วิทยาลัยการพัฒนาและฝึกอบรมด้านการบิน (CADT) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) จัดโครงการสัมมนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (Knowledge Management: KM) เรื่อง “AI-Powered Research Bootcamp เพื่อเสริมสร้างศักยภาพคณาจารย์ด้านการวิจัย ผ่านการประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) ในบทบาทของ “ผู้ช่วยอัจฉริยะ” หรือ Copilot เพื่อยกระดับกระบวนการทำวิจัยให้มีประสิทธิภาพ ทันสมัย และสามารถตอบโจทย์ความต้องการของอุตสาหกรรมการบินได้อย่างเป็นรูปธรรม เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2568 ที่ผ่านมา ณ โรงแรม TK Palace Hotel & Convention
การสัมมนาครั้งนี้ อาจารย์สถาวร เลิศสุวรรณกุลอาจารย์ประจำหลักสูตรธุรกิจการบิน วิทยาลัยการพัฒนาและฝึกอบรมด้านการบิน มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ผู้เชี่ยวชาญด้าน AI และเป็นวิทยากรรับเชิญจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ได้ถ่ายทอดองค์ความรู้และประสบการณ์ตรงจากการใช้งานจริง โดยเน้นแนวคิด “ลองใช้ ลองผิด ลองถูก” เพื่อค้นหาแนวทางการใช้ AI อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพในกระบวนการผลิตงานวิจัย
อาจารย์สถาวร กล่าวถึงบทบาทของ AI ในงานวิจัยว่า ปัจจุบัน AI ไม่ได้เป็นเพียงเทคโนโลยีแห่งอนาคต แต่เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยยกระดับกระบวนการวิจัยให้มีความรวดเร็ว แม่นยำ และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในแวดวงการบินซึ่งเกี่ยวข้องกับข้อมูลขนาดใหญ่และการวิเคราะห์เชิงระบบ การนำ AI มาใช้ในบทบาทของ Copilot จะช่วยสนับสนุนการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก ไม่ว่าจะเป็นแนวโน้มผู้โดยสาร การบริหารจัดการทรัพยากรด้านการบิน ตลอดจนการศึกษาและพัฒนาเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel: SAF) ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างองค์ความรู้และนวัตกรรมที่สามารถนำไปใช้แก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างของอุตสาหกรรมได้จริง
อย่างไรก็ตาม อาจารย์สถาวร ได้เน้นย้ำว่า การใช้ AI ในงานวิจัยจำเป็นต้องดำเนินควบคู่กับบทบาทของนักวิจัยในฐานะผู้ตรวจสอบ วิเคราะห์ และกลั่นกรอง เพื่อให้ผลงานวิชาการมีความถูกต้อง โปร่งใส และสอดคล้องกับหลักจริยธรรมด้านการใช้ AI อย่างเคร่งครัด
โครงการดังกล่าวสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของวิทยาลัยการพัฒนาและฝึกอบรมด้านการบิน (CADT) ที่มุ่งพัฒนาบุคลากรด้านการบินให้มีศักยภาพสูง พร้อมรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมการบินในระดับประเทศและระดับนานาชาติ ผ่านการบูรณาการเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ากับการเรียนการสอนและการวิจัยอย่างเป็นระบบ
ด้าน อาจารย์ปวรรัตน์ สุภิมารส คณบดีวิทยาลัยการพัฒนาและฝึกอบรมด้านการบิน (CADT) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ กล่าวว่า อุตสาหกรรมการบินเป็นอุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ความปลอดภัย และมาตรฐานสากล งานวิจัยที่มีคุณภาพจึงถือเป็นรากฐานสำคัญในการผลิตบัณฑิตและนวัตกรรมเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของโลก การที่คณาจารย์สามารถใช้ AI เป็นผู้ช่วยในการทำวิจัย จะช่วยลดภาระงานเชิงเทคนิค และเพิ่มเวลาให้กับการคิดวิเคราะห์เชิงลึก ซึ่งจะนำไปสู่ผลงานวิจัยที่สอดคล้องกับเทรนด์โลก อาทิ การจัดการการบินอัจฉริยะ (Smart Aviation) การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อมุ่งสู่ Net Zero รวมถึงการพัฒนารูปแบบบริการ Halal สำหรับอุตสาหกรรมการบิน ซึ่งเป็นแนวโน้มที่กำลังได้รับความสนใจในระดับสากล
อาจารย์ปวรรัตน์ ยังเน้นย้ำว่า วิทยาลัยมุ่งหวังให้งานวิจัยทุกชิ้นไม่หยุดอยู่เพียงในชั้นเรียนหรือวารสารวิชาการ แต่สามารถนำไปต่อยอด สร้างผลกระทบเชิงบวก และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับอุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ของประเทศได้อย่างแท้จริง


