กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียเมื่อวันพฤหัสบดี(25ธ.ค.) ระบุสหรัฐฯกำลังคืนชีพโจรสลัดและการโจรกรรมในทะเลแคริบเบียน ด้วยการปิดล้อมเวเนซุเอลา แต่แสดงความหวังว่าแนวคิดเชิงปฏิบัตินิยมของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งอเมริกา จะช่วยหลีกเลี่ยงหายนะจากปฏิบัติการดังกล่าวได้
"วันนี้ เรากำลังเป็นสักขีพยานของความไร้ขื่อแปโดยสิ้นเชิงในทะเลแคริบเบียน การขโมยทรัพย์สินของคนอื่นๆ การปล้นสะดมทางทะเล และโจรกรรม ที่ถูกลืมไปนานแล้ว กำลังคืนชีพขึ้นมา" มาเรีย ชาคาโรวา โฆษกกระทรงการต่างประเทศรัสเซียระบุ
"เราสนับสนุนมาอย่างต่อเนื่องต่อการลดความตึงเครียด เราหวังว่าแนวคิดเชิงปฏิบัตินิยมและความมีเหตุผลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะช่วยเปิดทางพบทางออกต่างๆ อันเป็นที่ยอมรับร่วมกัน ที่ฝ่ายต่างๆอยู่ภายใต้กรอบการทำงานของบรรทัดฐานกฎหมายระหว่างประเทศ" ชาคาโรวากล่าว
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย บอกต่อว่า "เรายืนยันแรงสนับสนุนของเราที่มีต่อความพยายามของรัฐบาลประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ที่มีเป้าหมายปกป้องอธิปไตยและผลประโยชน์ของประเทศชาติ ธำรงไว้ซึ่งเสถียรภาพและรับประกันว่าประเทศของเขาจะเดินหน้าพัฒนาสืบไป"
ทำเนียบขาวออกคำสั่งให้กองทัพสหรัฐฯ มุ่งเน้นไปที่การบังคับใช้มาตรการ "กักกัน" (quarantine) น้ำมันของเวเนซุเอลาเป็นเวลาอย่างน้อย 2 เดือน ซึ่งบ่งชี้ว่าขณะนี้วอชิงตันสนใจที่จะใช้มาตรการทางเศรษฐกิจมากกว่ามาตรการทางทหารเพื่อกดดันการากัส
"แม้ว่าทางเลือกทางทหารยังคงมีอยู่ แต่เป้าหมายหลักคือการใช้แรงกดดันทางเศรษฐกิจโดยการบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ทำเนียบขาวต้องการ" เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวระบุเมื่อวันพุธ(24ธ.ค.) โดยขอไม่เปิดเผยชื่อ
แม้ว่าประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ จะยังไม่เผยเป้าหมายที่แน่ชัดเกี่ยวกับเวเนซุเอลาให้สาธารณชนทราบ แต่เขาก็ได้กดดันประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร แห่งเวเนซุเอลาเป็นการส่วนตัวให้หลบหนีออกนอกประเทศ ตามรายงานของรอยเตอร์ ทรัมป์ ยังกล่าวเมื่อวันจันทร์(22ธ.ค.) ว่าจะเป็นการ "ฉลาด" สำหรับ มาดูโร ที่จะลงจากอำนาจ
เจ้าหน้าที่รายนี้เผยว่า "ความพยายามที่ผ่านมาได้สร้างแรงกดดันอย่างมหาศาลต่อมาดูโร และเชื่อกันว่าภายในปลายเดือนมกราคม เวเนซุเอลาจะเผชิญกับหายนะทางเศรษฐกิจ เว้นแต่จะยอมอ่อนข้อให้สหรัฐฯ อย่างมีนัยสำคัญ"
(ที่มา:รอยเตอร์/เอเจนซี)


