xs
xsm
sm
md
lg

‘ไทย’ยังรอดแต่‘ลาว’โดนห้ามเดินทางเข้าสหรัฐฯ เมื่อทรัมป์ประกาศเพิ่มรายชื่อแบนเต็มพิกัดอีก 7 ประเทศ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อวันอังคาร(16ธ.ค.) ขยายบัญชีรายชื่อประเทศที่พลเมืองถูกห้ามแบบเต็มพิกัดในการเดินทางเข้าสหรัฐฯเพิ่มขึ้นอีก 7 ประเทศ ในจำนวนนี้ก็รวมถึงลาวและซีเรีย เช่นเดียวกับพวกผู้ถือพาสปอร์ตปาเลสไตน์


ทำเนียบขาวระบุในคำแถลงว่า ทรัมป์ได้ลงนามในคำประกาศ “การขยายและการเพิ่มความเข้มแข็งให้แก่มาตรการจำกัดการเข้าเมืองสำหรับพวกผู้ถือสัญชาติจากประเทศต่างๆ ซึ่งได้สาธิตให้เห็น, มีความบกพร่องอย่างร้ายแรงและสม่ำเสมอ, ในเรื่องการคัดกรอง การตรวจสอบอย่างถี่ถ้วน และการแลกเปลี่ยนแบ่งปันข้อมูลข่าวสารเพื่อปกป้องประเทศชาติ (สหรัฐฯ) จากภัยคุกคามด้านความมั่นคงแห่งชาติและด้านความปลอดภัยสาธารณะ”

ในคำประกาศของทรัมป์ดังกล่าว ได้สั่งห้ามเต็มพิกัดพลเมืองจากประเทศบูร์กินาฟาโซ, มาลี, ไนเจอร์, ซูดานใต้, ซีเรีย, และผู้ที่ถือเอกสารการเดินทางซึ่งออกโดยองค์การบริหารปาเลสไตน์ เดินทางเข้าสหรัฐฯ นอกจากนั้นยังบังคับใช้มาตรการห้ามเต็มพิกัดกับ ลาว และ เซียร์ราลีโอน ซึ่งในคำประกาศก่อนหน้านี้เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ยังเจอแค่มาตรการห้ามบางส่วนเท่านั้น

ความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้ ทำให้มีเกือบ 40 ประเทศแล้วที่พลเมืองเผชิญกับมาตรการจำกัดการเดินทางเข้าสหรัฐฯเพียงเพราะว่าสัญชาติของพวกเขา ถึงแม้ทรัมป์ยังกำลังเพิ่มความเข้มงวดในกฎระเบียบซึ่งใช้กับผู้ที่เดินทางจากพวกชาติตะวันตกเป็นประจำด้วย

ทำเนียบขาวเน้นย้ำว่าเคลื่อนไหวของทรัมป์ มีเจตนาจัดการกับนักเดินทางต่างชาติที่เป็นภัยคุกคามประชาชนชาวอเมริกัน หลังจากประธานาธิบดีรายนี้รณรงค์มาช้านานต่อการสกัดพวกคนเข้าเมืองและส่งเสียงพูดใช้ถ้อยคำก้าวร้าวมากขึ้นเรื่อยๆ

"เขา (ประธานาธิบดีทรัมป์) ยังต้องการขัดขวางชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาในสหรัฐฯ เพื่อบ่อนทำลายและบันทอนเสถียรภาพทางวัฒนธรรม รัฐบาล สถาบันต่างๆหรือหลักการสถาปนาประเทศของอเมริกา" ประกาศของทำเนียบขาวระบุ

ความเคลื่อนไหวของทรัมป์มีขึ้นไม่กี่วัน หลังจากทหารอเมริกัน 2 นายและพลเรือนรายหนึ่งเสียชีวิตในซีเรีย ซึ่ง ทรัมป์ กำลังช่วยฟื้นฟูสถานะในระดับสากล นับตั้งแต่การล่มสลายของระบอบการปกครองของอดีตประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด

เจ้าหน้าที่ซีเรียบอกว่าคนร้ายเป็นสมาชิกกองกำลังด้านความมั่นคงที่กำลังถูกปลดประจำการ โทษฐานที่มีอุดมการณ์อิสลามิสต์หัวรุนแรง

ที่ผ่านมา รัฐบาลทรัมป์ได้แบนด้านการเดินทางอย่างไม่เป็นทางการอยู่ก่อนแล้ว สำหรับผู้ถือพาสปอร์ตองค์การปาเลสไตน์ เพื่อแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกันกับอิสราเอล ต่อต้านการรับรองความเป็นรัฐปาเลสไตน์ โดยผู้นำชาติตะวันตกอื่นๆ ในนั้นรวมถึงฝรั่งเศสและสหราชอาณาจักร

ในความเคลื่อนไหวคราวนี้ ทำเนียบขาวเผยว่าทรัมป์ยังได้กำหนดแบนด้านการเดินทางบางส่วนกับพลเมืองจากหลายชาติในแอฟริกา ในนั้นรวมถึง ไนจีเรีย ประเทศที่มีประชากรมากที่สุดของทวีป เช่นเดียวกับหลายชาติแถบแคริบเบียน ที่มีคนผิวสีเป็นคนกลุ่มใหญ่

ช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ทรัมป์ ใช้ภาษาดุเดือดมากขึ้นเรื่อยๆ ในการประณามพวกคนเข้าเมืองที่มีพื้นเพจากแอฟริกา โดย ณ เวทีชุมนุมหนึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เขาบอกว่าสหรัฐฯเอาแต่อ้าแขนรับผู้คนจากประเทศห่วยๆ แทนที่จะแสวงหาคนเข้าเมืองจากนอร์เวย์และสวีเดนแทน

ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนมิถุนายน ทรัมป์ ได้แบนเต็มพิกัดการเดินทางเข้าสหรัฐฯของชาวโซมาเลีย ตลอดจนพลเมืองของอีก 11 ชาติ ได้แก่ อัฟกานิสถาน, ชาด, สาธารณรัฐคองโก, อิเควทอเรียลกินี, เอริเทรีย, เฮติ, อิหร่าน, ลิเบีย, พม่า, ซูดาน และเยเมน โดยที่ทั้ง 12 ประเทศนี้ก็ยังคงถูกแบนการเดินทางเข้าสหรัฐฯแบบเต็มที่ต่อไป

(ที่มา: เอเอฟพี/รอยเตอร์)
กำลังโหลดความคิดเห็น