วิทยาลัยบริหารธุรกิจนวัตกรรมและการบัญชี (CIBA) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เดินหน้าตอกย้ำบทบาทสถาบันอุดมศึกษายุคใหม่ ที่มุ่งพัฒนาศักยภาพผู้เรียนให้พร้อมรับมือกับความท้าทายของโลกธุรกิจและเศรษฐกิจดิจิทัล ผ่านการบูรณาการองค์ความรู้จากห้องเรียนเข้ากับประสบการณ์จริงทั้งในและนอกมหาวิทยาลัย โดยให้ความสำคัญกับการสร้างทักษะที่สามารถนำไปใช้ได้จริง สอดรับกับบริบทเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว และการแข่งขันทางวิชาชีพระดับประเทศและระดับโลก
ภายใต้แนวคิดดังกล่าว CIBA ได้จัดกิจกรรมถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านธุรกิจนำเข้า–ส่งออก ภายใต้โครงการ “Operating Export–Import Business in Simple Steps” ณ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เมื่อวันจันทร์ที่ 10 พฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา โดยมี อาจารย์สุรชัย สวนทับทิม รองคณบดีวิทยาลัยบริหารธุรกิจนวัตกรรมและการบัญชี เป็นวิทยากร ถ่ายทอดความรู้ด้านเอกสารการค้าระหว่างประเทศ การคำนวณต้นทุนโลจิสติกส์ การวางแผนภาษี ตลอดจนการวิเคราะห์ทิศทางการค้าโลกที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งระหว่างประเทศและมาตรการทางการค้าใหม่ ๆ เพื่อให้นักศึกษาเห็นภาพการทำงานด้าน International Business อย่างเป็นระบบและสอดคล้องกับสถานการณ์จริง
ขณะเดียวกัน มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ยังมีบทบาทในการเชื่อมโยงองค์ความรู้ทางวิชาการสู่เวทีระดับประเทศ โดย อาจารย์สุรชัย สวนทับทิม ได้รับเกียรติให้ทำหน้าที่เป็นกรรมการตัดสินการแข่งขัน Thailand Negotiation & Sales Competition (TNSC) 2025 ซึ่งจัดโดย RIC ที่แข่งขันระหว่างวันที่ 7-20 พฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา เวทีที่รวบรวมนักศึกษาจากหลากหลายสถาบันอุดมศึกษา เพื่อแสดงศักยภาพด้านการสื่อสาร การเจรจาต่อรอง และการขายในสถานการณ์จำลองทางธุรกิจจริง บทบาทดังกล่าวไม่เพียงสะท้อนมาตรฐานวิชาชีพเท่านั้น แต่ยังเป็นการถ่ายทอดประสบการณ์ตรงจากโลกธุรกิจ เพื่อชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของทักษะ Soft Skills เช่น การฟังอย่างมีประสิทธิภาพ การตั้งคำถามเชิงกลยุทธ์ และการอ่านบริบทของคู่เจรจา ซึ่งเป็นทักษะที่องค์กรชั้นนำให้ความสำคัญอย่างยิ่งในยุคที่ AI และเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทมากขึ้น
ด้านการพัฒนาทักษะ Data และ Digital Productivity ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของคณาจารย์ CIBA โดย อาจารย์ปัณณ์ ณัฐพงษ์ แสงสุวรรณ อาจารย์ประจำหลักสูตรการตลาดและการสร้างแบรนด์ในยุคดิจิทัล ได้รับเชิญเป็นวิทยากรในหัวข้อ “Boost your Career : Excel for Work” เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2568 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการเตรียมความพร้อมสหกิจศึกษา ถ่ายทอดการใช้ Excel ตั้งแต่ระดับพื้นฐานไปจนถึงการวิเคราะห์ข้อมูลธุรกิจ การออกแบบ Dashboard และการเตรียมเอกสารสำหรับการนำเสนอในองค์กรจริง เพื่อให้นักศึกษาเห็นว่าทักษะเชิงเทคนิคพื้นฐาน หากใช้ได้อย่างเชี่ยวชาญ จะกลายเป็น “ภาษากลาง” ที่เชื่อมโยงระหว่างห้องเรียนกับโลกการทำงาน และช่วยเพิ่มความได้เปรียบในการสมัครงานและการวางแผนเส้นทางอาชีพ
นอกจากนี้มหาวิทยาลัยยังมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เพื่อการศึกษาในระดับประเทศ โดยร่วมมือกับสำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สป.อว.) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) จัดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ “การประยุกต์ใช้ AI เพื่อการเรียนการสอนระดับอุดมศึกษา” ภายใต้นโยบาย “AI for Education” เพื่อพัฒนาศักยภาพอาจารย์มหาวิทยาลัยทั่วประเทศให้สามารถใช้ AI ออกแบบการเรียนรู้เชิงรุกได้อย่างเหมาะสม โดยโครงการนี้กำหนดจัดอบรมรวม 5 ครั้ง ครอบคลุมสถาบันอุดมศึกษาใน 5 ภูมิภาค ระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2568 ถึงเดือนมกราคม 2569
การอบรมครั้งแรกจัดขึ้น ณ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เมื่อวันที่ 17-18 พฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา มีผู้บริหารและอาจารย์จาก 31 สถาบันอุดมศึกษาเข้าร่วมกว่า 120 คน โดย อาจารย์สิรภพ รุจรัตนพล อาจารย์ประจำหลักสูตรการตลาดและการสร้างแบรนด์ในยุคดิจิทัล ทำหน้าที่เป็นหนึ่งในทีมวิทยากรหลัก ร่วมบรรยายและสาธิตการใช้ “DPU AI Teaching Assistant” และ “Abdul Uni” แพลตฟอร์ม AI Tutor ที่พัฒนาต่อยอดจากแนวคิดของ DPU ในการใช้ AI เป็นผู้ช่วยอาจารย์ ไม่ใช่เครื่องมือที่เข้ามาแทนที่การสอน
อาจารย์สิรภพ ยังได้ร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์การใช้ AI ในรายวิชาการตลาดดิจิทัลและการสร้างแบรนด์ ตั้งแต่การออกแบบกิจกรรมให้ผู้เรียนโต้ตอบกับ Chatbot เพื่อฝึกการคิดเชิงวิพากษ์ การตั้งคำถาม และการวิเคราะห์ข้อมูล ไปจนถึงการใช้ AI จำลองสถานการณ์ทางธุรกิจและพฤติกรรมผู้บริโภคในสภาพแวดล้อมเสมือนจริง ทำให้ผู้เข้าร่วมอบรมจากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เห็นภาพการนำ AI ไปใช้เป็นเครื่องมือเสริมพลังการเรียนรู้ได้อย่างปลอดภัย มีจริยธรรม และเกิดประโยชน์สูงสุด
บทบาทของคณาจารย์จากวิทยาลัยบริหารธุรกิจนวัตกรรมและการบัญชี ในฐานะวิทยากร ผู้ทรงคุณวุฒิ กรรมการตัดสิน และทีมพัฒนานวัตกรรมด้าน AI เพื่อการศึกษา สะท้อนให้เห็นว่าองค์ความรู้ของ CIBA เป็นองค์ความรู้ที่เชื่อมโยงกับความต้องการจริงของสังคมและเศรษฐกิจดิจิทัล ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงภายในมหาวิทยาลัย แต่ถูกนำไปขยายผลและสร้างผลกระทบในระดับประเทศอย่างต่อเนื่อง ผ่านการทำงานร่วมกับภาคธุรกิจและหน่วยงานภาครัฐในหลากหลายมิติ
ในมิติของการจัดการศึกษายุคดิจิทัล การนำประสบการณ์จากภาคสนามกลับมาหล่อหลอมการเรียนการสอน ช่วยให้นักศึกษาได้เรียนรู้จากเคสจริง เครื่องมือจริง และโจทย์จริง ทั้งด้านการค้าระหว่างประเทศ การใช้ข้อมูลและดิจิทัลทูลในที่ทำงาน และการรับมือกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ บทบาทดังกล่าวตอกย้ำภาพของมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ในฐานะสถาบันอุดมศึกษาที่มุ่งสร้างคุณค่าให้กับผู้เรียนและสังคม พร้อมพัฒนากำลังคนคุณภาพให้สอดคล้องกับโลกการทำงานอนาคตอย่างยั่งยืน โดยมี CIBA เป็นฐานสำคัญของการต่อยอดองค์ความรู้


