xs
xsm
sm
md
lg

รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์รับบัตร EMV Contactless ทุกธนาคาร เริ่ม 8 พ.ย.นี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ พญาไท-สุวรรณภูมิ เตรียมให้บริการ EMV Contactless ชำระค่าโดยสารด้วยบัตรเครดิต บัตรเดบิต หรือบัตรพรีเพด ตั้งแต่ 8 พ.ย.เป็นต้นไป เป็นรายล่าสุด ต่อจากรถไฟฟ้ามหานคร 4 สาย น้ำเงิน-ม่วง-เหลือง-ชมพู และรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง

วันนี้ (6 พ.ย.) รายงานข่าวแจ้งว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย และ บริษัท เอเชีย เอรา วัน จำกัด ผู้รับจ้างให้บริการเดินรถไฟฟ้าเอราวันซิตี้ไลน์ (รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์) จะเปิดให้บริการระบบชำระค่าโดยสารด้วยบัตรเครดิต บัตรเดบิต หรือบัตรพรีเพดแบบ EMV Contactless ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 8 พ.ย.เป็นต้นไป เพื่อความสะดวกแก่ผู้โดยสาร จากเดิมรับเฉพาะเหรียญโดยสารเที่ยวเดียว และบัตรโดยสาร Smart Pass

ผู้โดยสารที่มีบัตรเครดิต บัตรเดบิต และบัตรพรีเพด สัญลักษณ์ Visa, Mastercard, JCB หรือ UnionPay แบบ EMV Contactless สามารถใช้บริการได้โดยการเตรียมบัตรที่มีสัญลักษณ์ Contactless จากนั้นมองหาป้ายระบบ EMV ที่ประตูทางเข้าและทางออก จากนั้นแตะบัตร โดยใช้บัตรใบเดียวกันในการแตะเข้าและแตะออก หากใช้บัตรคนละใบ จะมีค่าธรรมเนียม 45 บาทต่อบัตร


สำหรับเครื่องอ่านบัตร EDC ติดตั้งบนแท่นบริเวณตรงกลางก่อนถึงประตูอัตโนมัติ (AFC Gate) เมื่อแตะบัตรแล้วให้เดินเข้าไปที่ประตูอัตโนมัติเพื่อเข้าสู่ระบบรถไฟฟ้า เมื่อถึงสถานีปลายทาง แตะบัตรอีกครั้งก่อนออกจากประตูอัตโนมัติ ซึ่งจะมีกล้อง CCTV ติดไว้เพื่อตรวจสอบ

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 4 พ.ย. บริษัท เอเชีย เอรา วัน จำกัด ได้เปิดตัวระบบบัตรโดยสาร EMV Contactless ของรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ โดยมีนายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง นายวุฒิไกร วะชังเงิน หัวหน้าสำนักงานบริหารโครงการระบบรถไฟฟ้า การรถไฟแห่งประเทศไทย นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด นายนรินทร์ จารุจำรัส ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจภาครัฐ 2 ธนาคารกรุงไทย เข้าร่วมงาน ที่สถานีมักกะสัน

โดยเอเชีย เอรา วัน จะแบ่งการให้บริการ EMV Contactless เป็น 2 เฟส ได้แก่ เฟสแรก เป็นช่วงทดลองให้บริการเพื่อประเมินประสิทธิภาพและประสบการณ์ใช้งานจริงของผู้โดยสาร เฟสที่สอง กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา เพื่อให้ระบบมีความไร้รอยต่อ (Seamless) และรองรับปริมาณผู้โดยสารได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ






สำหรับรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์มีระยะทาง 28 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เมื่อวันที่ 23 ส.ค. 2553 แนวเส้นทางขนานไปกับทางรถไฟสายตะวันออก ผู้โดยสารมีทั้งนักท่องเที่ยวจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และผู้ที่อยู่อาศัยในพื้นที่กรุงเทพมหานครด้านตะวันออก ประกอบด้วย เขตบางกะปิ เขตสวนหลวง เขตประเวศ เขตสะพานสูง และเขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ รวมทั้งนักศึกษาสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง กว่า 31,000 คน

โดยมีทั้งหมด 8 สถานี ประกอบด้วย 1. สถานีพญาไท เชื่อมกับรถไฟฟ้าบีทีเอส 2. สถานีราชปรารภ 3. สถานีมักกะสัน เชื่อมกับรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน ที่สถานีเพชรบุรี 4. สถานีรามคำแหง 5. สถานีหัวหมาก เชื่อมกับรถไฟฟ้า MRT สายสีเหลือง 6. สถานีบ้านทับช้าง 7. สถานีลาดกระบัง เชื่อมกับรถสองแถวในพื้นที่ และ 8. สถานีสุวรรณภูมิ บริเวณชั้น B1 อาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ




ข้อมูลจากกรมการขนส่งทางราง กระทรวงคมนาคม ณ เดือน ต.ค. 2568 พบว่ารถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ มีจำนวนผู้โดยสาร 2,130,551 คน-เที่ยว สูงเป็นอันดับ 3 รองจากรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน 13,686,998 คน-เที่ยว และรถไฟฟ้าบีทีเอส สายสีเขียว 22,504,332 คน-เที่ยว

สำหรับการให้บริการ EMV Contactless เริ่มต้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 29 ม.ค. 2565 กับรถไฟฟ้ามหานคร (MRT) สายสีน้ำเงิน (ท่าพระ-หลักสอง) และสายสีม่วง (บางใหญ่-เตาปูน) ก่อนที่จะขยายไปยังรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต และบางซื่อ-ตลิ่งชัน) รถไฟฟ้า MRT สายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) และสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี และสายเข้าเมืองทองธานี) รวมแล้วจะมีรถไฟฟ้า 6 เส้นทางที่ให้บริการ นอกจากนี้ยังสามารถใช้ได้กับรถประจำทาง องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ที่มีรถประจำทางให้บริการกว่า 3,000 คัน ใน 107 เส้นทาง

อย่างไรก็ตาม ยังมีรถไฟฟ้าอีก 2 เส้นทางที่ไม่รองรับระบบ EMV Contactless ได้แก่ รถไฟฟ้าบีทีเอส (รวมถึงรถไฟฟ้าสายสีเขียว หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และแบริ่ง-สมุทรปราการ) และรถไฟฟ้าสายสีทอง (กรุงธนบุรี-คลองสาน) เพราะใช้ระบบบัตรแรบบิทเป็นของตัวเอง




กำลังโหลดความคิดเห็น