รายงานพิเศษ
เขื่อนภูมิพลเป็นเขื่อนคอนกรีต มีความหมายแฝงว่า ถ้าน้ำในเขื่อนคอนกรีตขยับขึ้นไปเต็ม 100% ของความจุเขื่อนเมื่อไหร่ ระบบจะตัดไประบายผ่านสปิลเวย์ หรือ อาคารระบายน้ำฉุกเฉินทันที
ซึ่งหากสถานการณ์เลยเถิดไปถึงขั้นนั้น ทุกอย่างจะควบคุมได้ยากขึ้นมาก
ดังนั้น หน่วยงานที่กำลังบริหารจัดการน้ำ จึงต้องพยายามทำทุกวิถึทาง ที่จะไม่ปล่อยให้เขื่อนภูมิพลที่มีน้ำอยู่ 99% ขยับระดับขึ้นไปเต็ม 100% อย่างเด็ดขาด
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ต้องเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนภูมิพล อ.สามเงา จ.ตาก โดยขยับตัวเลขระบายน้ำออกจากเขื่อนเป็น 40 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่อวัน ในวันนี้ (10 พ.ย.) เพราะยังมีน้ำไหลเข้าถึง 98 ล้าน ลบ.ม.
ถ้าระบายอยู่ที่วันละ 10 ล้าน ลบ.ม. เหมือนเดิม เขื่อนจะเต็มแน่ๆ
มีข้อมูลที่น่าเชื่อถือยืนยันว่า ในวันที่ 11 พ.ย. 2568 จะเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนภูมิพลไปอีกเป็น 48 ล้าน ลบ.ม./วัน
วันที่ 12 พ.ย. 68 ก็จะเพิ่มขึ้นไปเป็น 55 ล้าน ลบ.ม./วัน
และยังมีมติจากคณะกรรมการลุ่มน้ำปิง และจาก สทนช.เห็นตรงกันว่า สามารถขยับการระบายน้ำออกจากเขื่อนภูมิพลไปได้เต็มที่ถึง 60 ล้าน ลบ.ม./วัน
แม้ตัวเลขจะบอกเช่นนี้ แต่ก็ยังมีข้อมูลที่แสดงถึงสัญญาณที่ดีตามมาอยู่ด้วย คือ ไม่มีฝนเหนือเขื่อนภูมิพลแล้ว จึงคาดการณ์กันว่า ปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนที่เป็นจุดสูงสุด (PEAK) จะเกิดขึ้นในคืนนี้ (10 พ.ย.) คือที่ประมาณ 100 ล้าน ลบ.ม./วัน บวกไปนิดหน่อย (จากเมื่อวาน 98 ล้าน ลบ.ม./วัน) และจากนั้น น้ำที่ไหลเข้าเขื่อนก็จะน้อยลง ... ถ้าเป็นได้แบบนี้จริง เขื่อนภูมิพล ก็จะไม่ถึงขั้นที่ระบบตัดน้ำไปไหลผ่านสปิลเวย์ ... รอดไปได้
ย้ำว่า ถ้าเขื่อนภูมิพลต้องระบายน้ำผ่านสปิลเวย์เมื่อไหร่ สถานการณ์จะแย่ลงอีกทันที
โดยน้ำชุดที่ระบายออกจากเขื่อนภูมิพลมากขึ้น จะใช้เวลา 8-9 วัน จึงจะมาถึงหน้าเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ซึ่งคาดว่า น้ำเดิมจะถูกระบายออกไป มีที่รองรับก้อนใหญ่ที่กำลังไล่ลงมา
ขยับมาด้านล่าง ปัญหาน้ำทะเลหนุนที่ทำให้ระบายน้ำลงทะเลไม่ได้ ก็ผ่านจุดสูงสุดไปแล้วเช่นกันตั้งแต่วันที่ 9 พ.ย. ดังนั้นระดับน้ำเจ้าพระยาที่ นนทบุรี ปทุมธานี กรุงเทพมหานคร (กทม.) ก็จะไม่สูงล้นออกมาเหมือนวันก่อนแล้ว และน้ำจากพระนครศรีอยุธยา ก็จะเริ่มระบายลงมาได้ง่ายขึ้น
ที่ยังหนักแน่ๆ และรัฐบาลน่าจะกำลังต้องโฟกัส คือ ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ที่ราบลุ่มภาคกลาง โดยเฉพาะ "อ่างทอง" เพราะยังไม่ใช่น้ำส่วนที่ถูกดันลงไปข้างล่างได้ และยังต้องรับการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยามาเพิ่มอยู่
มีจุดที่เหมือนกำลังจะหาคำตอบว่า ... "ทำไม?? วันนี้ เขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำเพิ่มเป็น 2,900 ลบ.ม./วินาที เพราะเหมือนจะมีมติว่าให้คงการระบายไว้ที่ 2,800 ลบ.ม./วินาทีเท่านั้น" ...
ดังนั้น ถ้ารัฐจะช่วยดูแลประชาชนช่วงนี้ นอกจากการบริหารจัดการระบายน้ำต่างๆแล้ว ก็น่าจะไปหาทางทำให้ "ผู้ประสบภัย" ในที่ราบลุ่มภาคกลาง ชัยนาท สิงห์บุรี อยูธยา อ่างทอง ได้รับความเดือดร้อนน้อยลง มีที่พักไหม มีบริการอะไร ที่จะช่วยให้เขาไม่ต้องกังวลกับทรัพย์สินไหม? อาหาร โรงครัว ห้องสุขาในที่เกิดภัย เส้นทางสัญจรที่จะใช้ได้ชั่วคราว
เพราะปัญหา ไม่ได้จบแค่การจัดการน้ำไม่ให้ท่วมกรุงเทพฯ และปริมณฑลเท่านั้น ...
ที่ราบลุ่มภาคกลางยังมีชีวิตผู้คนนับล้านต้องทุกข์ระทมอยู่.


