xs
xsm
sm
md
lg

ยอดเหยื่อไต้ฝุ่น‘คัลแมกี’ในฟิลิปปินส์ทะลุ100 สูญหายอีก26คน จ่อขึ้นฝั่งเวียดนามเช้าวันศุกร์นี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ชาวบ้านผู้หนึ่งกลับมาดูสภาพสิ่งที่ยังหลงเหลืออยู่ของบ้านของพวกเขาเมื่อวันพุธ (5 พ.ย.)  ภายหลังไต้ฝุ่นคัลแมกี ไดเสร้างความเสียหายร้ายแรงให้แก่ชุมชนต่างๆ ริมแม่น้ำมานังกา ในเมืองตาลิไซ จังหวัดเซบู ทางตอนกลางของฟิลิปปินส์
ยอดผู้เสียชีวิตจากไต้ฝุ่น “คัลแมกี” ในฟิลิปปินส์พุ่งทะลุ 100 คน สูญหายอีก 26 คน นับถึงวันพุธ (5 พ.ย.) ขณะที่ภัยพิบัติรุนแรงครั้งนี้ยังเป็นการตอกย้ำผลพวงจากปัญหาการคอร์รัปชันในโครงการควบคุมน้ำท่วมด้อยคุณภาพหรือกระทั่งไม่ไดมีอยู่จริง ทางด้านเจ้าหน้าที่พยากรณ์อากาศเผยว่า ไต้ฝุ่นลูกนี้กำลังเคลื่อนเข้าสู่ทะเลจีนใต้และคาดว่า จะขึ้นฝั่งที่เวียดนามช่วงเช้าวันศุกร์ (7 )




หลายเมืองในจังหวัดเซบู ทางตอนกลางของฟิลิปปินส์ เผชิญอุทกภัยรุนแรงแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน รถยนต์ กระท่อมริมน้ำ และแม้แต่ตู้คอนเทนเนอร์ขนาดใหญ่ไหลไปกับกระแสน้ำ

อย่างไรก็ตาม ทางการได้อพยพประชาชนกว่า 387,000 คนไปยังพื้นที่ปลอดภัยทางตะวันออกและตอนกลางของประเทศก่อนที่คัลแมกีจะขึ้นฝั่งในวันอังคาร (4) รวมทั้งออกคำสั่งให้เรือเฟอร์รี่และเรือประมงงดออกจากฝั่ง ส่งผลให้ผู้โดยสารและคนขับรถบรรทุกสินค้ากว่า 3,500 คนตกค้างอยู่ที่ท่าเรือเกือบ 100 แห่ง และเที่ยวบินในประเทศอย่างน้อย 186 เที่ยวบินถูกยกเลิก

รอน รามอส โฆษกจังหวัดเซบูที่ได้รับผลกระทบจากไต้ฝุ่นคัลแมกีหนักที่สุด เผยเมื่อวันพุธ (5) ว่า พบร่างผู้เสียชีวิต 35 คนในเมืองลิโลน ซึ่งอยู่ในเขตเซบูซิตี้ ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตในจังหวัดนี้เพิ่มเป็น 76 คน

ที่เกาะเนกรอส มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 12 คน และสูญหาย 12 คน ขณะที่ไต้ฝุ่นคัลแมกีทำให้เกิดฝนตกหนักและโคลนไหลภูเขาไฟอ่อนตัวไหลลงไปทับบ้านหลายหลังในเมืองคันลาออน

ทางการฟิลิปปินส์ระบุว่า พบผู้เสียชีวิตนอกจังหวัดเซบู 17 คน ซึ่งรวมถึงนักบินและลูกเรือรวม 6 นายของเฮลิคอปเตอร์ทหารที่ตกในจังหวัดอากูซันเดลซูร์ ระหว่างปฏิบัติภารกิจบรรเทาทุกข์เมื่อวันอังคาร

เจ้าหน้าที่พยากรณ์อากาศเผยว่า ช่วงก่อนเที่ยงวันพุธ ไต้ฝุ่นคัลแมกีเคลื่อนตัวจากจังหวัดปาลาวันทางตะวันตกของฟิลิปินส์เข้าสู่ทะเลจีนใต้ โดยมีความเร็วลม 130 กม./ชม. และลมกรรโชก 180 กม./ชม. และคาดว่า จะขึ้นฝั่งที่เวียดนามในช่วงเช้าวันศุกร์ (7 พ.ย.)

เบอร์นาร์โด ราฟาเอลิโต อเลจานโดร รองผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน และเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น เผยว่า พบผู้เสียชีวิตมากที่สุดในจังหวัดเซบูหลังจากไต้ฝุ่นคัลแมกีเข้าถล่มเมื่อวันอังคาร และทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน โดยที่น้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ต่างๆ ประชาชนต้องหนีขึ้นไปอยู่บนหลังคาบ้านระหว่างรอเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าไปช่วยเหลือ

พาเมลา บาริกัวโตร ผู้ว่าราชการจังหวัดเซบู เผยว่า ทางการพยายามอย่างเต็มที่เพื่อรับมือไต้ฝุ่น แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดคือน้ำท่วมฉับพลัน

ประชาชนในเซบูเล่าว่า น้ำท่วมเข้าไปในบ้านในเวลาแค่ไม่กี่นาที ทำให้ต้องรีบหนีขึ้นชั้นสองหรือหลังคา

บาริกัวโตรเสริมว่า การทำเหมืองหินที่มีการระเบิดหินนานนับปี ซึ่งทำให้แม่น้ำบริเวณใกล้เคียงอุดตัน รวมทั้งการทุจริตที่เกี่ยวข้องกับโครงการควบคุมน้ำท่วมที่คุณภาพต่ำกว่ามาตรฐานหรือกระทั่งเป็นโครงการหลอกๆ ไม่ได้มีการดำเนินการจริง โดยที่มีกรณีเช่นนี้เกิดขึ้นอย่างกว้างขวางทั่วประเทศ อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดน้ำท่วมรุนแรงผิดปกติในหลายพื้นที่ อีกทั้งทำให้ภัยพิบัติสร้างความเสียหายร้ายแรงขึ้นอีก

จังหวัดเซบูที่มีประชากรกว่า 2.4 ล้านคน ได้ประกาศสถานการณ์ภัยพิบัติเพื่อให้รัฐบาลนำเงินจากกองทุนฉุกเฉินมาให้ความช่วยเหลือได้เร็วขึ้น

ทั้งนี้ เซบู ยังคงอยู่ระหว่างการฟื้นตัวภายหลังประสบภัยแผ่นดินไหวรุนแรงระดับ 6.9 แมกนิจูดเมื่อวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตไปอย่างน้อย 79 คน และผู้คนนับพันนับหมื่นต้องกลายเป็นคนพลัดถิ่นที่อยู่เมื่องบ้านเรือนจำนวนมากพังลงมาหรือไม่ก็ได้รับความเสียหายร้ายแรง

บุญยังรักษาที่ชาวบ้านเรือนพันเรือนหมื่นในบริเวณตอนเหนือของเซบู ซึ่งเป็นพวกที่ต้องพลัดถิ่นที่อยู่เนื่องจากแผ่นดินไหว ได้รับการอพยพไปพำนักออกจากพวกเต็นท์ลี้ภัยที่บอบบาง ไปอยู่ตามที่พักซึ่งแข็งแรงทนทานกว่าก่อนที่ไต้ฝุ่นจะพัดเข้ามา บาริกัวโตร บอก พร้อมกับเสริมว่า ส่วนเมืองเล็กๆ ทางตอนเหนือซึ่งเสียหายหนักหน่วงจากแผ่นดินไหว คราวนี้ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้เจอน้ำท่วมซึ่งเกิดขึ้นจากไต้ฝุ่นคัลแมกี

แต่ละปีฟิลิปปินส์ต้องเผชิญไต้ฝุ่นและพายุราว 20 ลูก รวมทั้งเกิดแผ่นดินไหวบ่อยครั้ง และมีภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นกว่า 10 ลูก นับเป็นหนึ่งในประเทศที่มีแนวโน้มเผชิญภัยพิบัติมากที่สุดในโลก

นอกจากนั้นแม้คัลแมกีเป็นไต้ฝุ่น/พายุลูกที่ 20 ของปีนี้ แต่ชาร์มาญ วาริลลา ผู้เชี่ยวชาญด้านสภาพอากาศ คาดว่า ฟิลิปปินส์อาจต้องเผชิญพายุอีกอย่างน้อย 3-5 ลูกภายในปลายเดือนธันวาคม

(ที่มา: เอพี/เอเอฟพี)
กำลังโหลดความคิดเห็น