นายกรัฐมนตรีแห่งรัฐนิวเซาท์เวลส์ของออสเตรเลียระบุวันนี้ (17 ธ.ค.) ว่า ตนจะเรียกประชุมสภานิติบัญญัติอีกครั้งในสัปดาห์หน้าเพื่อผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปเกี่ยวกับอาวุธปืนและการประท้วงอย่างกว้างขวาง หลังจากเกิดเหตุกราดยิงครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบ 3 ทศวรรษของประเทศที่หาดบอนไดเมื่อไม่กี่วันก่อน
ผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นพ่อและลูกชายได้เปิดฉากยิงใส่กลุ่มคนที่ฉลองเทศกาลฮานุกกะห์ของชาวยิวที่หาดบอนไดอันโด่งดังในซิดนีย์เมื่อวันอาทิตย์ (14 ธ.ค.) ซึ่งเป็นโศกนาฏกรรมที่สร้างความตื่นตระหนกให้กับคนทั้งประเทศ และทำให้เกิดความหวาดกลัวต่อการขยายตัวของลัทธิต่อต้านชาวยิวและความรุนแรงสุดโต่ง
พิธีศพของเหยื่อชาวยิวจากการโจมตีเมื่อวันอาทิตย์ (14) เริ่มต้นขึ้นในวันพุธ (17) ท่ามกลางกระแสความโกรธเคืองที่กลุ่มมือปืนสามารถเข้าถึงอาวุธที่มีประสิทธิภาพสูง ทั้งที่หนึ่งในนั้นเคยถูกสอบสวนว่าอาจมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มหัวรุนแรง
คริส มินน์ส นายกรัฐมนตรีของรัฐนิวเซาท์เวลส์ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุกราดยิง ระบุในงานแถลงข่าวว่า สภาของรัฐจะกลับมาประชุมในวันที่ 22 ธ.ค. เพื่อพิจารณาการปฏิรูปที่ "เร่งด่วน" ซึ่งรวมถึงการจำกัดจำนวนอาวุธปืนที่บุคคลคนเดียวสามารถครอบครองได้ และทำให้ปืนลูกซองบางประเภทเข้าถึงได้ยากขึ้น
ฝ่ายบริหารรัฐยังจะพิจารณาการปฏิรูปเพื่อให้การจัดชุมนุมประท้วงบนท้องถนนขนาดใหญ่หลังเหตุการณ์ก่อการร้ายทำได้ยากขึ้น ทั้งนี้ เพื่อป้องกันความตึงเครียดที่อาจจะเกิดตามมา
“เรามีภารกิจที่ยิ่งใหญ่รออยู่ข้างหน้า มันเป็นเรื่องใหญ่มาก” เขากล่าว
“มันเป็นภาระหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่ในการรวมชุมชนเข้าด้วยกัน ผมคิดว่าเราต้องการฤดูร้อนแห่งความสงบสุขและความสามัคคี ไม่ใช่ความแตกแยก”
ซาจิด อัคราม (Sajid Akram) มือปืนวัย 50 ปี ถูกตำรวจยิงเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ขณะที่ นาวีด อัคราม (Naveed Akram) ลูกชายวัย 24 ปี ของเขา เพิ่งฟื้นจากอาการโคม่าเมื่อบ่ายวันอังคาร (16) หลังจากถูกตำรวจยิงเช่นกัน
นายกรัฐมนตรี แอนโทนี อัลบานีส แห่งออสเตรเลีย กล่าววันนี้ (17) ว่า มือปืนที่รอดชีวิตจะถูกตั้งข้อหาภายในอีกไม่กี่ชั่วโมงนับจากนี้ ขณะที่ มัล แลนยอน ผู้บัญชาการตำรวจรัฐนิวเซาท์เวลส์ ระบุว่าทางตำรวจยังคงรอให้ฤทธิ์ยาหมดลงก่อนที่จะสอบปากคำเขาอย่างเป็นทางการ
อัคราม ยังคงพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลในซิดนีย์ ภายใต้การคุ้มกันของตำรวจอย่างแน่นหนา
รายงานข่าวระบุว่า มือปืนพ่อลูกเคยเดินทางไปยังภาคใต้ของฟิลิปปินส์ซึ่งเป็นภูมิภาคที่เป็นฐานของกลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์หัวรุนแรงหลายสัปดาห์ก่อนที่จะมาก่อเหตุกราดยิง ขณะที่ตำรวจออสเตรเลียระบุว่า ดูเหมือนพวกเขาจะได้รับแรงบันดาลใจจากกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส)
ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ กล่าวในงานฉลองเทศกาลฮานุกกะห์ที่ทำเนียบขาวเมื่อคืนวันอังคาร (16) ว่า เขาระลึกถึงเหยื่อการโจมตีของผู้ก่อการร้ายที่น่าสยดสยองและต่อต้านชาวยิว
“เราขอร่วมไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิตทั้งหมด และเราขอภาวนาให้ผู้บาดเจ็บหายดีโดยเร็ว” ทรัมป์ กล่าว
ที่มา: รอยเตอร์


