เหล่าทัพแถลงยืนยันตัวเลขพลเรือนเสียชีวิต 3 ราย ทหารเสียชีวิต 9 นาย บาดเจ็บ 120 นาย พบประชาชนอพยพร่วม 2 แสนคน เผยไทยรุกคืบตามแผนได้อย่างมีนัย
วันนี้ (11 ธ.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. พลตรี สุรศักดิ์ คงศิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ในส่วนของกองทัพบก ทางกัมพูชายังคงโจมตีอย่างต่อเนื่องด้วยอาวุธหนัก เช่น บีเอ็ม 21 โดรน Kamikaze ปืนครก โดยเฉพาะบริเวณช่วงอานม้าและเนิน 667 ในขณะที่กองทัพเรือได้ดำเนินกลยุทธ์ตามยุทธการตราดปราบปรปักษ์ในพื้นที่ จ. ตราดอย่างต่อเนื่อง และได้รับการโจมตีโดยโดรนของฝั่งกัมพูชาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยทั้งสองเหล่าทัพดำเนินการไปตามแผนและมีความคืบหน้าในการปฏิบัติการอย่างต่อเนื่องอย่างมีนัย อย่างไรก็ตาม ได้มีการพบทหารกัมพูชาที่ใช้บ้านประชาชนเป็นป้อมปราการทางทหาร ตรวจพบการติดตั้งปืนกลในบ้านพัก ถือเป็นการละเมิด อนุสัญญาต่างๆ ในการใช้มนุษย์เป็นโล่กำบัง สำหรับกองทัพอากาศยังคงปฏิบัติการสนับสนุนกำลังภาคพื้นดินในการรุกคืบอย่างมีประสิทธิภาพ
"แต่เป็นที่น่าเสียใจที่กำลังพลของเราสูญเสียอีก 2 นาย ในพื้นที่ของกองทัพภาคที่ 1 จำนวน 1 นาย และสูญเสียชีวิตอีก 1 นายในพื้นที่ของกองทัพภาคที่ 2 โดยปัจจุบันมีกำลังพลสูญเสียไปแล้ว 9 นายและบาดเจ็บประมาณ 120 นาย"
พร้อมยังได้เปิดเผยภาพความเสียหายของบ้านเรือนประชาชนที่ถูกโจมตีด้วยบีเอ็ม 21 รวมถึงถนนในพื้นที่จังหวัดตราด รวมสถิติ ผลกระทบต่อพลเรือน เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ณ เวลา 16.00 น. โดยพบประชาชนที่พลัดถิ่นและพักอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงทั้งหมด 199,618 คน ในศูนย์พักพิง 849 แห่ง และมีผู้เสียชีวิต 3 ราย โรงพยาบาลได้รับผลกระทบ 19 แห่ง รวมถึงโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล 180 แห่ง ทำให้ต้องอพยพผู้ป่วยจากพื้นที่ ซึ่งขอประณามการใช้อาวุธหนักโดยไม่เลือกเป้าหมายของกัมพูชาที่สร้างผลกระทบดังกล่าว


