ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ฟ้องร้องเอาผิดกับหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัล (WSJ) และ รูเพิร์ต เมอร์ด็อก ที่เป็นเจ้าของสื่อดังกล่าว โดยเรียกร้องค่าเสียหายไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์เมื่อวานนี้ (18 ก.ค.) จากกรณีที่สื่อดังกล่าวลงรายงานอ้างว่ามีชื่อของ ทรัมป์ อยู่บนจดหมายอวยพรวันเกิดที่ส่งให้กับ เจฟฟรีย์ เอปสตีน มหาเศรษฐีค้ากามจอมฉาวเมื่อปี 2003 และยังมีภาพสเก็ตช์ลามกที่อาจสื่อถึง “ความลับ” ที่ทั้งสองรู้กันด้วย
เอกสารคำฟ้องที่ยื่นต่อศาลส่วนกลางในเมืองไมอามีมีการระบุชื่อ รูเพิร์ต เมอร์ด็อก, ดาวน์ โจนส์, นิวส์คอร์ป และ โรเบิร์ต ทอมสัน ที่เป็นซีอีโอ รวมถึงนักข่าวของ WSJ อีก 2 คนเป็นจำเลย โดยอ้างว่าบริษัทและบุคคลเหลานี้จงใจทำลายชื่อเสียงของทรัมป์ และยังทำให้ผู้นำสหรัฐฯ ได้รับอันตรายทั้งในทางการเงินและชื่อเสียง “อย่างรุนแรง”
เอปสตีน เสียชีวิตด้วยการฆ่าตัวตายในเรือนจำนิวยอร์กเมื่อปี 2019 ซึ่งเป็นช่วงที่ ทรัมป์ ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเทอมแรก หลังจากถูกตั้งข้อหาค้ามนุษย์เพื่อการค้าประเวณี โดยเขาถูกกล่าวหาว่าล่อลวงหญิงสาวและเด็กสาวที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะเพื่อให้พวกมหาเศรษฐีที่เขารู้จักมาล่วงละเมิดทางเพศ
คดีของเขาได้นำมาซึ่งทฤษฎีสมคบคิดหลายอย่าง และมีความเชื่อในกลุ่มฐานเสียงของ ทรัมป์ ว่า รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังพยายามปกปิดความสัมพันธ์ระหว่าง เอปสตีน กับบุคคลที่ร่ำรวยและทรงอิทธิพลจำนวนมาก
ทรัมป์ ยืนยันว่า เขา “แยกทาง” กับ เอปสตีน ตั้งแต่ก่อนที่มหาเศรษฐีรายนี้จะเริ่มเผชิญมรสุมทางกฎหมายในปี 2006
ทรัมป์ ยังออกมาปฏิเสธเสียงแข็งเกี่ยวกับรายงานของ WSJ และยังเตือน เมอร์ด็อก ล่วงหน้าว่าตนมีแผนจะฟ้อง
สำหรับ ดาวน์ โจนส์ นั้นเป็นบริษัทแม่ของ WSJ และเป็นหน่วยงานหนึ่งของนิวส์คอร์ป
“เราเพิ่งจะยื่นฟ้องเอาผิดกับทุกๆ คนที่เกี่ยวข้องกับการตีพิมพ์บทความเฟกนิวส์ที่ไม่เป็นความจริง ชั่วร้าย และเป็นการทำลายชื่อเสียงในสื่อผ้าขี้ริ้วที่ไร้ประโยชน์อย่าง วอลล์สตรีทเจอร์นัล” ทรัมป์ โพสต์ข้อความผ่าน Truth Social
“ผมหวังว่า รูเพิร์ต กับพรรคพวกของเขาคงจะเตรียมตัวเผชิญกับการขึ้นให้การต่อศาลยาวนานหลายชั่วโมงสำหรับคดีนี้”
ด้านโฆษกของ ดาวน์ โจนส์ ได้ออกคำแถลงตอบโต้ว่า “เรามั่นใจในความเข้มงวดและความแม่นยำในการรายงานข่าวของเรา และพร้อมที่จะต่อสู้ทุกๆ คดีความอย่างเต็มที่”
เอกสารคำฟ้องของ ทรัมป์ ระบุว่า จดหมายอวยพรวันเกิดที่ถูกอ้างว่ามาจาก ทรัมป์ นั้นเป็นของปลอม และ WSJ ตีพิมพ์บทความนี้โดยมีเจตนาทำลายชื่อเสียงของผู้นำสหรัฐฯ
“บทความของ WSJ ไม่ได้อธิบายว่า กลุ่มจำเลยได้รับสำเนาจดหมายนั้นมา ได้เห็น ได้รับการบอกเล่า หรือในสถานการณ์อื่นๆ ที่จะทำให้บทความนี้มีความน่าเชื่อถือ” เอกสารคำฟ้องระบุ
ทั้งนี้ ทรัมป์ จะต้องแสดงให้เห็นว่าจำเลยที่ถูกฟ้องนั้นกระทำการโดย “มีเจตนามุ่งร้าย” ซึ่งหมายความว่าพวกเขาทราบดีว่าบทความนั้นไม่เป็นความจริง หรือรายงานอย่างสะเพร่าโดยไม่คำนึงถึงข้อเท็จจริง
สำหรับค่าเสียหาย 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐที่ ทรัมป์ เรียกร้องนั้นถือได้ว่าเป็นค่าเสียหายในคดีหมิ่นประมาทที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ
คดีของ เอปสตีน ทำให้ทำเนียบขาวเริ่มอยู่ในภาวะนั่งไม่ติด หลังจากที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ออกมาสรุปในเดือนนี้ว่า “ไม่มีหลักฐาน” สนับสนุนทฤษฎีสมคบคิดเกี่ยวกับกลุ่มลูกค้าและสาเหตุการตายของเศรษฐีค้ากามรายนี้
ข้อสรุปนี้ทำให้แม้แต่กลุ่มผู้ที่ภักดีต่อ ทรัมป์ ยังรู้สึกไม่พอใจที่รัฐบาลกลับลำไม่ทำตามสัญญาเรื่องการเปิดเผยข้อมูลเอกสารต่างๆ เกี่ยวกับ เอปสตีน
บันทึกข้อความที่ออกโดยกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 7 ก.ค. สรุปว่า เอปสตีน กระทำอัตวินิบาตกรรม และไม่มี “ลิสต์รายชื่อลูกค้า” หรือหลักฐานอื่นๆ ว่า เอปสตีน เคยมีการแบล็กเมลกลุ่มผู้มีอิทธิพล
หลังถูกกระแสสังคมกดดันมากขึ้นเรื่อยๆ ทรัมป์ ได้มีคำสั่งเมื่อวันพฤหัสบดี (17) ให้ แพม บอนดี รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอให้เปิดเผยคำให้การของคณะลูกขุนใหญ่ในคดีของ เอปสตีน
ที่มา: รอยเตอร์
