xs
xsm
sm
md
lg

น่ากลัว! ฟิลิปปินส์อพยพประชาชนกว่าล้านจากเขตเสี่ยง หนีภัยซูเปอร์ไต้ฝุ่น ‘ฟงวอง’ คาดถล่มพื้นที่ 2ใน3 ทั่วแดนตากาล็อก แต่ไม่กระทบถึงไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


จูดี เบอร์ตูโซ คุณย่าวัย 63 ปี ป้อนข้าวต้มให้คุณปู่อปอลโล สามีอายุ 65 ปีของเธอที่ต้องนั่งบนรถเข็นภายหลังป่วยด้วยอาการหลอดเลือดตีบ ภายในเต็นท์พักชั่วคราวซึ่งกางอยู่บนพื้นสนามบาสเกตบอลแห่งหนึ่งในเมืองเกซอนซิตี้ เขตมหานครมะนิลา เมื่อวันอาทิตย์ (9 พ.ย.)  สองสามีภรรยาพร้อมด้วยผู้คนอื่นๆ ต้องอพยพออกจากบ้านมาหลบภัยขณะที่ซูเปอร์ไต้ฝุ่นฟงวองเคลื่อนเข้ามาใกล้
ซูเปอร์ไต้ฝุ่น “ฟงวอง” ขึ้นฝั่งบริเวณด้านตะวันออกเฉียงเหนือของฟิลิปปินส์แล้วในคืนวันอาทิตย์ (9 พ.ย.) โดยที่พายุยักษ์ใหญ่อันตรายมากลูกนี้ขณะที่ยังเคลื่อนตัวอยู่ในทะเลก็ได้คร่าชีวิตเหยื่อไปอย่างน้อย 2 คน และบังคับให้ผู้คนมากกว่า 1 ล้านต้องอพยพออกจากพวกพื้นที่ซึ่งเสี่ยงที่จะถูกน้ำท่วมและดินโคลนถล่ม อย่างไรก็ตาม กรมอุตุนิยมวิทยาของไทยบอกว่า ฟงวองจะไม่เคลื่อนเข้าประเทศไทย และไม่ก่อผลกระทบใดๆ




สำนักงานบริการสภาพอากาศแห่งชาติของฟิลิปปินส์รายงานว่า ฟงวองได้พัดขึ้นสู่ฝั่งที่บริเวณเมืองดินาลุงกัน ในจังหวัดออโรรา เมื่อเวลา 21.10 น. (20.10 น.เวลาเมืองไทย) วันอาทิตย์ หลังจากส่งอิทธิพลทำให้เกิดฝนตกและลมพัดรุนแรงมากตามจังหวัดต่างๆ ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของแดนตากาล็อกตลอดทั้งวันขณะที่มันยังอยู่ในทะเล โดยในตอนที่ขึ้นฝั่งนั้น พายุลูกนี้มีความเร็วลมสูงสุดที่ 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีลมกรรโชกแรงความเร็ว 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ไต้ฝุ่นลูกนี้ถือเป็นพายุลูกใหญ่ที่สุดซึ่งคุกคามฟิลิปปินส์ในรอบระยะเวลาหลายปี โดยนักอุตุนิยมวิทยาคาดหมายว่า แถบฝนตกและลมพัดกระหน่ำขนาดกว้างใหญ่ถึง 1,800 กิโลเมตรของฟงวอง สามารถปกคลุมพื้นที่ราวสองในสามของประเทศหมู่เกาะแห่งนี้ได้ทีเดียว ไม่เพียงเท่านั้น ความน่ากลัวของไต้ฝุ่นลูกนี้ยังมาจากข้อเท็จจริงที่ว่า มันเคลื่อนตัวเข้ามาจากมหาสมุทรแปซิฟิก ขณะที่ฟิลิปปินส์ยังคงปั่นป่วนวุ่นวายอยู่กับการรับมือความเสียหายร้ายแรงที่เกิดขึ้นจากไต้ฝุ่นคัลแมกี ซึ่งได้คร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 224 ชีวิตในบริเวณภาคกลางของแดนตากาล็อกเมื่อวันอังคาร (4) ก่อนที่จะเคลื่อนตัวไปถล่มใส่เวียดนามโดยทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 คน

ตั้งแต่ตอนเช้าวันอาทิตย์ ที่เกาะคาตันดัวเนส ซึ่งสำนักงานบริการสภาพอากาศแห่งชาติระบุว่า อยู่ใกล้ตาพายุฟงวองที่สุดนั้น เริ่มได้รับผลกระทบจากซูเปอร์ไต้ฝุ่นลูกนี้ โดยมีทั้งฝนตกหนักและลมแรง นอกจากนั้นยังเกิดคลื่นพายุซัดฝั่งและน้ำท่วมในบางพื้นที่

เบอร์นาโด ราฟาเอลิโต อาเลจันโดร รองผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน เผยว่า ไฟฟ้าดับในหมู่บ้านและเมืองหลายแห่งทางภาคตะวันออก นอกจากนี้ยังมีน้ำท่วมในเขตบิโกลบนเกาะลูซอน

พวกนักอุตุนิยมวิทยาของรัฐบาลฟิลิปปินส์คาดว่า ฟงวองอาจทำให้เกิดฝนตกวัดปริมาณน้ำฝนได้อย่างน้อย 200 มม.ในหลายพื้นที่

ด้านประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเนื่องจากความเสียหายเป็นวงกว้างจากคัลแมกี รวมทั้งภัยพิบัติรุนแรงซึ่งคาดหมายว่าจะมาจากซูเปอร์ไต้ฝุ่งฟงวอง

เจ้าหน้าที่พยากรณ์อากาศของฟิลิปปินส์ระบุเมื่อช่วงก่อนเที่ยงวันอาทิตย์ว่า ฟงวองมีความเร็วลมสูงสุด 185 กม./ชม. และลมกรรโชกสูงสุด 230 กม./ชม. บริเวณใกล้ชายฝั่งเมืองปันดันในจังหวัดคาตันตัวเนส ทางตะวันออก

นอกจากนั้น แม้มีการอพยพประชาชนแล้วกว่า 1.2 ล้านคนจากหมู่บ้านที่มีความเสี่ยงสูงในจังหวัดทางตะวันออกเฉียงเหนือ แต่ยังมีชาวบ้านบางส่วนไม่ยอมออกจากพื้นที่ที่มีแนวโน้มประสบภัยพิบัติ

กิลเบอร์โต ทีโอโดโร จูเนียร์ รัฐมนตรีกลาโหมฟิลิปปินส์ที่กำกับดูแลหน่วยงานรับมือภัยพิบัติและกองทัพ เตือนเมื่อคืนวันเสาร์ว่า ซูเปอร์ไต้ฝุ่นฟงวองอาจสร้างความเสียหายรุนแรงและส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง ซึ่งรวมถึงจังหวัดเซบู ที่อยู่ตอนกลางของประเทศและเป็นพื้นที่ที่ถูกไต้ฝุ่นคัลแมกีถล่มหนักที่สุด ตลอดจนกรุงมะนิลาด้วย

ขณะที่สำนักงานป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนคาดว่า ประชาชนกว่า 30 ล้านคนอาจได้รับผลกระทบจากซูเปอร์ไต้ฝุ่นลูกนี้

ทีโอโดโร ขอให้ประชาชนปฏิบัติตามคำสั่งของทางการและรีบอพยพออกจากพื้นที่ที่มีความเสี่ยงเกิดน้ำท่วมฉับพลัน ดินถล่ม และคลื่นพายุซัดฝั่ง

แม้ฟิลิปปินส์ไม่ได้ขอความช่วยเหลือจากนานาชาติภายหลังภัยพิบัติใหญ่จากคัลแมกี แต่ทีโอโดโรเผยว่า อเมริกาและญี่ปุ่นได้แจ้งมาว่า พร้อมจัดหาความช่วยเหลือให้

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ในจังหวัดทางเหนือสั่งปิดโรงเรียนและสถานที่ราชการส่วนใหญ่ในวันจันทร์และอังคาร (10-11 พ.ย.) นอกจากนี้ยังมีการยกเลิกเที่ยวบินในประเทศอย่างน้อย 325 เที่ยว และเที่ยวบินระหว่างประเทศ 61 เที่ยวในช่วงสุดสัปดาห์จนถึงวันจันทร์ ขณะที่นักเดินทางและพนักงานขนส่งสินค้ากว่า 6,600 คนตกค้างอยู่ในท่าเรืออย่างน้อย 109 แห่ง และเจ้าหน้าที่ยามฝั่งสั่งงดเดินเรือในทะเลที่มีคลื่นลมแรง

ทางการฟิลิปปินส์ยังเตือนว่า อาจเกิดคลื่นพายุซัดฝั่งสูงกว่า 3 เมตรซึ่งมีความเสี่ยงสูงที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตและสร้างความเสียหายรุนแรงในกว่า 20 จังหวัดและเขต ซึ่งรวมถึงมะนิลาและปริมณฑล

สำหรับผลกระทบต่อประเทศไทยนั้น กรมอุตุนิยมวิทยาได้โพสต์อัปเดตเส้นทางของ “ฟงวอง” เมื่อตอนบ่ายวันอาทิตย์ (9) ระบุว่า จากเส้นทางของพายุ ฟงวองเมื่อเคลื่อนผ่านฟิลิปปินส์ลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนบนแล้ว จะวกกลับ เคลื่อนตัวไปทางเหนือ และตะวันออกเฉียงเหนือ ทิศทางมุ่งไปยังเกาะไต้หวัน แต่จะเริ่มอ่อนกำลังลงเร็ว เนื่องจากมีมวลอากาศเย็นแผ่ลงประเทศจีนตอนใต้ ในช่วงเวลาดัวกล่าว

โพสต์ของกรมอุตุนิยมวิทยาเน้นย้ำว่า พายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย และไม่มีผลกระทบแต่อย่างใด จึงไม่น่ากังวลและวิตก ขอให้ติดตามเป็นระยะๆ กรมอุตุนิยมวิทยาจะอัพเดทสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง

(ที่มา: เอพี/เอเอฟพี)
กำลังโหลดความคิดเห็น