เสียงสะท้อนจากแนวหน้าเผยระบบราชการไทยไร้ประสิทธิภาพในการจัดซื้ออุปกรณ์ทางทหาร ทำทหารต้องรออุปกรณ์นานเกินเหตุ ขณะมูลนิธิและประชาชนต้องลุกขึ้นช่วยเอง ร้องรัฐบาลเร่งแก้ระเบียบล้าหลังให้ทันสถานการณ์
วันนี้ (8 ส.ค.) “พ่อเลี้ยงเจจากดาวอังคาร” ยูทูบเบอร์สายวิเคราะห์การเมืองนอกกระแส ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอในหัวข้อ “ โดรนไทยทำไมต้องใช้เอกชน รบ.ลังกาวีมีแต่วางสนุ๊ก ” โดยมี อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน มาร่วมรายการ
ระบบราชการไทยยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างอุปกรณ์จำเป็น เช่น โดรนและระบบต่อต้านโดรน ยังคงติดขั้นตอนที่ล่าช้าและซับซ้อน ส่งผลให้ทหารในพื้นที่ชายแดนไม่สามารถเข้าถึงยุทโธปกรณ์ที่จำเป็นได้ทันเวลา
อ.ปานเทพดชี้ให้เห็นว่า กระบวนการจัดซื้อในระบบราชการต้องใช้เวลาหลายขั้นตอนกว่าจะเซ็นสัญญาได้ และต้องรออีกหลายเดือนจึงจะได้รับอุปกรณ์มาใช้งานจริง ความล่าช้าเช่นนี้ส่งผลให้ทหารต้องเสี่ยงชีวิตโดยปราศจากเครื่องมือทันสมัยที่สามารถช่วยลดความสูญเสีย
ทั้งตาม ขั้นตอนราชการที่ซับซ้อน แม้จะใช้วิธีพิเศษก็ต้องทำทีโออาร์ ตั้งคณะกรรมการ ขออนุมัติเป็นชั้นๆ ส่งเอกสารรอการตอบกลับ ร่างสัญญา ผ่านอัยการ กฤษฎีกา ใช้เวลาอย่างน้อย 45–60 วันกว่าจะเซ็นสัญญา และยังต้องรอผลิตอีก 30–60 วัน ในขณะที่อุปกรณ์ดีๆ ขาดตลาดเพราะหลายประเทศแย่งซื้อ ตรงข้ามกับกัมพูชาที่ใช้เงินสีเทาซื้อของใต้ดินได้ทันที ของเข้ามาเร็วไม่ติดระเบียบแบบไทย
นอกจากนี้ยังมีคำถามว่า เหตุใดรัฐบาลไม่สามารถเร่งปรับปรุงระเบียบราชการให้ยืดหยุ่นและรวดเร็วขึ้นในสถานการณ์ฉุกเฉิน เหมือนที่เคยทำได้ในช่วงวิกฤตโควิด-19 ทั้งที่ความมั่นคงของประเทศควรได้รับการจัดการอย่างเร่งด่วนเช่นเดียวกัน
สถานการณ์นี้ทำให้ภาคเอกชนและภาคประชาชนต้องลุกขึ้นมามีบทบาทสำคัญ มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินได้ดำเนินการระดมทุนจากประชาชนเพื่อจัดซื้อโดรนและอุปกรณ์ต่อต้านโดรนส่งมอบให้หน่วยทหารในพื้นที่แนวหน้า แสดงให้เห็นถึงพลังของสังคมที่ไม่ทอดทิ้งกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่เสี่ยงภัย
นอกจากนี้ ยังมีทหารหลายหน่วยขอความช่วยเหลือเข้ามาเพราะอาวุธขาด เช่น ลูกปราย เสื้อเกราะ แอนตี้โดรน และโดรนโลเคเตอร์ บางคนบอกหากไม่ได้ก็ไม่รู้จะยืนสู้ยังไง รู้สึกโดดเดี่ยว มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินจึงต้องเปิดรับบริจาคต่อ แม้ตั้งใจจะปิดแล้ว เพราะยังมีทหารด่านหน้าที่ชีวิตขึ้นอยู่กับความช่วยเหลือเร่งด่วนจากประชาชนมากกว่าระบบรัฐที่เชื่องช้า
อ.ปานเทพสรุปว่า รัฐบาลควรแสดงความจริงใจด้วยการเร่งปรับปรุงหรือตัดลดขั้นตอนราชการที่ล้าหลัง เพื่อให้การจัดหาอุปกรณ์ให้ทหารสามารถดำเนินการได้อย่างทันท่วงทีในสถานการณ์ที่ประเทศต้องเผชิญกับภัยคุกคามอย่างต่อเนื่อง