ทบ.โต้กัมพูชา ปฏิเสธโดยสิ้นเชิงต่อข้อกล่าวหาใช้ F-16 ยิงถล่มพื้นที่พลเรือน แฉกลับกัมพูชาตัวดีตั้งปืนใหญ่ใกล้ชุมชน ใช้พลเรือนเป็นเกราะกำบัง ย้ำอาวุธไทยแม่นยำ ขณะที่ของกัมพูชาขาดความแม่นยำ
เมื่อวันที่ 25 ก.ค. 2568 เวลา 12.35 น. พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีสื่อกัมพูชากล่าวหาไทยใช้เครื่องบินรบ F-16 ติดอาวุธโจมตีฐานทัพ และพื้นที่พลเรือนฝั่งกัมพูชาว่ากองทัพบกขอปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวโดยสิ้นเชิง และเห็นว่าเป็นข่าวบิดเบือน (Disinformation) ที่อาจถูกใช้เพื่อหวังผลต่อการรับรู้ในเวทีต่างประเทศ จึงขอชี้แจงข้อเท็จจริงตามลำดับดังนี้
1. ยืนยันฝ่ายไทยใช้ปฏิบัติการทางทหารดำเนินการต่อเป้าหมายทางทหารเป็นหลัก จำกัดวงอยู่เฉพาะเป้าหมายที่เป็นภัยคุกคามทางทหาร ดำเนินการอย่างระมัดระวัง ภายใต้หลักการป้องกันตนเองตามกฎหมายระหว่างประเทศ และ กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ (IHL)
2. มีข้อมูลด้านการข่าวระบุว่า ฝ่ายกัมพูชา พยายามตั้งจุดยิงอาวุธสนับสนุน เช่น ปืนใหญ่ และจรวด ใกล้พื้นที่ชุมชน เข้าข่ายเป็นการ “ใช้พลเรือนเป็นโล่กำบัง” (Human Shields) ซึ่งขัดต่อหลักมนุษยธรรมอย่างร้ายแรง
3. ไทยหลีกเลี่ยงเป้าหมายที่อาจกระทบพลเรือน แม้จะมีสิทธิในการตอบโต้ตามหลักการป้องกันตนเอง แต่ฝ่ายไทยพยายามไม่ดำเนินการทางทหารต่อเป้าหมายที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เสี่ยงต่อพลเรือน โดยไม่จำเป็น ทั้งนี้เพื่อแสดงออกถึงการให้ความสำคัญต่อมาตรฐานมนุษยธรรม
4. ทหารไทยยึดถือกติกาสากลอย่างต่อเนื่อง หากติดตามสถานการณ์มาโดยตลอดจะเห็นได้ชัดเจนว่าฝ่ายไทยดำเนินการทุกขั้นตอนโดยยึดหลักกฎหมายระหว่างประเทศ กฎบัตรสหประชาชาติ และพันธกรณีด้านมนุษยธรรม
5. การปฏิบัติการทางทหารของกองทัพบกดำเนินการบนพื้นฐานของเหตุผลความจำเป็นเคร่งครัดในกรอบกติกา ผ่านการพิจารณารอบด้าน แม้ในยามถูกยั่วยุหรือถูกใส่ร้าย
6. การใช้อากาศยานเพื่อนำพาอาวุธไปสู่เป้าหมายทางทหารมีความน่าเชื่อถือสูงในความแม่นยำ และมีประสิทธิภาพสูงต่อการทำลายที่หมายในลักษณะแบบจำกัดวง ต่างจากอาวุธยิงสนับสนุนระยะไกลอื่นๆ ของฝ่ายกัมพูชา ซึ่งขาดความแม่นยำต่อเป้าหมายแบบเฉพาะจุด ที่ผ่านมาจึงเป็นเหตุให้เกิดข้อผิดพลาดร้ายแรง ส่งผลกระทบต่อพลเรือนที่ไม่เกี่ยวข้องในหลายพื้นที่
กองทัพไทยยืนหยัดในการป้องกันตนเอง ปกป้องประชาชน และผืนแผ่นดินไทยด้วยความสง่างามให้เป็นที่ยอมรับ ภายใต้หลักสากล