ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วส่งหนังสือประท้วงถึงผู้ว่าฯ บันเตียเมียนเจยของกัมพูชา หลังเกิดเหตุพลเรือนกัมพูชาบุกรุกเข้ามาในเขตแดนไทยถึง 2 ครั้งภายใน 2 วัน ทั้งรื้อถอนรั้วลวดหนาม ทำร้ายเจ้าหน้าที่ไทยจนบาดเจ็บหลายราย และขโมยทรัพย์สินราชการ ทั้งที่ทหารกัมพูชาอยู่ในพื้นที่แต่ไม่เข้าห้ามปราม ย้ำเป็นการละเมิดอธิปไตยไทยและขอสงวนสิทธิ์ในการป้องกันตัวเองตามหลักสากล
วันที่ 19 ก.ย. มีรายงานว่า นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ได้ส่งหนังสือประท้วงอย่างเร่งด่วนที่สุดถึงผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจยของกัมพูชา เพื่อคัดค้านการกระทำที่ผิดกฎหมายและเป็นปรปักษ์ของพลเรือนกัมพูชา รวมถึงการละเลยของเจ้าหน้าที่กัมพูชาที่ไม่เข้าห้ามปราม โดยเนื้อหาในหนังสือมีดังนี้
วันที่ 16 ก.ย. 68 พลเรือนกัมพูชาได้บุกรุกเข้ามาในเขตแดนไทย บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว ต.โคกสูง จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นพื้นที่อธิปไตยของไทยอย่างชัดเจน โดยกลุ่มคนดังกล่าวได้พยายามรื้อถอนรั้วลวดหนามของไทย พร้อมทั้งใช้ไม้ทำร้ายเจ้าหน้าที่และขโมยทรัพย์สินทางราชการ ทั้งนี้ มีทหารกัมพูชาอยู่ในพื้นที่แต่ไม่ได้เข้าห้ามปรามแต่อย่างใด
วันที่ 17 ก.ย. 68 พลเรือนกัมพูชาประมาณ 200 คน ได้บุกรุกเข้ามายังพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้วอีกครั้ง และได้รื้อถอนรั้วลวดหนาม รวมถึงใช้ไม้ ท่อนเหล็ก และก้อนหินทำร้ายเจ้าหน้าที่ไทยที่เข้าห้ามปราม จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย ฝ่ายไทยจึงจำเป็นต้องใช้สิทธิ์ป้องกันตัวตามความเหมาะสม แม้ได้แจ้งให้ทหารกัมพูชาเข้าห้ามปรามพลเรือนแล้ว แต่ก็ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ
ผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจยและคณะผู้สังเกตการณ์ (IOT) ฝ่ายกัมพูชาได้เดินทางเข้ามาในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งเป็นดินแดนของไทยโดยไม่แจ้งล่วงหน้า ถือเป็นการละเมิดข้อตกลง IOT ที่ระบุชัดเจนว่าแต่ละฝ่ายจะต้องไม่เข้าสู่ดินแดนของประเทศคู่กรณี นอกจากนี้ยังถือเป็นการแทรกแซงปัญหาชายแดนที่ควรอยู่ภายใต้อำนาจของคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (GBC)
จังหวัดสระแก้วถือว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดอธิปไตยของไทยอย่างร้ายแรง และเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายอาญาของไทย รวมถึงไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงทวิภาคี จึงได้ยื่นข้อเรียกร้องให้กัมพูชาดำเนินการดังนี้:
1.ยุติการกระทำที่ผิดกฎหมายของพลเรือนกัมพูชาในดินแดนไทยทันที
2.ให้ทหารกัมพูชา (กองทัพภาคที่ 5) เข้าควบคุมพลเรือนของตนไม่ให้ละเมิดกฎหมายไทย
3.งดเว้นการส่งเจ้าหน้าที่หรือคณะ IOT เข้ามาในดินแดนไทยโดยพลการ
4.ให้ความเคารพกลไก JBC และ GBC ตามที่ได้ตกลงร่วมกัน
ทั้งนี้ จังหวัดสระแก้วขอสงวนสิทธิ์ในการป้องกันอธิปไตยและความปลอดภัยของประชาชนไทยตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ และยังคงยืนยันเจตนารมณ์ในการธำรงรักษาสันติภาพ เสถียรภาพ และความเป็นเอกภาพของอาเซียน