงดกาแฟ ดื่มแต่โกโก้ เปล่า ๆ ไม่ใส่นมหรือน้ำตาล

ผมทานผัก หลีกเลี่ยงคาร์โบไฮเดรท

ผมสุขภาพแข็งแรง แต่มี “ความเครียด” นอนไม่เพียงพอ

เมื่อ ปลาย ธันวาฯ 67 ผมเป็น “งูสวัด” ที่ใบหน้าข้างขวา

การเคลียด และ นอนหลับ ไม่เพียงพอ เป็น “จุดอ่ิอน” ให้ งูสวัด โจมตีได้

ความเจ็บปวด “สุดแสนจะทรมาณ” ที่สุดในชีวิต

ขณะที่นอนติดเตียงเพราะ “ความเจ็บปวด”

ผมเกิดอาการ “ใส้ตัน” ต้องผ่าตัด เป็นผู้ป่วย “นอนติดเตียง” ร่วม 10 วัน

ค่าผ่าตัด นอน รพ. 10 วัน เป็นเงิน 6 แสน 5 หมื่นบาท

ผมหายจากอาการป่วย “งูสวัด” ใช้เวลารักษาเพียงแค่ 4-5 วัน (กินยาฆ่าไวรัสแบบ โควิท 19) ครบโดสก็หาย

แต่การรักษา “อาการปวด” จากเส้นประสาท“อักเสบ” ที่ใบหน้า เกือบ 1 ปี เต็ม

ป่านนี้ ยังมีอาการชาที่ใบหน้าข้างขวา รบกวน ทุกวัน

ทุกวันนี้ ใบหน้าด้านขวายังชา ยังตึง ยังเจ็บอยู่เลย แม้ทุเลาลงเยอะแล้ว

จึงต้องทานยา เช้า-เย็น ทุกวัน

ผมรักษาความเจ็บปวด ด้วยวิธีฝังเข็ม รักษาใบหน้า

และ ถือโอกาส ขอให้ แพทย์ฝังเข็ม แก้หมอนรองกระดูกทับเส้น

รักษาอาการปวดแขน ซ้าย-ขวา

รักษาอาการปวดขาซ้าย-ขวา

รักษาอาการ ปวดหัวไหล่ ซ้าย-ขวา

รักษาอาการปวดหลัง ซ้าย-ขวา

รวม 22 สัปดาห์ สัปดาห์ละ ครั้ง ๆ ละ 1 พันบาท

อ้อ เกือบลืม “อาการปวด” จากเส้นประสาท“อักเสบ” ที่ใบหน้า

ในช่วง 4 เดือนแรกหลังรักษา “งูสวัด“ แล้ว

คุณหมอบอกว่า มันเกิดจาก ”ปลายประสาท“ อักเสบ

ทำให้ ”ปวดร้าว“ ที่ใบหน้า อย่างรุนแรง

มันปวดทุก “วินาที” ปวดตลอด 24 ชม.

มันปวดแม้ช่วงนอนหลับ ปวดจน ผม “กัดฟัน” ในยามหลับแบบสุดฤทธิ์ อย่างไม่รู้ตัว

จนฟันหน้า หัก 3 ซี่ ฟันกรามหนัก 1 ซี่

ค่าทำรากฟันเทียม เบ็ดเสร็จ เฉียด 1. 5 แสนบาท

เบ็ดเสร็จ รวมค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ มันจึงสูงเฉียด 1 ล้าน บาท เหลือทอนไม่กี่ตังค์

เสียเงิน นั้น เรื่องนึง แต่ อาการปวดเพราะ “งูสวัด” ที่ใบหน้า มัน ”ทรมาณมาก”

งูสวัด กัดกิน เส้นประสาท คู่ที่ 5 บนใบหน้าข้างขวา ไวรัสมันลามไป “กินแก้วหู” ข้างขวา

ความสามารถในการได้ยิน

ข้างซ้าย 100% ข้างขวา 15%

ทุกวันนี้ ผมเหลือแก้วหู “ข้างซ้าย” ข้างเดียว

ท่านที่อ่านมาถึงบรรทัดนี้ ถ้าท่านอายุ 60+

ผมแนะนำ ฉีดวัคซีน ป้องกัน งูสวัดเถอะ

ฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 3 เดือน ค่าใช้จ่ายเป็น เงินประมาณ หมื่นต้นๆ ป้องกัน 10 ปี

ผมขอเรียนท่านว่า จ่ายค่าวัคซีน หมื่นนิดๆ ดีกว่า ป่วยแล้วไปรักษา ทรมาณมาก

เพราะเมื่อ มาเปรียบเทียบค่าใช้จ่าย

การเป็น งูสวัด ค่ารักษา เฉียดล้าน

ค่าใช้จ่าย มัน ต่างกัน “ร้อยเท่า” เลยครับ

ถ้าท่าน “ยังลังเลใจ” ขอให้กลับไปอ่านบรรทัดแรก อย่างช้าๆ อีกครั้ง

ผมอายุ 74 ปี ความเจ็บปวดจากงูสวัด ทำให้ผมนอนติดเตียง กว่า 4 เดือน เป็นช่วงที่ “ทรมานที่สุด” ในชีวิต

ผมไม่เคย “คิดสั้น” มีความคิดแต่เพียงว่า

“ทำไมในโลกนี้ จึงมีโรค ที่สร้างความเจ็บปวด ได้โหดร้ายขนาดนี้”

การต่อสู้กับความเจ็บปวดอันโหดร้าย

ผมแก้ความเจ็บปวด ด้วยการใช้ผ้าเช็ดหน้า “ชุบน้ำเดือด” ประคบที่ใบหน้ทข้างขวา

ใช้ความร้อน กลบ ความเจ็บปวด

จนใบหน้าข้างขวา burn

กลางคืน ผมใช้แผ่น Neobun ติดทั่วใบหน้าด้านขวา เพื่อบรรเทาปวด

ภรรยา ไม่เห็นด้วย แพทย์ไม่แนะนำให้ทำ

แต่ คนเป็นงูสวัด แล้วเจ็บปวด “จนเหลือทน” หน้า burn กลายเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อย

คิดในใจ ให้ความเจ็บปวดมันบรรเทาลงก็พอ

ที่เล่ามา ผมก็ทานยา “รักษาปลายประสาทอักเสบ” เช้า เย็น ตามแพทย์สั่ง นะ

แต่ยา มันบรรเทาความเจ็บปวด ได้ซัก 2% มั้ง

ผมจึงตั้งปณิธาน จะเผยแพร่เรื่อง “ความร้ายกาจ” ของการป่วยโรคงูสวัด ให้สังคมได้รับรู้ เป็น วิทยาทาน

อีกนิดกับความเจ็บปวด ช่วงที่ผมค่อยๆฟื้นจากยาสลบในผ่าตัด ใส้ตัน

แพทย์ ต้องตัดสินใจใช้ มอร์ฟีน ช่วย และมัดผมไว้กับเตียง เพราะ ความเจ็บปวด ที่ใบหน้า

@มันทำให้ผมดิ้นรนขัดขืน

ผมเขียนบทความนี้ และ เอาภาพถ่ายใบหน้าของผมที่ “อักเสบ” ด้านขวา ให้ท่านดู

เขียนเพื่อ “เพื่อนร่วมโลก” จะได้ รอดพ้นจากทุกข์ ของโรคภัยนี้

ขออวยพรให้ท่านผู้อ่าน จงปลอดภัยจากโรคภัยไข้เจ็บทุกประการเทอญ

อาการป่วย

1. วันแรก ปวดที่ “รูหู” ข้างขวา ลามมาทั่วใบหน้า ขวา ถึงคาง

ปวดทั้งวันทั้งคืน จนเอา counterpain ทา แต่มัน burn ต้องล้างออก

พบแพทย์ เอา “กล้องส่องรูหู” ไม่พบ อะไรผิดปกติ

2. วันที่ 2 มีอาการเหมือนเดิม ปวดที่ “รูหู” ข้างขวา ลามมาทั่วใบหน้า ขวา ถึงคาง

ปวดทั้งวันทั้งคืน จนเอา ยาหม่อง ทา แต่มัน burn ต้องล้างออก

พบแพทย์ เอา “กล้องส่องรูหู” ไม่พบ อะไรผิดปกติ

3. วันที่ 3 เริ่มมีผื่น เกิดขึ้น บนศรีษะด้านขวา และใบหน้า ด้านขวา และในปาก มีผดขึ้นในช่องระหว่างแก้มกับเหงือก

เพื่อนแนะนำให้ไปพบแพทย์ ทางหู ตา คอจมูก อีก รพ.

แพทย์ วินิจฉัยว่า เป็น อาการ ประสาทเส้นที่ 5 ไปกดทับกับ เส้นเลือด อะไรทำนองนั้น

ให้ยาแก้ปวดมาทาน แต่ก็ไม่ช่วยอะไร?

4. ผมเดินทางไปต่างจังหวัด 2 วัน เพื่อนของผมรู้ข่าว เขาช่วยไปถามแพทย์ที่เป็นเพื่อน ของเขาสมัยเรียน เตรียมอุดมฯ

แพทย์คนนั้น เขาบอกว่า เรื่องโรคเส้นประสาทเส้นที่ 5 ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญทางเส้นประสาทรักษา

ผม search google หา รพ. ที่เชี่ยวชาญทางเส้นประสาท

ได้ชื่อ รพ. นนทเวท

เมื่อผมกลับถึงกรุงเทพฯ ลงจากเครื่องบิน

ลูกชายก็ขับรถพาผมไปพบแพทย์ ที่ รพ. ดังกล่าว

เวลาน่าจะ 18:00 น.

ทันทีที่ผมเปิดประตูเข้าห้องแพทย์

คุณหมอ ชี้มาที่แก้มของผม แล้วพูดทันที

”คุณ เป็น งูสวัด“

คุณหมอ บอก การมาพบแพทย์

ล่าช้าถึงวัน 6 วัน

ทำให้ ”ไวรัส กินปลายประสาท และแก้วหู“ ทำลายปลายประสาทเสียหายมาก

ท่านทอดถอนใจ เสียดาย ที่ผมมาช้า

ดวงตาของท่าน

สีหน้าของท่าน

น้ำเสียงของท่าน มันฟังแล้ว ”หดหู่ใจ“ จริงๆ

ท่านบอกว่า ถ้ามาเสียแต่วันแรก ๆ

ทานยาต้านไวรัสงูสวัด เช้า-เย็น แค่ 4 วัน

ทานครบโดส เหมือน ยาต้านไวรัส โควิท 19

พักเดียว ก็หาย

ผลข้างเคียงก็ไม่มาก

นี่ปล่อยเวลาช้าไป 5-6 วัน

ไวรัส ทำลายเส้นประสาท ”ยับเยิน“

แถมยังทำลายแก้วหูข้างขวาไป จนยากจะรักษากลับคืน

การรักษา จึงกินเวลาแรมเดือน แรมปี

ดังที่ผมเล่ามาข้างต้น“
กำลังโหลดความคิดเห็น