สำนักข่าวแห่งชาติเบอร์นามา (BERNAMA) ของมาเลเซีย เผยแพร่ข่าวสัมภาษณ์ โมฮัมหมัด ฮัดซัน รมว.ต่างประเทศมาเลเซีย ระบุ ทีมผู้สังเกตการณ์อาเซียน รายงานว่าเป็นทุ่นระเบิดเก่า ที่ทหารไทยลาดตระเวนเหยียบกับระเบิดที่ชายแดนศรีสะเกษ ก่อนที่เมื่อเช้าจะลบข่าวทิ้งแล้วขึ้นข่าวใหม่ พบสื่อกัมพูชานำไปปั่นต่อ และชาวกัมพูชาขยายผลโจมตีประเทศไทย
วันนี้ (14 พ.ย.) สำนักข่าวแห่งชาติเบอร์นามา (BERNAMA) ของมาเลเซียรายงานว่า นายโมฮัมหมัด ฮัดซัน รมว.ต่างประเทศมาเลเซีย ให้สัมภาษณ์ในระหว่างปฎิบัติภารกิจมอบใบรับรองการศึกษา (SPM) และคอมพิวเตอร์แลปทอปแก่นักศึกษา 1,000 คน จากสถาบันอุดมศึกษาในเขตเริมเบา อำเภอเซอเริมบัน รัฐเนอเกอรีเซิมบีลัน ว่า มาเลเซียพร้อมที่จะหารือระหว่างไทยและกัมพูชา เพื่อรักษาข้อตกลงหยุดยิงที่ลงนามระหว่างสองประเทศ หลังจากความขัดแย้งบริเวณชายแดนระหว่างสองประเทศกลับขึ้นมาอีกครั้ง
โดยคาดว่าการเจรจาจะจัดขึ้นในเร็วๆ นี้ หลังจากการหารือกับนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งพร้อมที่จะอำนวยความสะดวกให้ทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงอย่างสันติ
"ถ้าเป็นไปได้ขอให้จัดขึ้นที่ประเทศมาเลเซีย เพราะระหว่างสองประเทศนี้ สูญเสียความเชื่อมั่นและความไว้วางใจซึ่งกันและกัน"
"พวกเขา (ไทยและกัมพูชา) ติดต่อเราแล้ว กัมพูชาขอให้เราจัดการเจรจาที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ส่วนไทยได้ขอให้เราดำเนินการตามความพยายามของเราในการรักษาข้อตกลงหยุดยิงต่อไป เราโศกเศร้าและเสียใจเกี่ยวกับเรื่องนี้"
"นี่เป็นเพราะหลังจากข้อตกลงสันติภาพที่กัวลาลัมเปอร์ ซึ่งผู้นำกัมพูชาและไทยลงนามในการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 47 เมื่อเร็วๆ นี้ ดูเหมือนว่าทั้งสองประเทศจะอยู่ในอารมณ์ที่เบิกบานใจ แต่ตอนนี้กลับมีเหตุสู้รบเกิดขึ้นที่ชายแดน" นายโมฮัมหมัด ระบุ
รมว.ต่างประเทศมาเลเซีย ยังกล่าวอีกว่า ไทยได้ระงับข้อตกลงหยุดยิง หลังจากทหารหลายนายที่กำลังลาดตระเวนตามแนวชายแดนได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดที่ไทยอ้างว่าเป็นของกัมพูชา
"แต่ทีมผู้สังเกตการณ์อาเซียนในไทยและกัมพูชารายงานว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่ ผมเพิ่งวางสายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย ผมหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะสงบศึกลงและเดินหน้าเจรจาสันติภาพต่อไป"
นายโมฮัมหมัด ระบุว่า ทีมผู้สังเกตการณ์อาเซียน (ASEAN observer teams) หรือ AOT ไม่ได้ประจำการอยู่ที่ชายแดน อย่างไรก็ตาม พวกเขายังคงสังเกตการณ์และรายงานความคืบหน้าในพื้นที่ให้ผ่ายที่เกี่ยวข้องทราบอย่างต่อเนื่อง
รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า เดิมข่าวดังกล่าว เผยแพร่เมื่อเวลา 21.02 น. วานนี้ (13 พ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยเนื้อข่าวตอนหนึ่งระบุว่า "But the ASEAN observer teams in Thailand and Cambodia have reported that they were not new landmines." (แต่ทีมผู้สังเกตการณ์อาเซียนในไทยและกัมพูชารายงานว่าเป็นทุ่นระเบิดเก่า) ซึ่งสำนักข่าวในไทยอย่าง ข่าวสดอิงลิช (Khaosod English) ได้แคปหน้าจอดังกล่าว ทำให้คนไทยแสดงความคิดเห็นไม่พอใจอย่างกว้างขวาง
ขณะที่สื่อกัมพูชา เช่น แคมโบเดียเนส (Cambodianess) ก็ได้นำข่าวดังกล่าวไปเผยแพร่ต่อ โดยพาดหัวข่าวว่า "Malaysia Confirms Landmines Were Old, Ready to Facilitate Cambodia-Thailand Border Talks" (มาเลเซียคอนเฟิร์ม ทุ่นระเบิดเป็นของเก่า พร้อมอำนวยความสะดวกการเจรจาชายแดนไทย-กัมพูชา) และถูกชาวกัมพูชานำไปขยายผลอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดทอนข้อเท็จจริงที่กองทัพบกระบุในเหตุการณ์ทหารเหยียบกับระเบิดที่ห้วยตามาเรีย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 10 พ.ย. เป็นกับระเบิดใหม่ และสร้างภาพว่าประเทศไทยเป็นผู้ร้ายในสายตาประชาคมโลก
กระทั่งเช้าวันนี้ (14 พ.ย.) สำนักข่าวเบอร์นามาได้ลบข่าวเก่าทิ้ง แล้วขึ้นข่าวใหม่เมื่อเวลา 08.47 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยระบุเนื้อข่าวว่า "But the ASEAN observer teams in Thailand and Cambodia have reported that they were new landmines." (แต่ทีมผู้สังเกตการณ์อาเซียนในไทยและกัมพูชารายงานว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่)
สำหรับสำนักข่าวเบอร์นามา (BERNAMA) เป็นสำนักข่าวแห่งชาติของมาเลเซีย บริหารภายใต้บริษัทตามกฎหมาย (Statutory Corporation) สังกัดกระทรวงการสื่อสารของมาเลเซีย ก่อตั้งมานาน 58 ปี ทำหน้าที่ผลิตข่าวสารป้อนให้กับสื่อหนังสือพิมพ์ในมาเลเซีย ปัจจุบันตีพิมพ์ข่าวเป็นภาษามาเลย์ อังกฤษ จีน อาหรับ สเปน และตามิล รวมทั้งสถานีโทรทัศน์ Bernama TV เสนอข่าวเป็นภาษามาเลย์ อังกฤษ จีน และตามิล นอกจากนี้ยังมีสถานีวิทยุ Bernama Radio และเครือข่ายโซเชียลมีเดีย มีสำนักงานใหญ่ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ สำนักงานสาขาในทุกรัฐของมาเลเซีย รวมทั้งมีผู้สื่อข่าวต่างประเทศในกรุงจาการ์ตา อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย


