เจ้อเจียง ลีปมอเตอร์ เทคโนโลยี ( Zhejiang Leapmotor Technology ) กลายเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ( EV ) ของจีนแห่งแรก ที่รัฐวิสาหกิจเข้ามาร่วมลงทุน เมื่อเอฟ เอ ดับบลิว กรุ๊ป ( FAW Group) ตกลงเข้าถือหุ้นร้อยละ 5 เป็นมูลค่า 3,740 ล้านหยวน (534 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ตามเอกสารที่ลีปมอเตอร์ยื่นต่อตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง
มูลค่าการลงทุนดังกล่าวเป็นสิ่งตอกย้ำว่านักลงทุนมีความเชื่อมั่นในลีปมอเตอร์มากขึ้น แม้ว่านักวิเคราะห์จะคาดการณ์ยอดขายในตลาดรถยนต์จีน ซึ่งใหญ่ที่สุดในโลกในแง่ลบก็ตาม
นาย จู เจียงหมิง ผู้ก่อตั้งและซีอีโอแถลงข่าวที่สำนักงานใหญ่ในเมืองหังโจวเมื่อวันจันทร์ ( 29 ธ.ค.) ว่า บริษัทตั้งเป้าหมายการส่งมอบรถยนต์ให้ได้ปีละ 4 ล้านคันภายใน 10 ปีข้างหน้า โดยจะปรับปรุงกระบวนการผลิตให้ดียิ่งขึ้นเพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า
ด้านนายหลี่ เติ้งเฟย รองประธานเอฟ เอ ดับบลิวกล่าวว่า การลงทุนครั้งล่าสุดนี้จะปูทางให้บริษัทได้ร่วมพัฒนาโมเดลEVใหม่ ๆ กับลีปมอเตอร์ นอกจากนั้นจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการและช่วยยกระดับให้แบรนด์เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางมากขึ้น
หากทำได้ตามเป้าหมายการส่งมอบรถยนต์ดังกล่าว ลีปมอเตอร์จะสามารถก้าวขึ้นไปอยู่ในกลุ่มผู้จำหน่ายรถยนต์ 10 อันดับแรกของโลก
ตามการแถลงของนายจู คาดว่า ลีปมอเตอร์จะส่งมอบรถยนต์ได้ 1 ล้านคันในปี 2569 ซึ่งยอดขายจะเพิ่มกว่าร้อยละ 60 จากปี 2568
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ถ้าทำสำเร็จ ลีปมอเตอร์จะก้าวขึ้นสู่อันดับ 3 ในกลุ่มผู้ผลิตEV รายใหญ่สุดของจีน รองจากบีวายดีและจี๋ลี่
ลีปมอเตอร์ก่อตั้งในปี 2558 มีสเตลแลนทิส (STELLANTIS) บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ข้ามชาติถือหุ้นร้อยละ 19 เป็นที่รู้จักกันดีในด้านEVอัจฉริยะ ซึ่งมีคุณสมบัติคล้ายกับ Model 3 และ Model Y ของเทสล่าที่ผลิตในเซี่ยงไฮ้ แต่ราคาถูกกว่าครึ่งหนึ่ง
สำหรับยอดขายของลีปมอเตอร์ตลอดทั้งปีนี้คาดว่าจะเกิน 600,000 คัน โดยลีปมอเตอร์เป็นหนึ่งในผู้จำหน่ายชั้นนำในตลาดจีนที่มีการแข่งขันกันดุเดือด
ในพิธีฉลองครบรอบ 10 ปีของลีปมอเตอร์เมื่อวันอาทิตย์ ( 28 ธ.ค.) บริษัทได้เปิดตัวรถยนต์ระดับพรีเมียมซีรีส์ D โดยคาดว่าจะเริ่มส่งมอบ D19 ซึ่งมาพร้อมเทคโนโลยีแบตเตอรี่ระยะไกลในเดือนเมษายนปีหน้า
เมื่อเดือนที่แล้ว นักวิเคราะห์ของดอยซ์แบงก์คาดการณ์ว่ายอดส่งมอบรถยนต์โดยรวมในจีนจะลดลงร้อยละ 5 ในปี 2569 ขณะที่ในเดือนตุลาคม เจพีมอร์แกนคาดการณ์ว่ายอดขายรถยนต์โดยรวมในจีน ทั้งรถยนต์ที่ใช้น้ำมันและEV จะลดลงระหว่างร้อยละ 3 ถึงร้อยละ 5 ในปีหน้า เนื่องมาจากปัญหาการผลิตล้นตลาดและภาครัฐลดการสนับสนุน
ที่มา : เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์


