ชาวหาดใหญ่เผยนาทีอุทกภัยครั้งประวัติการณ์ สื่อสารเทศบาลคลาดเคลื่อน เตือนภัยสวนทางส่วนกลาง ทำประชาชนไร้เวลาเตรียมตัว ก่อนน้ำทะลักมิดชั้นสอง หลายครอบครัวขาดการติดต่อ วอนทุกฝ่ายเร่งช่วยเหลือด่วน
วันนี้ (25 พ.ย.) เฟซบุ๊กบัญชี Khanin Khanungwanitkul ผู้ประสบเหตุจากน้ำท่วมใหญ่ในอำเภอหาดใหญ่ เปิดเผยภาพรวมสถานการณ์ที่เลวร้ายกว่าที่เห็นในข่าว ระบุว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ “ราพณาสูร” คือคำนิยามที่ใกล้เคียงที่สุดกับความสูญเสียที่ชาวเมืองต้องเผชิญ หลายครอบครัวเสียทุกอย่างที่สร้างมาตลอดทั้งชีวิต
ผู้ให้ข้อมูลเล่าว่า ทุกฤดูฝน ชาวหาดใหญ่จะยึดตามประกาศของเทศบาลเมืองเป็นหลัก เนื่องจากภาษาที่ส่วนกลาง เช่น กรมอุตุนิยมวิทยา ใช้ มักมีลักษณะซ้ำๆ และไม่สะท้อนระดับความรุนแรงเท่าระบบ “สีธง” ของเทศบาลซึ่งชาวเมืองเข้าใจดี อย่างไรก็ตาม ในเหตุการณ์รอบนี้กลับเกิดความสับสนอย่างหนัก เมื่อส่วนกลางแจ้งเตือนก่อน แต่เทศบาลกลับระบุสถานะยังเป็น ธงเขียว ทำให้ประชาชนจำนวนมากคลายความกังวล และเชื่อว่าพื้นที่ยัง “เอาอยู่”
คืนวันศุกร์ เวลา 21.00 น. ตามคำบอกเล่า ผู้ให้ข้อมูลได้รับข่าวว่าพื้นที่คอหงส์ขึ้น ธงแดง จึงรีบแจ้งครอบครัวให้ระวัง แม้ในขณะนั้นเทศบาลยังยืนยันว่าควบคุมสถานการณ์ได้ แต่เพียง 5 นาทีต่อมาน้ำเริ่มทะลักเข้าสู่เขตเมืองตามถนนสายหลัก และภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง หาดใหญ่ประกาศขึ้น ธงเหลือง ก่อนจะยกระดับเป็น ธงแดง ในหลายพื้นที่ จนเกิดภาวะโกลาหล ชาวบ้านแทบไม่มีเวลาเตรียมอพยพหรือขนของขึ้นที่สูง และมีหลายครอบครัวต้องพลัดหลงกันจากการสัญจรถูกตัดขาด
วันอาทิตย์ แม้น้ำเริ่มลดลง แต่เทศบาลยังประกาศผ่านวิทยุว่าเป็นเพียง “น้ำหลากรอระบาย” และคาดว่าจะกลับสู่ภาวะปกติในวันรุ่งขึ้น ขณะที่แบบจำลองสภาพอากาศหลายชุดคาดการณ์ว่าฝนระลอกใหญ่กำลังจะถาโถมเข้าอีกครั้ง การสื่อสารที่คลาดเคลื่อนทำให้ประชาชนจำนวนมากเริ่มทำความสะอาดบ้าน และเตรียมกลับไปทำงาน ก่อนที่ฝนรอบใหม่จะเทกระหน่ำ น้ำทะลักเข้าบ้านอย่างรวดเร็ว จนหลายคนไม่ทันออกมาได้
กระแสไฟฟ้าและระบบสื่อสารล่มเป็นวงกว้าง ผู้คนจำนวนมาก รวมถึงแพทย์และอาจารย์แพทย์ในพื้นที่ ติดอยู่ในบ้านชั้นสองที่ถูกน้ำท่วมจนเกือบมิด เหลือเพียงเสียงร้องขอความช่วยเหลือผ่านหน้าต่างเหล็กดัด แต่เรือกู้ภัยมีจำกัดอย่างยิ่ง หลายครอบครัวไม่มีเสบียงสำรอง ขาดการติดต่อกับญาติจนไม่ทราบชะตากรรม
ในมุมของประชาชน ผู้ประสบเหตุตั้งคำถามถึงระบบเตือนภัยของเทศบาลที่ “ล้มเหลวอย่างหนัก” พร้อมวิจารณ์การสื่อสารที่ผิดพลาดว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่ความเสียหายครั้งใหญ่ และตั้งข้อสงสัยถึงความพร้อมของหน่วยงานส่วนกลางที่ล่าช้าในการเข้าช่วยเหลือ โดยชี้ว่าหลายพื้นที่เผชิญอุทกภัยมาแล้ว 2-3 วัน แต่ยังแทบไม่เห็นการตอบสนองที่เพียงพอ
ผู้ให้ข้อมูลทิ้งท้ายว่า สถานการณ์ในหาดใหญ่ครั้งนี้ “หนักจนบรรยายไม่ถูก” และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายร่วมกันช่วยเหลือผู้ประสบภัย เพราะหลายพื้นที่แทบไม่มีอะไรหลงเหลือจากมหาอุทกภัยครั้งนี้เลย พร้อมขอให้ทุกคนยืนเคียงข้างหาดใหญ่ในช่วงเวลายากลำบากนี้
ขอบคุณทุกความห่วงใยที่ถามกันเข้ามาครับ ผมปลอดภัยดี แต่ถามว่าหนักแค่ไหน บางคนบอกดูจากข่าวดูน่ากลัวมาก...โพสต์โดย Khanin Khanungwanitkul เมื่อวันอังคารที่ 25 พฤศจิกายน 2025



