xs
xsm
sm
md
lg

คดีหนุ่มคลั่งถือมีดอาละวาดคอนโดฯ! เจ้าตัวยอมรับผิด แต่ปัดทำร้ายใคร แค่เมาและเครียด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เหตุหนุ่มคลั่งคอนโดฯ ย่านดินแดงยังร้อน! ผู้ก่อเหตุวัย 37 ปีเข้ามอบตัวรับผิด ยอมรับเมาโซจู-เครียดเรื่องครอบครัว ยันไม่มีเจตนาทำร้ายใคร ตำรวจแจ้งข้อหาพยายามบุกรุกและก่อความเดือดร้อนรำคาญ ด้านทนายชี้อาจเข้าข่ายหลายความผิด โทษถึงขั้นจำคุก ขณะที่ผู้เสียหายโพสต์ขอเจรจาหาทางออกเย็นนี้

จากกรณีที่โลกออนไลน์กำลังวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหลังจากที่มีคลิปชายคนหนึ่งแสดงพฤติกรรมคลุ้มคลั่ง ถือมีดก่อความวุ่นวายในคอนโดฯ ย่านดินแดง ทั้งใช้มีดเคาะ ถีบประตู และใช้เลือดป้ายหน้าห้องพักของลูกบ้าน จนสร้างความหวาดกลัวเป็นอย่างมาก

ล่าสุดวันนี้ (23 ก.ย.) นายเทียน อายุ 37 ปี ผู้ก่อเหตุ ได้เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาต่อพนักงานสอบสวน สน.ดินแดง โดยมีครอบครัวเดินทางมาด้วย ซึ่งท่าทีของนายเทียนดูสงบและอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด จนแทบจะกลายเป็นคนละคนกับภาพในคลิปวิดีโอ

นายเทียนยอมรับผิดทั้งหมด พร้อมเปิดเผยว่าสาเหตุไม่ได้มาจากการถูกลูกบ้านร้องเรียนกับนิติบุคคลอย่างที่เป็นข่าว แต่มาจากความเครียดสะสมตลอด 1 ปีที่ผ่านมา จากการต้องแบกรับภาระเลี้ยงดูลูกวัย 1 ขวบ และปัญหาทางการเงิน โดยก่อนเกิดเหตุได้ดื่มเหล้าโซจูไปถึง 5 ขวด จนเมาและขาดสติ ยืนยันว่าไม่ได้เจาะจงก่อเหตุเฉพาะห้องคู่กรณี แต่เดินไปเคาะประตูเกือบทุกห้อง และไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายใคร

"ผมยอมรับว่าสิ่งที่ทำเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะสม และไม่อยากให้เยาวชนเอาเป็นแบบอย่าง" นายเทียนกล่าว พร้อมกับกล่าวขอโทษคู่กรณี และกล่าวว่าหากหลังจากนี้คู่กรณีไม่ยอมไกล่เกลี่ยตนก็พร้อมรับสภาพ และจากผลการตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ไม่พบสารเสพติดในร่างกายของนายเทียนแต่อย่างใด

ขณะเดียวกัน ผู้เสียหายก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า "ขอให้ผู้ก่อเหตุและนิติบุคคลมาเจรจากันนะครับเย็นนี้ เพื่อหาทางออกของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ #อย่ามองว่ามันเป็นเรื่องเล็ก"

ด้าน พันตำรวจเอก ภษิต กะเตื้องงาน ผู้กำกับการ สน.ดินแดง เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุสามีภรรยาทะเลาะกัน จึงไม่ได้เข้าไประงับเหตุทันที แต่เมื่อทราบภายหลังว่าได้สร้างความเดือดร้อนรำคาญ ก็ได้เรียกผู้ก่อเหตุเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาทันทีในวันนี้ โดยเบื้องต้นได้แจ้งข้อหา พยายามบุกรุก และข้อหาทำให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญ

ส่วนข้อหาเกี่ยวกับอาวุธมีดอยู่ระหว่างการพิจารณา พร้อมยืนยันจะดำเนินคดีตามหลักฐานอย่างเป็นธรรม

ขณะที่ ทนายสายหยุด เพ็งบุญชู ให้ข้อมูลว่าพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุมีความผิดทางอาญาหลายข้อหา ทั้งการหน่วงเหนี่ยวกักขัง ซึ่งมีอัตราโทษสูง และความผิดเกี่ยวกับการข่มขืนใจผู้อื่นให้ตกใจกลัว รวมไปถึงทำให้เสียทรัพย์ โดยทนายระบุว่าแม้บางข้อหาจะเป็นเรื่องลหุโทษ แต่ก็มีโทษจำคุก และสามารถถูกนำตัวไปปรับที่ศาลได้ หากผู้เสียหายไม่ยอมไกล่เกลี่ย
กำลังโหลดความคิดเห็น