xs
xsm
sm
md
lg

เวทีถก“การบินไทย”ผวาซ้ำรอยเดิม”แนะรัฐขายหุ้นลดบทบาท ตัดวงจรการเมืองแทรกแซงล้วงลูกตั้งบอร์ด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สมาคมนักข่าว จัดราชดำเนินเสวนา การบินไทย เดินต่ออย่างไรไม่ให้ซ้ำรอย “บรรยง พงษ์พานิช” แนะให้รัฐบาลขายหุ้น ลดบทบาท-ตัดการเมืองล้วงลูกตั้งบอร์ด ต้นแบบรัฐวิสาหกิจอื่น เซฟภาระการคลัง “ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์”เผยบอร์ดสั่ง ผู้บริหารประจบเพื่อตำแหน่ง วงจรทำลาย ด้าน“ชาย เอี่ยมศิริ”ชี้ปรับ mind set ย้ำวันนี้ไม่มีจุดอ่อน แข่งขันได้

วันที่ 24 ก.ย. 2568 สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ได้จัดกิจกรรม”ราชดำเนินเสวนา”หัวข้อ โจทย์ใหม่”การบินไทย”เดินต่ออย่างไรไม่ให้ซ้ำรอย โดยนายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการบริหาร การบินไทย จำกัด (มหาชน) อดีตประธานคณะกรรมการผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการบริษัท การบินไทยฯ นายบรรยง พงษ์พานิช อดีตกรรมการ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และนายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมเสวนา

นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการบริหารการบินไทย จำกัด (มหาชน) อดีตประธานคณะกรรมการผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการบริษัท การบินไทยฯ กล่าวว่า ที่ผ่านมาการบินไทย กับคำว่า สายการบินแห่งชาติ แต่รัฐบาลไม่ได้ให้สิทธิประโยชน์เหมือนสายการบินแห่งชาติของประเทศอื่นๆ เลย เพราะหากต้องการ SLOT หรือสิทธิพิเศษจากสนามบิน ทางผู้บริหารการบินไทย จะต้องประสานกับ บมจ.ท่าอากาศยานไทยเอง แต่เวลารัฐอยากให้การบินไทยช่วย ก็มักจะบอกว่า การบินไทยเป็นสายการบินแห่งชาติ ดังนั้นการเป็นรัฐวิสาหกิจหรือไม่ สำหรับการบินไทยจึงไม่มีความหมาย สำคัญกว่า คือต้องไม่กลับไปเป็นองค์กรที่ทำงานเหมือนรัฐวิสาหกิจ ซึ่งที่ต้องเป็นห่วง คือ การมีกรรมการที่ไม่เหมาะสม ก็อาจมีการทำงานคล้ายลักษณะรัฐวิสาหกิจได้ แล้วจะกลับไปแบบเดิม

การทำงานของการบินไทยที่ผ่านมา บอร์ดจะสั่งอย่างเดียวไม่ฟังผู้บริหาร ในที่สุดผู้บริหารจะกลัวและไม่กล้าออกความเห็น ส่วนผู้บริหารที่ไม่เก่ง มักจะประจบประแจงเพื่อให้ได้รับการแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่ง เกิดการแทรกแซง จัดซื้อจัดจ้างผ่านผู้บริหารที่ได้รับแต่งตั้งมาเพื่อตอบแทนบุญคุณเป็นวงจรคอร์รัปชั่นที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก และเป็นวิธีที่ทำลายองค์กรและหากมีเรื่องไปที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) แต่ผู้บริหารการบินไทยที่โดน ส่วนนักการเมืองจะไม่โดน เพราะนักการเมืองสั่งด้วยวาจา แล้วก็ให้ปทำมา การที่โกงกินคอร์รัปชั่น มาจากเอาคนของตัวเองขึ้นมา ทำให้องค์กรอ่อนแอเพราะบริหารโดยคนที่ไม่เก่ง ไม่มีประสิทธิภาพ หรือช่วงก่อนการฟื้นฟูการบินไทย ตอนที่ตนเป็นประธานบอร์ดการบินไทย มีแรงกดดันจากข้างนอกมากพอสมควรในการแต่งตั้งคน และไม่ใช่ระดับข้างบน เขาล้วงไปถึงข้างล่าง เติบโตขึ้นมา ซึ่งวงจรนี้กลับคืนมาได้ถ้าไม่ได้ระวัง

“ยกตัวอย่าง มีดีดีท่านหนึ่งลาออก ก่อนครบวาระ โดยบอร์ดอนุมัติ แต่สัญญาจ้างมีการเขียนว่า กรณีลาออกก่อนครบวาระ ต้องจ่ายชดเชยให้บริษัท เท่ากับเงินเดือน 6 เดือน บอร์ดเถียงกันว่าจะปรับอย่างไร เสียเวลาแต่เรื่องที่สำคัญกว่ากลับปล่อยปะละเลย เช่นเงินกองทุนบำเหน็จพนักงาน 2,300 ล้านบาท ฝากไว้ที่ธนาคากรุงไทยและออมสิน ถูกหักลบหนี้ไป ทั้งที่เป็นเงินของพนักงานแม้กฎหมายฟื้นฟูจะเปิดช่องให้เจ้าหนี้หักกลบลบหนี้ได้ บอร์ดกลับละเลย แต่ที่สุดได้มีการฟ้องร้องจนได้เงินกลับมาให้พนักงาน เป็นต้น “

ส่วนผู้บริหารการบินไทยชุดปัจจุบัน มาจากช่วง 5 ปีที่ทำแผนฟื้นฟู เป็นกลุ่มผู้บริหารที่มีความสามารถที่สุด เป็นกลุ่มที่ทำให้การบินไทยฟื้นขึ้นมา และรู้ธุรกิจการบิน ปัจจุบันกลุ่มนี้ยังอยู่และมีความเข้มแข็ง แต่ถ้าไปเจอคนงี่เง่าที่ทำงานด้วย สักพักหนึ่งก็จะหมดแรงหรือการตัดสินใจช้า องค์กรเดินได้ช้า อาจจะพลาดโอกาส เพราะธุรกิจการบินเปลี่ยนแปลงเร็วตลอดเวลา


นายปิยสวัสดิ์กล่าวว่า ตอนนี้การบินไทยมีผู้บริหารที่แข็งมาก รักและหวงแหนการบินไทย เพราะเขาสร้างมันขึ้นมาจากที่แทบล้มละลาย และต้องการให้บริษัทอยู่ต่อไปได้อย่างยั่งยืน ดังนั้นการบินไทยจะเดินไปต่อและต้องไม่ให้ซ้ำรอยเดิม ต้องเลือกกรรมการที่ดี และรัฐบาลต้องใจกว้างในการสรรหากรรมการที่เหมาะสม และเอาคนที่มีความสามารถเหมาะสมกับการทำธุรกิจที่แข่งขันมากที่สุดในโลกเข้ามา และไม่ใช่แค่การบินไทย แต่รัฐวิสาหกิจอื่นก็ควรทำด้วย รัฐต้องไม่แทรกแซง ต่างประเทศบางแห่งก่อนเป็นกรรมการต้องมีการสัมภาษณ์ หรือมีประเมินผลทำงานด้วย

“คนที่จะมาเป็นกรรมการควรจะถามตัวเองด้วยซ้ำว่า เข้ามาแล้วเพิ่มมูลค่าให้บริษัทได้ ถ้าตอบว่าไม่รู้ จะเข้ามาเสวยตำแหน่งเฉยๆ อย่าเอามาเลย คนที่เข้ามาเป็นกรรมการต้องช่วยบริษัทฟื้นฟูต่อไปได้อย่างยั่งยืน การสรรหากรรมการเป็นเรื่องสำคัญ และไม่เฉพาะการบินไทย รวมถึงรัฐวิสาหกิจอื่นๆ ด้วยถ้าอยากเห็นรัฐวิสาหกิจไทยมีความยั่งยืนต่อไป” นายปิยสวัสดิ์กล่าว

อย่างไรก็ตาม น่าจับตาวันที่ 4 ก.พ. 2569 ที่เป็นช่วงหมดเวลาช่วง Locked up period ซึ่งผู้ถือหุ้นใหญ่ กลุ่มที่ได้หุ้นเพิ่มทุนจากการแปลงหนี้เป็นทุนที่ราคา 2.5452 บาท โดยสามารถเริ่มขายหุ้นล็อตแรกได้ไม่เกิน 25% หากบอร์ดการบินไทยที่ตั้งมาดูไม่ดี มีผลต่อบริษัทที่อาจจะไปต่อไม่ได้ในสายตาของผู้ถือหุ้นใหญ่ ก็น่าจะขายหุ้นออกมา ราคาก็จะร่วงลงได้

ายบรรยง พงษ์พานิช อดีตกรรมการ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)
นายบรรยง พงษ์พานิช อดีตกรรมการ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การบินไทยเป็นรัฐวิสาหกิจที่เก่าแก่ ก่อตั้งในปี 2503 ฝ่าฟันอุปสรรคมามากมาย มีสายการบินใหญ่ๆ ในโลกเลิกกิจการจำนวนมาก อย่าง Panam หรือ United airline เข้าสู่กระบวนการล้มละลายมาแล้ว 2 ครั้ง เช่นเดียวกับ Japan airline

สายการบินไทยเป็นหลักในการเดินทางของประเทศมาตลอด ตอนต้นแทบจะ monopoly มีกำไรเรื่อยมา ปี 2547 มีการเปิดเสรีการบิน ทำให้เกิดโลว์คอสแอร์ไลน์จำนวนมากในประเทศไทย เกือบ 20 ปีการบินไทยมีกำไร 3 ปี เท่านั้น โชคดีที่เกิดโควิด-19 เพราะทำให้รัฐบาลต้องตัดสินใจผ่าตัดครั้งใหญ่ เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูตามกฎหมายล้มละลาย มีการผ่าตัดใหญ่ตลอด 5 ปี สามารถกลับมาเป็นสายการบินที่กำไรสูงที่สุดในโลก 2 ปีติดต่อกัน ทุกฝ่ายช่วยฟื้นฟูการบินไทยด้วยความยากลำบาก โจทย์คือจากนี้ต่อไปทำอย่างไรไม่ให้วนไปสู่รูปแบบเดิม

@แนะรัฐขายหุ้นออกทั้งหมด

นายบรรยงกล่าวว่า เมื่อก่อนจะซื้อเครื่องบินลำหนึ่งต้องส่งไปที่กระทรวงคมนาคม ส่งไปที่สภาพัฒนฯ อาจถูกท้วงติงได้ แล้วยังต้องให้คณะรัฐมนตรีอนุมัติ ใช้เวลา 4 ปี เสนอขอซื้ออีกรุ่น แต่อนุมัติให้ซื้ออีกรุ่นหนึ่งก็มี การไม่เป็นรัฐวิสาหกิจสำคัญมาก การที่ฟื้นฟูได้ก็เพราะไม่เป็นรัฐวิสาหกิจ เพราะนอกจากกฎระเบียบแล้ว ยังมีเรื่องคนที่ส่งคนมาเป็นกรรมการสัดส่วนนักการเมือง สัดส่วนข้าราชการ ที่มีงานประจำ ขาดทั้งเวลา ขาดทักษะการบริหารธุรกิจ

“การบินไทยที่ฟื้นฟูมาได้คือ 1. ตัดความเป็นรัฐวิสาหกิจออกไป ตัดกรรมการที่มีแต่ความกลัวออกไปถึงฟื้นฟูได้ 2. เลือกมาจากความสามารถ และผลงาน ไม่ใช่พวกใครแบบนี้ เป็นปัญหาใหญ่ การบินไทยจะเดินต่อไปได้ ต้อง ลดรัฐ เพิ่มตลาด“ นายบรรยงกล่าว

โดยขอแนะให้ รัฐบาลลดบทบาทและขายหุ้นการบินไทยให้หมด เพื่อเป็นตัวอย่างให้เห็นว่ารัฐวิสาหกิจถ้าเตรียมตัวให้พร้อมเขาจะไปได้ดี เหมือนกับที่รัฐบาลอังกฤษไม่ถือหุ้นอยู่เลย แล้วให้ธรรมาภิบาลของตลาดดูแล นอกจากนี้ จะช่วยแก้ปัญหาเสถียรภาพการคลังให้รัฐบาล ลดหนี้สาธารณะได้ส่วนหนึ่ง และจะส่งสัญญาณที่ดีมากให้กลไกของระบบ

นายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่ บริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)
@เปลี่ยน mind set แก้ปัญหา กำจัดจุดอ่อน

นายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทยฯ กล่าวว่า ปัจจุบันการบินไทยแข่งขันกับสายการบินอื่นได้ ซึ่งมาจากการวางแผนทำตามยุทธศาสตร์ เดินตามแผนฟื้นฟู คิดว่าการบินไทยแทบไม่มีจุดอ่อนเลย ดังนั้นปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้ และทุกสายการบินเจอเหมือนกัน ซึ่งสามารถแข่งขันได้ ส่วนภายในการบินไทย มีจุดแข็งคือ ภูมิศาสตร์ที่ดี มีจิตใจการบริการที่ดี ต้นทุนต่อพนักงานต่ำกว่าถ้าเทียบกับสายการบินอื่น ขณะเดียวกันประสิทธิภาพการผลิตเพิ่มขึ้น 20%

ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ได้วางแผนดู data ว่าผู้โดยสารมีแต่ละตลาดที่บินข้ามประเทศไทย ทำอย่างไรที่จะดึงราฟฟิกมาประเทศไทยได้ จาก point to point 6% ของการบินไทย แต่วันนี้มี 22% แปลว่าเราดึงผู้โดยสารจากสายการบินอื่นมาไว้ที่ประเทศไทย นี่คือจุดเปลี่ยนที่สำคัญมากๆ และสะท้อนมายังผลประกอบการ ไตรมาสที่ 2-3 ไม่ขาดทุน กำไรคงที่ จากเดิมที่ไตรมาส 2 และ 3 ขาดทุนมาตลอด

@กล้าตัดสินใจ จัดหาเครื่องบินใหม่อัพเดทผลิตภัณฑ์ชิงตลาด

นายชายกล่าวว่า ช่วง 10 ปีย้อนหลังการบินไทยมีปัญหาเรื่องฮาร์ดแวร์ เช่น เครื่องบินลดงบจัดหาเพราะขาดทุน ช่วง3 ปีที่ผ่านมามีการแก้ไข ปรับปรุงเครื่องบิน 320 และเดือนธ.ค. 68 จะมีเครื่องแอร์บัส 321 neo เข้ามา 2 ลำ ปี 69 จะเข้ามาอีก 15 ลำ เป็นเครื่อใหม่ เก้าอี้ชั้นธุรกิจเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดเมื่อเทียบกับคู่แข่ง และมีฝูงบินใหม่แบบลำตัวกว้างจากโรงงานเพิ่มขึ้นมาอีก การจัดหาเครื่องบินช่วงปี 2023 ต้น 2024 ได้ลงนามจัดหากับผู้ผลิตเครื่องบินและเครื่องยนต์เพื่อใช้ในอนาคต หากใช้ mind set เดิมๆ กว่าจะตัดสินใจนาน จะไม่มีทางได้ฝูงบินเหล่านี้มาใช้ในธุรกิจ


กำลังโหลดความคิดเห็น