xs
xsm
sm
md
lg

นักวิชาการ ร้องสำนักพุทธฯ จี้เอาผิดพระ จ.ตาก บุกรุกโบราณสถาน ตั้งชื่อใหม่เป็นวัด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นักวิชาการ-ทนายบุกร้อง พศ. เหตุพระบุกเข้ายึดครองโบราณสถานวัดดอยข่อยเขาแก้ว จ.ตาก ชี้ศาลเคยสั่งลงโทษแล้วยังบุกรุกซ้ำ แถมตั้งชื่อใหม่ แสดงตนเป็นเจ้าอาวาส จะจัดกิกรรม ยกหลายกฎหมายให้ขอ พศ. ร้องเอาผิด และสละสมณเพศ

เมื่อวันที่ 4 เม.ย. นายสุชาติ กนกรัตน์มณี ประธานชมรมตามรอยเจ้าตาก พร้อมด้วย นายจตุรงค์ จงอาษา นักวิชาการศาสนา นายอรรณพ บุญสว่าง ทนายความด้านพระพุทธศาสนา ฉายา "มือปราบเงินทอนวัด" ได้ยื่นหนังสือต่อนายบุญเชิด กิตติธรางกูร รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เพื่อร้องเรียนกรณีนายสมบูรณ์ ปันคำ อดีตนักการเมืองท้องถิ่น มาบวชเป็นพระ แล้วมีพฤติการบุกรุก ฮุบ และครอบครองโบราณสถาน ต.แม่ท้อ อ.เมืองฯ จ.ตาก ที่ถูกประกาศในราชกิจจานุเบกษา ตามคำสั่งกรมศิลปากร โดยเข้าไปรื้อถอนโบราณสถาน ปลูกสร้างอาคารใหม่เพิ่ม (วัดเถื่อน) จัดบวชพระตามใจตนเองโดยพลการ ทั้งนี้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และ พศ. เคยมีคำสั่งให้พระรูปดังกล่าวให้ออกจากพื้นที่แล้ว แต่เจ้าตัวยังครอบครองโบราณสถานดอยข่อยเขาแก้วต่อไป

โดยนายสุชาติ กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2552 ถึงวันที่ 21 ก.ย. 2554 นายสมบูรณ์ ปันคำ กับพวก ได้ร่วมกันบุกรุกเข้าไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา และพักอาศัยอยู่ในบริเวณโบราณสถานวัดดอยข่อยเขาแก้ว (วัดร้าง) จ.ตาก พศ. ได้ดำเนินคดี ศาลมีคำพิพากษาลงโทษนายสมบูรณ์แล้ว แต่ปรากฏว่านายสมบูรณ์ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุสังกัดวัดหัวหิน (วัดพระนารายณ์) ต.แม่ท้อ อ.เมืองฯ จ.ตาก และกลับมาพักอาศัยในบริเวณวัดดอยข่อยเขาแก้ว บุกรุก เรียกขานสถานที่ขึ้นใหม่ เป็นชื่อวัดพระเจ้าตากสิน และแสดงตนเป็นเจ้าอาวาส ต่อสาธารณชน สื่อออนไลน์ จะจัดกิจกรรมอุปสมบท รับเงินบริจาคในวันที่ 15-25 เม.ย. 2568 ทั้งที่ไม่มีอำนาจกระทำการ เนื่องจากเป็นวัดร้าง

“ตาม พ.ร.บ.โบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ.2504 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2535 มาตรา 32 ผู้ใดบุกรุกโบราณสถาน หรือทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งโบราณสถานมีโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี หรือปรับไม่เกินเจ็ดแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ การที่พระสมบูรณ์สร้างความเข้าใจผิด บิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อแสดงว่าตนมีอำนาจปกครองโบราณสถานวัดดอยข่อยเขาแก้วซึ่งมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์มาตรา 14 (1) ด้วย พระสมบูรณ์ มีสังกัดอยู่วัดหัวหิน (วัดพระนารายณ์) แต่ได้มาจำพรรษา พำนักอยู่ที่วัดดอยข่อยเขาแก้ว เป็นพฤติการณ์ของภิกษุซึ่งไม่ปรากฏว่าสังกัดอยู่วัดใดวัดหนึ่งแน่ชัด ตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 มาตรา27 (2 ),(3 ),(4 ) และกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 21 ว่าด้วยการให้พระภิกษุสละสมณเพศ ข้อ 3 (2 ) ในกรณีพระภิกษุไม่มีวัดอยู่เป็นหลักแหล่ง ให้พระภิกษุผู้ดำรงตำแหน่งปกครองคณะสงฆ์ในท้องที่ที่พบพระภิกษุรูปนั้น มีอำนาจหน้าที่วินิจฉัยให้พระภิกษุรูปนั้นสละสมณเพศเสียได้ ขอให้ พศ.ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของท่าน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ตั้งอธิกรณ์พิจารณาทางพระธรรมวินัย และดำเนินคดี” นายสุชาติ กล่าว

นายจตุรงค์ กล่าวว่า ในการทำกิจกรรมรับเงินบริจาคที่จะถึง มีการอ้างพระผู้ใหญ่ใน จ.ตากเป็นเจ้าภาพ ซึ่งไม่รู้ว่า เป็นความจริงหรือไม่ และการบริจาคถ้าใช้การแสกนเข้าคิวอาร์โค้ดจะเป็นบัญชีบุคคล ซึ่งบุคคลดังกล่าวมีรถหรูใช้












กำลังโหลดความคิดเห็น