สงขลาเผชิญวิกฤตบุหรี่ผิดกฎหมาย “สุพิศ พิทักษ์ธรรม” ลั่นพร้อมเดินหน้าผลักดันแก้ปัญหาอย่างจริงจัง

สงขลา - สถานการณ์บุหรี่ผิดกฎหมายในประเทศไทยยังคงอยู่ในภาวะวิกฤต จากการสำรวจอัตราการบริโภคบุหรี่ผิดกฎหมายในประเทศไทย โดยอุตสาหกรรมยาสูบ ในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 พบว่ามีอัตราการบริโภคบุหรี่ผิดกฎหมายสูงถึง 28.1% ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่มีการสำรวจในช่วงกว่า 10 ปีที่ผ่านมา

จังหวัดสงขลาได้รับการระบุว่าเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีการระบาดของบุหรี่ผิดกฎหมายรุนแรงที่สุด โดยเป็นจุดกระจายบุหรี่เถื่อนไปยังหลายจังหวัดทั่วประเทศ ด้วยข้อได้เปรียบด้านภูมิศาสตร์ที่มีพรมแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้านทั้งทางบกและทางทะเล ทำให้เอื้อต่อการลักลอบนำเข้าสินค้าหนีภาษี โดยเฉพาะบุหรี่เถื่อน ซึ่งถูกลำเลียงเข้ามาทั้งผ่านเส้นทางบก และขนส่งทางทะเล

นอกจากนี้ สงขลายังเป็นศูนย์กลางการค้าในภาคใต้ตอนล่าง มีผู้ประกอบการทั้งชาวไทยและต่างชาติดำเนินธุรกิจจำนวนมาก ส่งผลให้พบร้านจำหน่ายบุหรี่เถื่อนเปิดขายอย่างโจ่งแจ้งในหลายพื้นที่ ผลสำรวจล่าสุดระบุว่าจังหวัดสงขลามีอัตราความชุกของบุหรี่ผิดกฎหมายสูงเป็นอันดับ 2 ของประเทศ คิดเป็น 90.8% เป็นรองเพียงจังหวัดสตูล

เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2568 สมาคมการค้ายาสูบไทย พร้อมด้วยภาคีเครือข่ายชาวไร่ยาสูบแห่งประเทศไทย ได้ลงพื้นที่จังหวัดสงขลาและเข้าพบ นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา เพื่อรายงานสถานการณ์ พร้อมหารือแนวทางการแก้ไขปัญหา โดยนายสุพิศแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่าทาง อบจ.สงขลาตระหนักถึงความรุนแรงของปัญหา และมีเจตนารมณ์ร่วมกับคณะทำงานในการแก้ไขอย่างจริงจัง

“เรารับทราบปัญหานี้มาโดยตลอด และตั้งใจที่จะแก้ไขอย่างจริงจัง เพราะนอกจากจะกระทบต่อรายได้ภาษีของรัฐที่ลดลงทุกปีแล้ว ยังส่งผลต่อพ่อค้าแม่ค้าที่ค้าขายอย่างสุจริต หากเราไม่ลุกขึ้นมาช่วย แล้วใครจะช่วย” นายสุพิศกล่าว

นายสุพิศยังระบุว่า ได้มอบหมายให้รองนายก อบจ. และหัวหน้ากองคลังจัดทำหนังสือแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด พร้อมดำเนินการพูดคุยในระดับผู้บริหารเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหา พร้อมกล่าวย้ำว่า

“สงขลาคือบ้านของผม ผมเป็นคนสงขลา ใครหน้าไหนจะมารังแกชาวสงขลา ผมไม่ยอมแน่นอน”

นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม ยืนยันว่าทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาจะดำเนินการติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด และรายงานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบอย่างต่อเนื่อง เพื่อปกป้องสิทธิของผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และสร้างความเป็นธรรมในระบบเศรษฐกิจของพื้นที่

ด้านนางสาวธัญญศรัณ แสงทอง ผู้อำนวยการบริหารสมาคมการค้ายาสูบไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางสมาคมฯ มีสมาชิกร้านค้าบุหรี่ถูกกฎหมายกว่า 400,000 รายที่ได้รับผลกระทบจากการเติบโตของบุหรี่เถื่อน ขอเรียกร้องให้ภาครัฐและผู้ที่เกี่ยวข้องร่วมกันกวาดล้างร้านค้าบุหรี่ผิดกฎหมายอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ติดตามผลว่าร้านที่ถูกปิดดำเนินคดีแล้วจะไม่สามารถมาเปิดกิจการได้อีก และเพิ่มบทลงโทษต่อผู้กระทำผิดให้รุนแรงยิ่งขึ้น ควบคุมและปิดกั้นการขายบุหรี่ผิดกฎหมายในช่องทางออนไลน์ รวมถึงร่วมมือกับบริษัทขนส่งพัสดุในการตรวจสอบและป้องกันการขนส่งสินค้าผิดกฎหมาย พร้อมสร้างความตระหนักรู้แก่ประชาชนถึงผลกระทบจากบุหรี่ผิดกฎหมายทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสุขภาพ รณรงค์ช่องทางการแจ้งเบาะแสบุหรี่ผิดกฎหมายอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป

“สมาคมการค้ายาสูบไทยได้เน้นย้ำถึงความสำคัญที่หน่วยงานต่างๆ ในแต่ละจังหวัดควรผนึกกำลังกันเพื่อแก้ไขปัญหาบุหรี่เถื่อนอย่างเร่งด่วน เนื่องจากบุหรี่เถื่อนไม่เพียงแต่สร้างผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน แต่ยังทำให้รัฐและจังหวัดสูญเสียรายได้จากภาษีจำนวนมหาศาล ซึ่งเป็นเม็ดเงินสำคัญที่สามารถนำไปพัฒนาท้องถิ่นและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในจังหวัดได้” นางสาวธัญญศรัณกล่าว