ญี่ปุ่นประท้วงจีนจำคุกพนักงานยา​ ผิดฐานจารกรรม

ปักกิ่ง - สถานทูตญี่ปุ่นประจำกรุงปักกิ่งแถลงเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า ศาลจีนได้ตัดสินจำคุกชายชาวญี่ปุ่นเป็นเวลา 3 ปี 6 เดือน ในข้อหาจารกรรม โดยคำตัดสินดังกล่าวน่าจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทวิภาคี

เอกอัครราชทูตญี่ปุ่น เคนจิ คานาสึกิ แถลงต่อผู้สื่อข่าวว่า ศาลประชาชนกลางหมายเลข 2 กรุงปักกิ่ง ได้ตัดสินให้พนักงานของบริษัทแอสเทลลัส ฟาร์มา อิงค์ มีความผิดฐานมีส่วนร่วมในกิจกรรมจารกรรม โดยระบุว่าคำตัดสินดังกล่าว "น่าเสียใจอย่างยิ่ง"

"เราจะยังคงเรียกร้องให้ปล่อยตัวเขาโดยเร็ว" คานาสึกิกล่าว รัฐบาลญี่ปุ่นได้เรียกร้องหลายครั้งให้จีนปล่อยตัวชายวัย 60 ปีคนนี้ในหลายระดับ รวมถึงในการประชุมสุดยอดระหว่างนายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ ของญี่ปุ่น และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ที่ประเทศเปรูเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว

แอสเทลลัส ฟาร์มา ระบุว่า บริษัท "รับทราบรายงาน" เกี่ยวกับการตัดสินลงโทษพนักงานของบริษัท แต่ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ ชายคนดังกล่าวถูกควบคุมตัวในเดือนมีนาคม 2566 ก่อนกำหนดเดินทางกลับประเทศญี่ปุ่น ไม่นาน เขาถูกจับกุมอย่างเป็นทางการในเดือนตุลาคมปีเดียวกัน และถูกตั้งข้อหาในเดือนสิงหาคม 2567

หลิน เจี้ยน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวในการแถลงข่าวว่า หน่วยงานตุลาการของจีน "ดำเนินการคดีอย่างเคร่งครัดตามกฎหมาย" และรับรองว่าสิทธิของชายคนดังกล่าวได้รับการคุ้มครอง

หลินกล่าวว่า "จีนสนับสนุนความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้ากับญี่ปุ่นเสมอ" และยินดีต้อนรับบริษัทต่างชาติ "ตราบใดที่พวกเขาปฏิบัติตามกฎหมาย ก็ไม่มีอะไรต้องกังวล"

ชายคนดังกล่าวขึ้นศาลเป็นครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ในการพิจารณาคดีแบบปิดที่ศาลในกรุงปักกิ่ง รายละเอียดที่ชัดเจนเกี่ยวกับการกระทำที่ผิดกฎหมายของเขาในจีนยังคงไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด

คานาสึกิกล่าวว่าเขาไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดของคำตัดสินของศาลได้ตามคำขอของผู้ต้องหา ทูตกล่าวเสริมว่าคำอธิบายที่ให้ไว้ในศาล "ขาดความโปร่งใสตามมาตรฐานของเรา"

 ทูตซึ่งเข้าร่วมการพิจารณาคดี 15 นาทีกล่าวว่า ชายคนดังกล่าวไม่ได้ให้การต่อศาลและยอมรับคำตัดสินอย่างใจเย็น พร้อมเสริมว่าคำตัดสินนี้สามารถอุทธรณ์ได้ภายใน 10 วันนับจากวันพฤหัสบดี

เขาเคยดำรงตำแหน่งผู้บริหารในหน่วยงานจีนของบริษัทยาแห่งนี้ และเป็นเจ้าหน้าที่อาวุโสของหอการค้าและอุตสาหกรรมญี่ปุ่นประจำประเทศจีน

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จีนได้เพิ่มการตรวจสอบองค์กรและบุคคลต่างชาติโดยอ้างว่าเพื่อปกป้องความมั่นคงของชาติ โดยมีชาวต่างชาติจำนวนหนึ่งถูกคุมขังนับตั้งแต่มีการบังคับใช้กฎหมายต่อต้านการจารกรรมในปี 2014 และกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติในปี 2015

ในเดือนพฤษภาคมปีนี้ ชายชาวญี่ปุ่นอีกคนหนึ่งถูกศาลเซี่ยงไฮ้ตัดสินจำคุก 12 ปีในข้อหาจารกรรม

นับตั้งแต่กฎหมายต่อต้านการจารกรรมของจีนมีผลบังคับใช้ครั้งแรกในปี 2014 มีพลเมืองญี่ปุ่น 17 คนถูกควบคุมตัวในข้อหาจารกรรม รัฐบาลญี่ปุ่นระบุว่ายังมีอีก 5 คนที่ยังพำนักอยู่ในจีน

ภายหลังการตัดสินลงโทษผู้บริหารระดับสูง กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นได้ "ร้องขออย่างหนักแน่น" ต่อสถานทูตจีนประจำกรุงโตเกียวให้ปล่อยตัวชาวญี่ปุ่นทั้ง 5 คน ซึ่งรวมถึงพนักงานของบริษัท Astellas Pharma โดยเร็วที่สุด พร้อมทั้งให้ปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างมีมนุษยธรรม และเพิ่มความโปร่งใสในกระบวนการยุติธรรมของจีน คานาสึกิกล่าว

เอกอัครราชทูตกล่าวว่า การกักขังชาวญี่ปุ่นในข้อหาต้องสงสัยว่าเป็นสายลับในจีนเป็น "อุปสรรคสำคัญที่สุดประการหนึ่ง" ต่อการเพิ่มการเดินทางร่วมกันของพลเมืองทั้งสองประเทศ และการปรับปรุงทัศนคติของสาธารณชนที่มีต่อกัน

กฎหมายต่อต้านการจารกรรมฉบับปรับปรุงของจีนมีผลบังคับใช้ในปี พ.ศ. 2566 ซึ่งขยายขอบเขตของกิจกรรมการจารกรรมเพื่อปกป้องความมั่นคงของชาติ โดยชาวต่างชาติและธุรกิจต่างชาติมีความกังวลเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายโดยพลการ

ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการกักขังชาวญี่ปุ่นในจีน ทำให้จำนวนชาวญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในจีนลดลง เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ตัวเลขดังกล่าวลดลงต่ำกว่า 100,000 เป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี เหลือ 97,538 ราย ซึ่งอยู่อันดับที่ 3 รองจากชุมชนชาวญี่ปุ่นในสหรัฐอเมริกาและออสเตรเลีย