ศ.นพ.ชวลิตได้โพสต์เตือน วัสดุหรือสิ่งของใดบ้างที่ห้ามนำเข้าเครื่อง MRI เนื่องจาก MRI ใช้แม่เหล็กแรงสูงมาก (สูงถึง 1.5-3.0 เทสลา) วัสดุบางชนิดอาจถูกดูดเข้าไปอย่างรุนแรง ทำให้เกิดอันตรายได้ทั้งต่อผู้ป่วยและบุคลากร
จากกรณีเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงที่ศูนย์ MRI ในนครเวสต์เบอรี ลองไอส์แลนด์ สหรัฐอเมริกา เมื่อชายวัย 61 ปีถูกสนามแม่เหล็กแรงสูงของเครื่องตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) ดูดเข้าไปอย่างรุนแรง ขณะเขาสวมสร้อยคอโลหะขนาดใหญ่ โดยไม่ได้เป็นผู้ป่วยที่เข้ารับการ
ตรวจ ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
วันนี้ (20 ก.ค.) เพจ “ศ.นพ.ชวลิต ศูนย์มะเร็ง" ของ ศ.นพ.ชวลิต เลิศบุษยานุกูลศาสตราจารย์สาขารังสีรักษาและมะเร็งวิทยา ภาควิชารังสีวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้โพสต์ถึงกรณีดังกล่าวระบุว่า “วัสดุหรือสิ่งของที่ห้ามนำเข้าเครื่อง MRI
เนื่องจาก MRI ใช้แม่เหล็กแรงสูงมาก (สูงถึง 1.5-3.0 เทสลา) วัสดุบางชนิดอาจถูกดูดเข้าไปอย่างรุนแรง ทำให้เกิดอันตรายได้ทั้งต่อผู้ป่วยและบุคลากร
กลุ่มวัสดุที่ห้ามเด็ดขาดหรือควรหลีกเลี่ยงในการเข้าเครื่อง MRI ได้แก่ วัสดุที่เป็นโลหะแม่เหล็ก (Ferromagnetic Materials) เหล็กกล้า, เหล็กหล่อ, คลิปหนีบกระดาษ, เข็มกลัด, ตะปู, เครื่องมือช่าง เช่น ไขควง, ค้อน, กรรไกร, ปากกาโลหะ, โทรศัพท์มือถือ, พวงกุญแจ
วัสดุฝังในร่างกายที่ไม่ MRI-safe
คลิปหนีบหลอดเลือดสมองรุ่นเก่า
เครื่องกระตุ้นหัวใจ (pacemaker), ICD
ปั๊มยา, ปั๊มอินซูลินแบบฝัง, ลิ้นหัวใจเทียมบางรุ่น, ฝังเข็มโลหะที่ไม่สามารถเอาออกได้, สิ่งของติดตัว/บนร่างกาย, เครื่องประดับโลหะ (แหวน, สร้อย, ต่างหู, นาฬิกา) ฟันปลอมชนิดมีโลหะ, รีเทนเนอร์เหล็ก, วิกผมที่มีแกนลวด, เครื่องสำอางที่มีผงโลหะหรือกลิตเตอร์, เสื้อผ้า/ชุดชั้นในที่มีลวดเหล็ก, ตะขอ
สิ่งของเล็กๆ ที่อาจพลาดได้, เหรียญในกระเป๋า, บัตรแถบแม่เหล็ก (ATM, บัตร รพ.), ปากกาในกระเป๋าเสื้อ, ยาทาเล็บแบบมีผงแม่เหล็ก (บางยี่ห้อ)
ข้อควรจำ โลหะบางชนิดแม้ไม่ถูกดูด แต่อาจร้อนหรือรบกวนภาพ MRI ได้ วัสดุที่ไม่ใช่โลหะ เช่น ซิลิโคน หรือฟิลเลอร์ ก็ควรแจ้งแพทย์ หากไม่แน่ใจว่าอุปกรณ์ปลอดภัยหรือไม่ ควรถามเจ้าหน้าที่
โดยปกติแล้วจะมีเจ้าหน้าที่รังสีเทคนิค เป็นผู้ดูแลขั้นตอนคัดกรองและซักประวัติก่อนตรวจ MRI เพื่อป้องกันอุบัติเหตุและความคลาดเคลื่อนที่อาจเกิดขึ้น
การทำงานของเจ้าหน้าที่เหล่านี้มีความสำคัญมาก เพราะช่วยให้การตรวจปลอดภัยสูงสุด
