ผศ.ดร.ธรณ์ออกมาอธิบายกรณีมาตรการด้านความมั่นคงทางทะเล ชี้ชัดว่าไม่ใช่การ “ปิดอ่าวไทย” แต่เป็นการดูแลและควบคุมเฉพาะพื้นที่ทะเลอาณาเขตของไทยตามกฎหมายระหว่างประเทศ พร้อมย้ำว่าไทยยังคงยึดหลักอนุสัญญา UNCLOS เปิดให้เรือผ่านโดยสุจริตได้ และขออย่าสับสนระหว่างทะเลอาณาเขตกับเขตเศรษฐกิจจำเพาะ
วันนี้ (14 ธ.ค.) เฟซบุ๊ก “Thon Thamrongnawasawat” ของ ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการด้านทะเลและสิ่งแวดล้อม และอาจารย์ประจำคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความช่วยอธิบายข่าวด้านความมั่นคงทางทะเล เพื่อไม่ให้สังคมเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน โดยระบุว่า จากการอ่านข้อมูลแล้ว มาตรการที่ถูกพูดถึงมีอยู่ 2 ประเด็นหลัก
ประเด็นแรก คือ การห้ามส่งน้ำมันและยุทธปัจจัยไปยังกัมพูชา
ประเด็นที่สอง คือ การประกาศพื้นที่ทะเลอาณาเขตรอบท่าเรือกัมพูชา ให้เป็นพื้นที่เสี่ยงภัยสูง
ผศ.ดร.ธรณ์อธิบายว่า “ทะเลอาณาเขต” คือพื้นที่ทะเลที่เป็นอธิปไตยของประเทศไทยอย่างสมบูรณ์ โดยวัดจากแนวชายฝั่งออกไปในทะเล ระยะ 12 ไมล์ทะเล หรือประมาณ 22 กิโลเมตร ซึ่งภายในเขตนี้ ไทยมีสิทธิในการดูแล ควบคุม และดำเนินการด้านความมั่นคง โดยเรือของต่างชาติยังสามารถแล่นผ่านน่านน้ำดังกล่าวได้ หากเป็นการผ่านโดยสุจริต หรือ Innocent Passage และไม่ก่อให้เกิดภัยต่อความมั่นคงของประเทศ แต่หากการเดินเรือเข้าข่ายเป็นความเสี่ยง ไทยก็มีสิทธิใช้มาตรการจัดการตามกฎหมายระหว่างประเทศ
ผศ.ดร.ธรณ์ยังระบุว่า คำว่า “ปิดอ่าวไทย” อาจทำให้ประชาชนเข้าใจว่าเป็นการปิดเส้นทางเดินเรือทั้งหมด ซึ่งไม่ตรงกับข้อเท็จจริง เพราะในทางปฏิบัติ ไทยยังคงยึดตามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล (UNCLOS) และดูแลเฉพาะพื้นที่ทะเลอาณาเขตของไทยเท่านั้น
สำหรับข้อมูลดังกล่าว ผศ.ดร.ธรณ์ระบุว่าได้อ้างอิงจากหนังสือด่วนของกองบัญชาการกองทัพไทย และศูนย์บัญชาการทางทหาร พร้อมย้ำว่าหากมีรายละเอียดเพิ่มเติม กองทัพเรืออาจออกมาชี้แจงอย่างเป็นทางการอีกครั้งในภายหลัง
ทั้งนี้ ผศ.ดร.ธรณ์ฝากย้ำไม่ให้สับสนระหว่าง ทะเลอาณาเขต กับ เขตเศรษฐกิจจำเพาะ (EEZ) ซึ่งเป็นพื้นที่ใช้ประโยชน์ทางทะเล วัดออกไปถึง 200 ไมล์ทะเล และหากมีพื้นที่ทับซ้อนกับประเทศอื่น จะต้องมีการเจรจาตกลงร่วมกัน เช่น กรณีไทย-มาเลเซียที่มีการแบ่งผลประโยชน์ด้านพลังงาน
ท้ายที่สุด ผศ.ดร.ธรณ์ได้ส่งกำลังใจให้ทหาร ตำรวจ และประชาชนในพื้นที่ชายแดนทุกคน ปลอดภัยจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
