xs
xsm
sm
md
lg

หัวใจนักสู้! "น้องข้าวต้ม" ลูกช้างพลัดหลง เริ่มกายภาพบำบัด ใช้ขาได้นิดหน่อย เรียนรู้จะลุกยืน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เผยความคืบหน้าล่าสุดการดูแล "ข้าวต้ม" ลูกช้างป่าพลัดหลง ทีมผู้เชี่ยวชาญวางแผนการรักษา โดยจะเน้นการทำกายภาพบำบัดอย่างสม่ำเสมอ

เมื่อวันที่ 25 ก.ย. เพจ “กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช“ได้โพสต์คลิปวิดีโอเผยความคืบหน้าล่าสุดการดูแล "ข้าวต้ม" ลูกช้างป่าพลัดหลงที่ได้รับความสนใจจากประชาชนทั่วประเทศ

ระบุว่า “สพ.ญ.ณฐนน ปานเพ็ชร (นายสัตวแพทย์ชำนาญการ) หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวากและศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก เผยว่า จากกรณีที่เจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือ "น้องข้าวต้ม" ลูกช้างป่าเพศเมียอายุเพียง 3 วันที่พลัดหลงจากฝูงในพื้นที่ป่า อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2568 และได้นำตัวมาดูแล ณ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวากและศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก ซึ่งเป็นศูนย์ที่มีความพร้อมในการดูแลสัตว์ป่าพลัดหลง

ล่าสุด ทางเจ้าหน้าที่และทีมสัตวแพทย์รายงานว่า น้องข้าวต้ม มีอาการคงตัวและสามารถกินนมได้ดีขึ้นตามลำดับ แสดงให้เห็นถึงการตอบสนองต่อการดูแลอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง โดยทีมสัตวแพทย์ได้เฝ้าสังเกตพฤติกรรม สุขภาพ และการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้แน่ใจว่าลูกช้างได้รับโภชนาการและการดูแลที่เหมาะสมที่สุดเพื่อยกระดับการรักษาให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

คณะสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากหลายสถาบันได้ร่วมประชุมและเข้าตรวจวินิจฉัยอาการเพิ่มเติม ประกอบด้วย ดร.น.สพ.ทวีโภค อังควานิช, สพ.ญ.วรางคณา ลังการ์พินธุ์, ผศ.ดร.ศิริพันธุ์ คงสวัสดิ์ (คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่), ผศ.ดร.น.สพ.เฉลิมชาติ สมเกิด (คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่) และ สพ.ญ.สุธีรานันท์ พิพิธวนิชธรรม (คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน) พ.ญ.ลักษณา ประสิทธิชัย นายสัตวแพทย์ชำนาญการพิเศษ, สพ.ญ. กานต์พิชชา หาญอาษา นายสัตวแพทย์ปฏิบัติการจากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) กรมอุทยานฯ

จากการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด คณะสัตวแพทย์ลงความเห็นว่าลูกช้าง "ข้าวต้ม" มีความผิดปกติแต่กำเนิดของกลุ่มเส้นเอ็นที่ทำหน้าที่งอข้อขาหน้า (Congenital anomaly of the Flexor group) ซึ่งเป็นภาวะที่พบได้ไม่บ่อยนักในลูกช้าง แต่ทีมผู้เชี่ยวชาญได้ร่วมกันวางแผนการรักษาอย่างเป็นระบบ โดยจะเน้นการทำกายภาพบำบัดอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งรวมถึงการใช้เครื่องอัลตราซาวด์บำบัด, การทำหัตถการยืดเหยียดข้อต่อ และการใช้เครื่องกระตุ้นแม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งทั้งหมดนี้มีเป้าหมายเพื่อช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อและข้อต่อของลูกช้างให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง

นอกจากนี้ คณะสัตวแพทย์ยังได้ให้คำแนะนำในเรื่องโภชนาการและการดูแลในด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมความพร้อมของน้องข้าวต้มให้มีสุขภาพดีที่สุด“

คลิก>>>ชมคลิป “ข้าวต้ม”






กำลังโหลดความคิดเห็น