ทบ.เดินหน้ายึดเนิน 350 และ 2-3 พื้นที่สำคัญรอบปราสาทตาควาย เชื่อมั่นขีดความสามารถทำได้ไม่กังวลและเป็นไปตามแผน ย้ำกำลังพลให้ระวังถูกล่อกับดัก วางมาตรการรักษาความปลอดภัย ยันจรวดจีน-อาวุธอีกหลายรายการยังอยู่ในการควบคุมของกองทัพบก พร้อมระบุกัมพูชาใช้ Gemini สร้างเฟกนิวส์
วันนี้ (15 ธ.ค.) เวลา 16.00 น. ที่ศูนย์แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ไทย-กัมพูชา พลเรือเอก สุรสันต์ คงศิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ในช่วงเช้าที่ผ่านมามีการเปิดฉากระดมยิงโจมตีโดยอาวุธหนักของกัมพูชามายังฝ่ายไทย หลักๆ ในพื้นที่ จ.อุบลราชธานีและจ.สุรินทร์ ทำให้ฝ่ายไทยจำเป็นต้องตอบโต้เพื่อป้องกันตนเองเป็นสำคัญ นอกจากนั้น ในเรื่องการระดมยิงส่งผลให้ต้องอพยพประชาชนโดยด่วนเพิ่มเติม 2 อำเภอ ได้แก่ อ.ขุนหาญ อ.ภูสิงห์ หลังจากเมื่อวานนี้มีแจ้งอพยพในพื้นที่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ แล้ว
พลเรือเอก สุรสันต์ยืนยันว่าฝ่ายไทยได้ยึดตัวปราสาทตาควาย 100% เต็มเป็นตามที่มีข่าวออกมา ส่วนพื้นที่รอบข้างของปราสาทก็ยังมีการปะทะกันอยู่ต่อเนื่อง ฝ่ายไทยยังมีความพยายามยึดครองพื้นที่รอบบริเวณนั้น ส่วนการที่ฝ่ายกัมพูชาออกมาระบุว่าภาพทหารไทยยึดปราสาทตาควายเป็นเฟกนิวส์นั้น ขอยืนยันว่าภาพนั้นเป็นภาพจริงและแสตมป์ชัดว่าเป็นของจริง พร้อมยืนยันว่าฝ่ายไทยยังเข้มแข็งและรุกรบในการยึดคืนในสิ่งที่เป็นพื้นที่ของไทยต่อไป ส่วนที่กัมพูชามีการเสนอภาพและข่าวว่ากำลังพลไทยเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมากนั้น ได้มีการตรวจสอบยืนยันว่าเป็นการใช้แอปพลิเคชันเอไอ Gemini โดยมีข้อสังเกตเป็นดาวในรูป อย่างไรก็ตาม การปฏิบัติการทางทหารของกำลังพลที่เข้ายึดพื้นที่ได้แล้วนั้น ได้ย้ำให้ระมัดระวังกลลวงและล่อให้เราเข้าไปในกับดัก ทั้งนี้ ได้เพิ่มมาตรการความปลอดภัยรักษาความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติอยู่หน้าแนวแล้ว
ด้านสถิติผู้เสียชีวิตทางอ้อมรวม 12 ราย และผู้ที่เสียชีวิตจากการโจมตีโดยอาวุธของฝ่ายกัมพูชาจำนวน 1 ราย ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 5 คน สำหรับการเฝ้าระวังผู้ที่ได้รับผลกระทบทางด้านจิตใจก็ขอให้คนใกล้ชิดได้สอดส่องดูแลใส่ใจรับฟัง
พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงแนวทางในการยึดเนิน 350 หลังจากทหารไทยเข้าควบคุมตัวปราสาทตาควายได้แล้วว่า พื้นที่ปฏิบัติการรอบบริเวณตาควายซึ่งเป็นเนินสำคัญประมาณ 2-3 พื้นที่ซึ่งเป็นองค์ประกอบกับปราสาทตาควายอยู่ระหว่างความพยายาม และก็ยังเป็นไปตามแผนยังไม่มีอะไรที่น่ากังวล เชื่อว่าในขีดความสามารถของกองทัพบกจะดำเนินการได้
เมื่อถามถึงสิทธิในการครอบครองระบบอาวุธต่อสู้รถถัง GAM102 และกระแสข่าวที่จีนจะขออาวุธดังกล่าวคืน พลตรี วินธัยกล่าวว่า สำหรับอาวุธต่อสู้รถถังของจีนยังไม่มีข้อมูลว่ามีการมาขอคืน ซึ่งในเรื่องยุทโธปกรณ์คงมีหลายอย่าง และเมื่อมีการเข้าควบคุมที่หมายก็จะมียุทโธปกรณ์กัมพูชาทิ้งในพื้นที่ ขณะนี้ยังไม่ได้มีการดำเนินการอย่างอื่นอยู่ระหว่างการจัดการความมั่นคง ระเบียบและเสริมสร้างความมั่นคงในพื้นที่ ส่วนเรื่องยุทโธปกรณ์ต่างๆ จะมีการจัดเก็บไว้ก่อน ยังไม่มีการดำเนินการใดต่อสิ่งอุปกรณ์เหล่านั้น
“เป็นสิ่งที่พวกเราต้องควบคุมไว้ด้วยเพราะอยู่ในพื้นที่การรบ แต่จะดำเนินการอย่างไรนั้นก็ต้องรอหลังเสร็จสิ้นภารกิจ แล้วค่อยว่ากัน” โฆษกกองทัพบก
เมื่อถามว่าอาวุธดังกล่าวจะอยู่ในสิทธิของไทยหรือไม่ ปกติในกรณีนี้ไม่เคยปรากฏ แต่ถือว่าเป็นยุทโธปกรณ์ที่เรายึดได้ก็ต้องอยู่ในความดูแลของไทย


