ทำเนียบขาวโต้เสียงแข็ง-ยันแค่ข่าวปลอม กรณีสื่อแฉชื่อทรัมป์โผล่ในรายงานคดีฉาว

เอเจนซีส์ – ทำเนียบขาวจวกรายงานของวอลล์สตรีท เจอร์นัลที่ระบุว่า มีชื่อทรัมป์อยู่ในรายงานของกระทรวงยุติธรรมเกี่ยวกับคดีเจฟฟรีย์ เอปสไตน์ เป็นข่าวปลอม

ตามรายงานของวอลล์สตรีท เจอร์นัลที่อ้างอิงการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่อาวุโสหลายคนในคณะบริหารสหรัฐฯ นั้น แพม บอนดี รัฐมนตรียุติธรรม และท็อด บลานช์ รัฐมนตรีช่วยยุติธรรม ได้แจ้งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระหว่างการประชุมที่ทำเนียบขาวเมื่อเดือนพฤษภาคมว่า ชื่อของทรัมป์และ “คนดังอีกหลายคน” ปรากฏอยู่ในเอกสารที่เกี่ยวข้องกับเอปสไตน์ มหาเศรษฐีที่เป็นผู้กระทำผิดทางเพศและได้รับการตัดสินว่า มีความผิด และเสียชีวิตในเรือนจำเมื่อปี 2019

อย่างไรก็ดี แม้ทำเนียบขาวออกมาปฏิเสธทันทีว่า เป็นเรื่องที่กุขึ้น แต่ไม่มีการปฏิเสธโดยตรงเกี่ยวกับสาระสำคัญของรายงานนั้น ซึ่งความคืบหน้าล่าสุดในวันพุธ (23 ก.ค.) บอนดีและบลานช์ออกแถลงการณ์ว่า ไม่มีส่วนหนึ่งส่วนใดในเอกสารข้อมูลที่กำหนดให้ต้องสอบสวนหรือดำเนินคดีเพิ่มเติม และกระทรวงยุติธรรมได้ยื่นคำร้องให้ศาลเปิดเผยบันทึกการประชุมโดยละเอียดของคณะลูกขุนใหญ่ และเสริมว่า กระทรวงฯ รายงานความคืบหน้าของคดีเอปสไตน์ต่อประธานาธิบดีตามปกติ

ช่วงต้นเดือน ก.ค. กระทรวงยุติธรรมสรุปว่า ไม่มีความจำเป็นต้องสอบสวนต่อ สร้างความไม่พอใจอย่างยิ่งให้แก่ฐานเสียงทางการเมืองของทรัมป์ที่เรียกร้องให้เปิดเผยความเชื่อมโยงของเอปสไตน์กับบรรดาผู้ทรงอิทธิพลอย่างโปร่งใสมากขึ้น

สัปดาห์ที่แล้ว วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานว่า เมื่อปี 2003 ทรัมป์ส่งการ์ดอวยพรวันเกิดเอปสไตน์โดยเขียนข้อความว่า “สุขสันต์วันเกิด ขอให้ทุกวันเป็นอีกวันที่มีความลับแสนพิเศษ”

ทรัมป์โต้ว่า การ์ดดังกล่าวเป็นของปลอม และยื่นฟ้องวอลล์สตรีท เจอร์นัล และเจ้าของคือ รูเพิร์ต เมอร์ดอค ทั้งนี้ เอปสไตน์ฆ่าตัวตายในปี 2019 ระหว่างรอการพิจารณาคดีในข้อหาล่อลวงเด็กสาวค้าประเวณี ซึ่งกระทรวงยุติธรรมยืนยันข้อสรุปนี้ในบันทึกในเดือนนี้ ทว่า ผู้สนับสนุนทรัมป์จำนวนมากยังไม่ปักใจเชื่อ

อินฟลูเอนเซอร์ออนไลน์บางคนที่สนับสนุนทฤษฎีสมรู้ร่วมคิดเกี่ยวกับการตายของเอปสไตน์ แสดงความผิดหวังกับคณะบริหารของทรัมป์ ขณะที่ผลสำรวจความคิดเห็นที่จัดทำโดยรอยเตอร์/อิปซอสส์พบว่า คนอเมริกันมากกว่า 2 ใน 3 เชื่อว่า คณะบริหารปิดบังข้อมูลเกี่ยวกับเครือข่ายพวกพ้องของเอปสไตน์

ขณะเดียวกัน บรรดาผู้นำรีพับลิกันในสภาผู้แทนราษฎรที่ถูกกดดันทางการเมืองจากคดีนี้ ได้สั่งปิดสมัยประชุมสภาก่อนกำหนด 1 วันเมื่อวันพุธ เพื่อหลีกเลี่ยงการลงมติเกี่ยวกับการสอบสวนคดีเอปสไตน์ที่อาจสร้างความเสียหาย

ทั้งนี้ สมาชิกเดโมแครตพยายามผลักดันการโหวตเพื่อบังคับให้เปิดเผยข้อมูลทั้งหมดของคดีนี้ ทว่า ไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนฯ ได้ยกเลิกการลงมติ หลังจากไม่มีฉันทามติชัดเจนจากรีพับลิกัน ส่งผลให้รีพับลิกันถูกโจมตีว่า พยายามหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบ

วันเดียวกันนั้น ศาลของรัฐบาลกลางในรัฐฟลอริดาปฏิเสธคำร้องของกระทรวงยุติธรรมที่ต้องการให้เปิดเผยบันทึกการประชุมโดยละเอียดของคณะลูกขุนใหญ่ระหว่างการสอบสวนคดีเอปสไตน์ในปี 2005 และ 2007 ซึ่งถือเป็นการตัดสินครั้งแรกสำหรับคำร้องจำนวนมากของคณะบริหารทรัมป์ที่ต้องการให้เปิดเผยเอกสารเกี่ยวกับเอปสไตน์และกิสเลน แม็กซ์เวลล์ ที่ร่วมกับเอปสไตน์ในการจัดหาเด็กสาวไปค้าประเวณี และปัจจุบันถูกตัดสินจำคุก 20 ปีฐานค้ามนุษย์เพื่อการค้าประเวณีและคดีอาญาอื่นๆ

โรบิน โรเซนเบิร์ก ผู้พิพากษาศาลแขวงสหรัฐฯ ให้เหตุผลว่า คำขอดังกล่าวไม่สอดคล้องกับข้อยกเว้นทางกฎหมายที่จะอนุญาตให้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับคณะลูกขุนใหญ่